xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ชี้อังกฤษระงับวีซ่าทำ “แม้ว” เร่ร่อน - จวก “ป๊อก” ปาหี่สอบ “แดง-ทหารกุ๊ย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล
“สนธิ” ชี้อังกฤษระงับวีซ่าห้าม “แม้ว-เมีย” เข้าประเทศมีนัยสำคัญ และจะทำให้ประเทศอื่นในยุโรปต้องดำเนินการในลักษณะเดียวกันด้วย เป็นจุดเริ่มต้น “สัมภเวสี” เตือนจีนกระทบสัมพันธ์หากยังให้ใช้ดินแดนทำร้ายสถาบันเบื้องสูง เฉ่ง “เสธ.แดง” ทหารกุ๊ยสงสัย “อนุพงษ์” ตั้งกรรมการสอบปาหี่ นัดเปิดโปงขบวนการทำลายกองทัพวันนี้ (9 พ.ย.)

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย 

วันที่ 8 พ.ย.เมื่อเวลา 20.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปราศรัยบนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเริ่มกล่าวถึง การทำพิธีทางพุทธศาสนาในเวลาประมาณ 09.00 น.วันที่ 9 พ.ย. โดยขอรับอาสาสมัครที่เป็นสุภาพตรีที่ปฏิบัติธรรมนุ่งขาวหุ่มขาวจำนวนหนึ่งทำพิธีพรมน้ำมนต์ปัดกวาดสิ่งชั่วร้ายรอบทำเนียบรัฐบาล ถ้ามองอีกนัยหนึ่งเหมือนกับเป็นการแก้เคล็ด ทำความสะอาดเพื่อรอต้อนรับชัยชนะที่กำลังมาถึง

จากนั้น นายสนธิได้พูดถึงกรณีที่ประเทศอังกฤษระงับวีซ่าเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ถือว่าเป็นนัยที่สำคัญมาก เพราะจะส่งผลให้หลายประเทศในยุโรปต้องทำเหมือนกัน และว่าเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศอังกฤษไม่ได้ทั้งที่ได้ลงทุนซื้อบ้านเตรียมลงหลักปักฐานเอาไว้มากทำให้ต้องเริ่มต้นเป็นสัมภเวสีอย่างแท้จริง เหมือนที่ พ.ต.ท.ทักษิณโกหกเอาไว้ตอนโฟนอินว่าครอบครัวแตกแยก พ่อไปทาง แม่ไปทาง ลูกไปทาง แต่ตอนนั้นมีภาพถ่ายยืนยันว่ายังอยู่ด้วยกันทั้งครอบครัว

นายสนธิ ระบุว่า ตอนนี้หลังจากออกจากฮ่องกงก็ไปฟิลิปปินส์แล้ว และจะเลาะตะเข็บประเทศไทยไปเรื่อย ขณะเดียวกัน อยากฝากบอกไปยังผู้นำรัฐบาลจีนว่า ถ้าหากให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีมานานต้องกระทบกระเทือนก็อย่าให้คนที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศ หรือใช่ฮ่องกง หรือใช้ดินแดนจีนทำร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา

นายสนธิ กล่าวกับพี่น้องที่ร่วมชุมนุมว่า ไม่ต้องบอกว่าท้อใจ เพราะตั้งแต่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดแล้วว่า พวกเขา(ระบอบทักษิณ) แพ้มาตลอด ถ้าจะเสียใจที่น้องโบว์กับสารวัตรจ๊าบต้องเสียชีวิต แต่ถ้ามองอีกมุมก็เป็นการยืนยันให้เขาพ่ายแพ้มากกว่าเก่า และการระงับวีซ่าครั้งนี้พวกเราก็มีส่วนกดดันไม่มากก็น้อย

นายสนธิ กล่าวว่า คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชอบกินไวน์ราคาแพง ชอบบรรยากาศยุโรป ดังนั้นการไปประเทศแถบเอเซีย ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย แล้วไปสิงคโปร์ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็อยากรู้ว่าผู้นำสิงคโปร์อยากเป็นศัตรูกับคนไทยอีกครั้งหรือเปล่า หรืออาจจะไปประจำอยู่ที่กรุงพนมเปญก็ได้

นายสนธิยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชอบอ้างว่ามีประเทศนั้นประเทศนี้ต้องการให้ไปเป็นพลเมืองว่า ถ้าลองไล่เรียงแต่ละประเทศแล้วก็จะมี เช่น โตโก แอฟริกากลาง ซึ่งคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่มีวันไปอยู่เป็นอันขาด

นายสนธิ ได้กล่าวถึง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่พูดจาข่มขู่ให้ตนและ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ยอมจำนนแล้วออกจากทำเนียบฯ ว่า ตนเองจะไม่ตอบแต่จะให้พี่น้องตอบแทนว่าจะยอมจำนนหรือไม่ ซึ่งได้รับเสียงตอบว่าไม่ยอมอย่างกึกก้อง

นายสนธิ ตั้งข้อสังเกตว่า บทบาทและคำพูดของ พล.ต.ขัดติยะ เป็นนายทหารสังกัดกองทัพบกแต่ทำตัวเป็นกุ๊ย ทหารไม่อายบ้างหรืออีกทั้งนายทหารยศนายพลที่พระเจ้าอยู่หัวต้องโปรดเกล้าฯ แต่ทำตัวเลวแบบนี้ได้อย่างไร

“อยากถามคุณอนุพงษ์ ว่านี่เป็นตัวอย่างทหารของคุณหรือ หรือว่าคุณรู้เห็นเป็นใจ หลิ่วตาข้างหนึ่ง การตั้งกรรมการสอบเป็นแค่ปาหี่ เพราะถ้าตั้งกรรมการสอบจริงต้องกักบริเวณไม่ให้ออกมาเพ่นพ่าน หรือว่าคุณเป็นคนบงการ” นายสนธิ ตั้งข้อสังเกต และว่าวันที่ไปออกทีวีวาไรตี้ได้แอบตกลงกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไว้ล่วงหน้าว่าถูกบีบให้ต้องพูดแบบนั้น แต่ไม่ต้องกังวลไม่มีปัญหา หรือไม่

“คุณอนุพงษ์ คุณเน่ามาตั้งแต่วันที่คุณออกทีวี ที่บอกว่าถ้าผมเป็นนายกฯ ผมจะลาออก แต่เมื่อนายสมชายไม่ออก เวลานี้คุณก็ไม่พูดอีกเลย ซึ่งพรุ่งนี้ (9 พ.ย.) ผมจะพูดเรื่องที่ทหารและกองทัพไม่มั่นคงอย่างไรหลังจากที่มีผู้นำชื่ออนุพงษ์ เพราะตามหลักแล้วผู้บัญชาการทหารบกต้องแสดงออกพร้อมกับนายทหารตบเท้าให้หยุดแสดงพฤติกรรมทำลายชาติ แต่คุณเจ๊งตั้งแต่เดินตามตูดนายสมัคร และตามนายสมชายอีก แล้วอย่างนี้ราชบัลลังก์จะพึ่งพาได้อย่างไร” นายสนธิ ระบุ

นายสนธิ กล่าวว่า เวลานี้ดูไม่ออกหรือว่าเวลานี้มันเป็นเรื่องความมั่นคง ไม่ใช่เรื่องการเมือง และการชุมนุมที่ปักหลักมานานกว่า 160 วันว่าเราสู้เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และถ้าไม่โง่จนเกินไปก็น่าจะรู้ว่าพวกเสื้อแดงมันทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ แถมยังบังอาจไปสนับสนุนการสานเสวนาเสียอีก ซึ่งวันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ได้ทำลายความภาคภูมิใจของคำว่าลูกผู้ชายชาติทหารไปแล้ว

นายสนธิ กล่าวในตอนท้ายโดยเชื่อว่าไม่น่าจะเกินต้นเดือนธันวาคมจะมีการพิพากษายุบพรรคแล้ว ดังนั้นจึงเป็นร้อยเมตรแห่งความเข้มข้นแม้จะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องทน เพราะเรามาไกลเกินกว่าจะถอยได้แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น