“สนธิ” เหลืออด! เฉ่ง “สุเมธ ตันติเวชกุล” ไม่เคยรู้ร้อนรู้หนาวกับพวกที่ออกมาจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ขายอธิปไตย ชอบใช้สถานะตำแหน่งโครงการหลวงมาตีกินเล่นบทพระเอกโดยไม่ดูตามม้าตาตาเรือ ขณะเดียวกัน เปิดโปงสถานะ กบข.เริ่มมีปัญหาหลังจากถูกนำเงินไปลงทุนตราสารหนี้ฝรั่งแล้วขาดทุนกว่า 10 เปอร์เซ็นต์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล โดยย้อนอดีตสมัยที่เริ่มเปิดโปง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เข้าไปทำพิธีที่วัดพระแก้วเมื่อปี 2548 ว่าเป็นการตีเสมอเจ้าและถูกกล่าวหาว่าดึงฟ้าต่ำ แต่มาวันนี้ในปี 2551 ผู้บัญชาการทหารบก และปลัดกระทรวงมหาดไทย เพิ่งสั่งจัดการต่อผู้ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เว็บไซต์ที่จาบจ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แสดงว่าสิ่งที่ตนพูดไว้นั้นไม่ผิด เพียงแต่มีบางคนที่ไม่ยอมเชื่อ จนกระทั่งเวลาผ่านไปและความจริงปรากฏ
จากนั้น นายสนธิได้กล่าวถึง นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ที่กล่าวเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเจรจา ใช้สันติวิธีเพื่อคลี่คลายปัญหาบ้านเมืองว่า นายสุเมธชอบทำตัวเป็นนักสันติวิธี โดยที่ไม่เคยรับรู้เรื่องราวหรือเคยรู้ร้อนรู้หนาวใดๆ เลย ไม่เคยรู้เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีพฤติกรรมดูหมิ่นสถาบัน นายจักรภพ เพ็ญแข นางดา ตอร์ปิโด ที่พูดจาจาบจ้วงพระเจ้าอยู่หัว นายสุชาติ นาคบาคไทร ที่ถูกออกหมายจับข้อหามิ่นพระบรมเดชานุภาพ พวก นปก.กลุ่มคนรักเชียงใหม่ที่บอกว่าจะเคารพกราบไหว้เฉพาะกษัตริย์ล้านนาเท่านั้น
“นายสุเมธไปนอนหลับที่ไหนมา ถึงไม่รู้เรื่องแล้วชอบออกมาตีกินอยู่เรื่อย นายสุเมธต้องเลิกพฤติกรรมแบบนี้ เพราะคนไทยรู้ทัน บอกให้สามัคคี ทำไมไม่ไปบอกตำรวจให้หยุดฆ่าประชาชน คุณไม่รู้ร้อนรู้หนาวที่มีคนตาย-คนเจ็บไปกว่า 400 กว่าคน ดังนั้น ทางทีดีให้หุบปาก แล้วอย่าทะลึ่งออกมาให้ความเห็นแบบนี้อีก” นายสนธิ ระบุ และว่าประเทศไทยไม่ไปไหนเพราะมีคนอย่างนายสเมธแบบนี้แหละ และน่าเสียดายที่เป็นคนทำงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท มาพูดแบบนี้ แทนที่จะห้ามไม่ให้ใครก็ตามมาจาบจ้วงพระเจ้าอยู่หัว
นายสนธิ ย้ำว่า พวกเราไม่ได้ไปทะเลาะกับใคร ถ้าพวกมัน(ระบอบทักษิณและลิ่วล้อ) ทำดี ไม่ขายบ้านเมืองก็จะไม่เกิดเหตุการณ์ 19 ก.ย.แล้วมาถึงยุคนายสมัคร สุนทรเวช ก็ยังปล่อยให้มีการจายจ้วง ขายอธิปไตย ถึงยุคนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็เหมือนกัน บอกว่าอย่าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเองก็ยังแก้
“เราสู้ไม่ให้ฉ้อราษฎร์บังหลวง เราผิดด้วยหรือ หรือให้เคารพกฎหมาย ให้หยุดจาบจ้วงพระเจ้าอยู่หัว เราผิดด้วยหรือ แล้วจะให้เราสมานฉันท์กับพวกมัน จะบ้าหรือเปล่า นายสุเมธชอบใช้สถานภาพที่เป็นคนทำโครงการหลวงแล้วมาตีกิน คนพวกนี้ชอบโผล่ในบางช่วงเพื่อเป็นพระเอก มันน่าเจ็บใจที่ยังมีคนแบบนี้” นายสนธิ กล่าว พร้อมทั้งเตือนนายสุเมธให้หยุดพูดแบบนี้อีก แล้วไม่ต้องออกมาสวน เพราะไม่เช่นนั้นจะโดนสวนกลับไปอีก 20 หมัด รวมทั้งจะแฉเรื่องในอดีตให้คนได้รู้
นายสนธิ กล่าวว่า เวลานี้ในสังคมมีสองอย่าง คือ ถูก หรือผิด เท่านั้น ไม่มีถูกมั่งผิดมั่ง การสมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้เมื่อยอมรับว่าสิ่งไหนถูกหรือผิด
จากนั้น นายสนธิได้กล่าวเตือนเรื่องเศรษฐกิจ เนื่องจากเวลานี้เศรษฐกิจโลกกำลังล่มสลาย วันนี้ตลาดหลักทรัพย์ของไทยตกลงมาต่ำกว่า 400 จุดแล้ว และตลาดหุ้นทั่วโลกก็ตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย ดังนั้น ทางรอดมีทางเดียว คือ ต้องไล่รัฐบาลนี้ออกไปให้ได้ และต้องยกเลิกการเป็นหนี้ โดยยกเลิกโครงการใหญ่บางโครงการที่ไม่มีประโยชน์และสร้างหนี้ให้คนไทย เช่นต้องยกเลิกการเช่ารถเมล์ 4 พันคัน เลิกการจ่ายเงินปันผลของ ปตท.แล้วลดราคาน้ำมัน ช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนกระจายไปถึงชุมชน โดยเร่งรัดการพึ่งพาตัวเองแบบเศรษฐกิจพอเพียง และส่งเสริมการออมเท่านั้น
นายสนธิ กล่าวว่า เวลานี้มี 3 ประเทศที่เข้าโครงการของไอเอ็มเอฟแล้ว คือ โปแลนด์ ยูเครน และฮังการี และจะตามมาอีกหลายประเทศ
ในตอนท้าย นายสนธิได้กล่าวเตือนข้าราชการที่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ว่าที่ผ่านมามีความพยามเลียนแบบการลงทุนแบบฝรั่งที่ทำให้ประเทศในตะวันตกเจ๊งอยู่ในขณะนี้ นั่นคือการนำเงินจากกองทุนดังกล่าวไปลงทุนในตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และเจ๊งไปแล้วประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
“ตอนนี้กำลังปิดข่าวกันเงียบ เพราะไปลงทุนในตลาดตราสารทั่วโลกแล้วเจ๊งตามกันไป ผมท้าให้ออกมาโต้ จะได้รู้ความจริงว่าใครโกหก” นายสนธิกล่าว