xs
xsm
sm
md
lg

“พิภพ”เชื่อ “แม้ว”ยังห่วงสมบัติแสนล้าน ทำยึกยักไม่กล้าหนีคดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิภพ ธงไชย
“พิภพ” ชี้ “แม้ว”เลี่ยงคุกได้สถานเดียวคือหนีออกนอกประเทศ เพราะปัญหาไม่เข้าข่ายที่จะขอลี้ภัยทางการเมืองได้ เชื่อ ที่ยังใจกล้าหน้าด้านอยู่ เพราะห่วงสมบัตินับแสนล้านที่ถูกอายัติค้างเติ่งอยู่ในกระบวนการชั้นศาล ขณะเดียวกัน เรียกร้องขรก.ที่ยังมืดมัว เปิดตาดูธรรม ออกมาหนุนพันธมิตรฯทั่วประเทศได้แล้ว ย้ำ 9โมงเช้าพรุ่งนี้ ร่วมแสดงแสนยานุภาพเคลื่อนพลไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย 

วันนี้(1ส.ค.)เมื่อเวลา 22.02น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า ขณะนี้ข้าราชการจำนวนมากปรับตัวสนับสนุนพันธมิตรฯเป็นจำนวนมากขึ้นแล้ว หลังจากเราตั้งคณะกรรมการพลังแผ่นดินประสานกับข้าราชการ เห้นได้ว่าสัญญาณเอเอสทีวี และวิทยุชุมชนของพันธมิตรฯ รวมทั้งการขัดขวางการเดินทางเข้าร่วมชุมนุมของพี่น้องในต่างจังหวัดหมดไปแล้ว และการเตรียมการรักษาความปลอดภัยให้พันธมิตรฯ กำลังเกิดขึ้นอย่างคึกคัก ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการกล้าเปิดตัวเป็นพยานให้พันธมิตรฯ ถึงเวลาจะประกาศให้ข้าราชการที่ยังไม่กลับตัวมากู้ชาติกับพันธมิตรฯ เรียกร้องให้สนับสนุนและร่วมมือกับพันธมิตรฯ ซึ่งเราจะร่างประกาศส่งเชิญชวนต่อไป ข้าราชการพ่อค้า ประชาชนที่แอบช่วยเราอยู่ข้างหลัง แสดงตัวได้แล้ว เพราะว่ารัฐบาลหุ่นเชิดกำลังจะหมดอำนาจ

นายพิภพ กล่าวว่า กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ปรึกษากันแล้วว่าเขาจะลี้ภัยได้หรือไม่ เขาไม่ยอมติดคุกแน่ๆ แต่ถ้าคดีผิดจริงก็ต้องลงโทษ ซึ่งได้ความว่า กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณจะลี้ภัยไม่ได้ เพราะไม่มีความขัดแย้งทางการเมืองกับรัฐบาล เพราะการลี้ภัยต้องยื่นเรื่องต่อข้าหลวงผู้ลี้ภัยขององค์การสหประชาชน และต้องอาศัยเหตุผลความขัดแย้งทางการเมืองของรัฐบาล เมื่อได้รับอนุญาตแล้วก็ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์การข้าหลวงผู้ลี้ภัย จะเดินทางไปไหนมาไหนตามอำเภอใจไม่ได้ และต้องใช้หนังสือเดินทางของสำนักงานข้าหลวงผู้ลี้ภัยด้วย

“กรณีนี้จึงเป็นได้แค่หลบหนีคดีไปอยู่ในประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนเท่านั้น ลี้ภัยกับหลบหนีเป็นคนละเรื่องกัน แต่คนอาจจะถามว่าทำไมคุณทักษิณยังไม่คิดหลบหนี เพราะว่าห่วงเงิน 76,000ล้านบาท และคดีต่างๆอีก 20คดี รวมทั้งคดีของคตส.ด้วย มีมูลค่าถึง 1.8แสนล้านบาท คุณทักษิณห่วงตัวนี้ ถ้าชนะคดีหมดเราจะได้เงินคืนแผ่นดินจำนวนมหาศาล”นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ กล่าวต่อว่า คำตัดสินของศาลเมื่อวานนี้ คุกคามจิตใจของพ.ต.ท.ทักษิณมาก ดูจากอาการเครียด อาการจับมือ บดมือ บีบมืออย่างรุนแรง ซึ่งคนที่สนิทกับตนและคุณทักษิณบอกว่านั่นคืออาการโกรธถึงที่สุดแสดงความเครียดของคุณทักษิณ แน่นอน พวกเราทุกศาสนามีเมตตาก็จะมาแผ่ให้ แต่ผิดก็ต้องยอมรับผิดและดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนั้น นายพิภัย ยังแจ้งว่า นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แจ้งว่า อาจารย์ที่ลงชื่อประท้วงการใช้ความรุนแรงที่อุดรธานีนั้น ไม่ได้มีแค่ 145 คน เพราะเขาปิดลงชื่อตอนเที่ยงเพื่อแถลงข่าวให้ทัน แต่หลังจากนั้นมีทะยอยลงชื่อได้ถึง 200กว่าคน

ทั้งนี้ นายพิภพ กล่าวว่า วันนี้เราได้อะไรจากการร่วมมือร่วมใจของพี่น้องที่มาแสดงพลังนับแสนรวมทั้งผู้ชมเอเอสทีวี และตามสื่อต่างๆอีกรวมทั้งสิ้นแล้วคิดว่าถึง 20ล้านคน กำลังตัดสินประเทศนี้ การที่เราได้เป้าหมายและชัยชนะมาเรื่อยๆ เพราะพ่อแม่พี่น้องเอาธรรมนำหน้า และก็ยึดมั่นในอหิงสา สันติวิธี ไม่เคยไปรุกรานเขาเลย แต่เขากลับมารุกรานและใช้ความรุนแรงกับเรา ยิ่งทำให้คนที่ลังเลกลับมาสนับสนุนอีกเท่าตัวเลย

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ทั้งหมดทำให้สังคมเกิดความจริง ที่ได้ถูกเปิดเผยขึ้นแล้วก็ทำให้เกิดความดี แล้วก็เกิดความงามตามมา เราได้สร้างความจริงความดีและความงามให้กับแผ่นดินไทย เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และตอนนี้เรากำลังสร้างระบบนิติรัฐ ซึ่งเป็นระบบเดียวที่อ่อนแอที่สุดในสังคมไทย ถ้าระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จะรักษาชาติศาสน์กษัตริย์และประชาขนไว้ได้ จะต้องนำทางสังคมไปสู่ระบบนิติรัฐ ดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จนทำให้เกิดการอภิวัฒน์ในเรื่องตุลาการ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ การขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดจึงเป็นหน้าที่ของเรา เพราะรัฐบาลหุ่นเชิดพยายามขัดขวางไม่ให้ประเทศไทยเดินทางไปสู่ระบบนิติรัฐเพื่อเขาจะได้ฉ้อราษฎร์บังหลวงได้อย่างเต็มที่ เราปกป้องกระบวนการยุติธรรม คืองานของเรา วันนี้เรามาปกป้องกระบวนการยุติธรรม ทำงานสนับสนุนตุลาการฯ จนพิพากษาคดีไปแล้วหนึ่งคดีให้คุณหญิงพจมานติดคุก 3ปี

นายพิภพ กล่าวอีกว่า เรายังสร้างดุลทางการเมือง เพราะระบบประชาธิปไตยของเรา อำนาจตุลาการไม่ได้ทำงานแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่รุมเร้าอยู่ และไม่สามารถคานกับอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหารที่ฮั๊วกันอยู่ได้ ฉะนั้นวันนี้เราได้สร้างดุลทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นแล้วคือ ให้อำนาจตุลาการตรวจสอบได้ และยิ่งทำให้อำนาจตุลาการเป็นอำนาจที่มีอำนาจขึ้นมาในระบอบการปกครองแบบประชาธิไตย เพราะเราเจริญรอยตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเรื่องตุลาการภิวัฒน์ คือเราใช้อำนาจการเมืองภาคประชราชนทำให้อำนาจตุลาการมีขึ้นมาตรวจสอบ

นายพิภพ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น เราได้ขจัดนักการเมืองชั่วในรัฐบาล ขจัดไปไม่ได้แต่ก็ได้เปิดความชั่วในรัฐบาลมากขึ้น ว่าระบบการเมืองเก่าเละเทะยังไง เราได้สร้างนักการเมืองใหม่ ตอนนี้มีนักการเมืองใหม่เริ่มจะปรากฏตัวขึ้นเพื่อรองรับการเมืองใหม่ เราสร้างการเมืองใหม่ทางความคิดและพฤติกรรมเพื่อรองรับการเมืองใหม่ เมื่อการเมืองเก่าได้ล่มสลายลง นี่คืองานของเรา

นายพิภพ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญนิติรัฐ จะทำงานหนักมาก อย่างที่นายธีรยุทธ บุญมี ว่าไว้ เพราะเรามีปัญหาเรื่องจริยธรรมของนักการเมือง เมื่อมีจริยธรรมต่ำ ก็จะเล่นแง่กฎหมายให้คดีถึงที่สุดถึงจะลาออก ทั้งที่ความผิดชัดแจ้งแล้ว ฉะนั้นถ้าเราปล่อยไว้ ตุลาการในอนาคตจะทำงานหนักมาก อาจจะล้า

“ฉะนั้นวันนี้ที่เราต้องการสร้างมิติการเมืองใหม่ก็คือต้องสร้างอำนาจจริยธรรม ถ้าสร้างไม่ได้ ประเทศไทยหนัก การเปลี่ยนแปลงจะช้า ซึ่งการสร้างอำนาจจริยธรรมไม่ได้มาสร้างบนถนนราชดำเนิน หรือทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น จะต้องสร้างตั้งแต่ครอบครัว โรงเรียน มหาวิทยายลับ ให้เป็ฯตัวกำกับพฤติกรรมของเขาตั้งแต่ครอบครัว โรงเรียน มหาวิทยาลัย และในสังคม แล้วสุดท้ายมาถึงระบบเศรษฐกิจ ถ้านักธุรกิจไม่มีจริยธรรมก็จะร่วมกันโกงกินกับนักการเมือง ไม่เห็นหัวประชาชนที่เป็นผู้บริโภค จะต้องสร้างหลายระดับ สุดท้ายก็ต้องสร้างในการเมืองก็คือนักการเมือง ระบบการเมือง และพรรคการเมือง เรื่องนี้เป็นงานสำคัญที่เราจะต้องไม่หยุด”นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ กล่าวว่า ทั้งหมดสรรุปให้เห็นเพ่อรู้ว่าสิ่งที่เราเดินมา เหนื่อยยากอดทน ทำความดี ความงาม ความจริง เขื่อมันในหลักอหิงสา เอาธรรมะนำหน้า เชื่อมั่นในสันติวิธี เราชนะมา 29 เรื่องแล้ว แล้วใน 29 เรื่อง และในเรื่องต่อๆไป จะทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ระบบนิตินรัฐ จะยกระดับจริยธรรมของสังคมสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม นายพิภพ กล่าวด้วยว่า พรุ่งนี้( 2ส.ค.) อย่าลืม 9.00น. เราจะแสดงพลังใหญ่ เดินจากนี้ไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปวัดพระแก้วให้เต็มถนนราชดำเนินเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น