“สนธิ” เผยเตรียมนำผู้เสียหายจากเหตุการณ์ฆ่าประชาชนยื่นคัดค้านการตั้งคณะกรรมการสอบสวนของรัฐบาล เพราะมีส่วนได้เสีย อัดสื่อไม่ทำหน้าที่-บิดเบือน ทำให้สังคมวิกฤต ขณะเดียวกัน กระชากหน้ากาก “อนุพงษ์” ออกทีวีเล่นปาหี่เพื่อเคลียร์ตัวเองว่าไม่ได้รับเงิน “ทักษิณ” ทั้งที่รู้อยู่แก่ไจ ชี้โกหกอย่างเป็นขั้นตอน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันนี้ (17 ต.ค.) เมื่อเวลา 21.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีที่ทำเนียบ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.) ถ้าดำเนินการได้ทันจะให้ทนายความยื่นเรื่องคัดค้านการตั้งคณะกรรมการของรัฐบาลที่มาสอบสวนการสลายชุมนุมของประชาชนเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีส่วนได้เสียกับเหตุการณ์ดังกล่าว
นายสนธิ กล่าวว่า ในวันนี้ พันธมิตรฯ ได้ไปแจกซีดีและหนังสือจำนวน 1.5 แสนชุด เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ เพราะยังมีอีกมากที่คนในสังคมนี้ยังไม่รู้ความจริง แม้ขนาดนายตำรวจระดับอดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจยังไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริง
นายสนธิ กล่าวเตือนว่า อย่าไปหลงประเด็น คนที่สั่งฆ่าประชาชนคนแรก คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และต้องรับผิดชอบ และ นายสมชาย จะทำให้คนในตระกูลต้องอับอายขายหน้าไปชั่วลูกชั่วหลาน และว่า กำลังจัดพิมพ์หนังสือเพิ่มอีกเล่นหนึ่ง ที่ระบุชือว่า มีใครบ้างที่ต้องรับผิดชอบต่อการตายของประชาชน ดังนั้น ความจริงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ที่ยังมีคนโง่อีกไม่น้อย เพราะเข้าไม่ถึงความจริง
นาสนธิยังได้วิพากษ์วิจารณ์สื่ออีกว่า สาเหตุที่สังคมเป็นแบบนี้เพราะสื่อไม่ได้ทำหน้าที่ที่ควรจะทำ หากสื่อโดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์รายงานความจริง บ้านเมืองก็จะไม่ตกต่ำถึงขนาดนี้ เพราะนอกจากไม่ทำหน้าที่แล้ว ยังไม่รู้ความจริง ขณะเดียวกัน ยังมีความเชื่อที่ผิดๆ อีกด้วย ดังนั้น วิกฤตของสังคมขณะนี้ ยังเป็นวิกฤตของสื่ออีกด้วย การเป็นกลางต้องอยู่บนพื้นฐานแห่งธรรม ถ้าไม่มีก็ไม่ใช่
จากนั้น นายสนธิ ได้กล่าวถึงพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ไปออกรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” ทางช่อง 3 อ้างว่าไม่ทราบว่าเหตุรุนแรงในตอนเช้าวันที่ 7 ต.ค. แต่รู้ในภายหลังและบอกว่าถ้าตนเป้นนายกรัฐมนตรีคงลาออกไปแล้ว โดยนายสนธิระบุว่า เป็นการโกหกได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งที่ผ่านมาเคยรับปากกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งว่าจะไม่ทำร้ายประชาชน
“คุณอนุพงษ์โกหกอย่างหน้าด้านๆ ไม่สมกับคนแต่งเครื่องแบบ” นายสนธิ ระบุ และว่า พล.อ.อนุพงษ์ โกหกที่บอกว่า ตนเองมารู้เรื่องเอาเมื่อตอนเย็นแล้ว หรือโกหกที่บอกว่า หากเอาทหารออกมาจะต้องปะทะกับตำรวจนั้น ถามว่า ถ้าเอาทหารมาขวางแล้วสั่งให้ตำรวจหยุด ถ้าไม่หยุดก็ต้องยิงเพื่อรักษาประชาชน หรือถ้ารู้ตอนเย็นทำไมไม่เอาทหารมากั้นในตอนค่ำ
“ที่บอกว่ายืนข้างประชาชนที่แท้ก็ยืนข้างศพประชาชน เพราะฉะนั้น คุณอนุพงษ์ก็มีส่วนสมรู้ร่วมคิดในการฆ่าประชาชนด้วย” นายสนธิ ระบุ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตอีกว่า ทำไมต้องรอตั้ง 10 วัน ถึงออกมา เพราะถ้าจริงใจแม้กระทั่งตอนเย็นวันนั้น (7 ต.ค.) ต้องออกมาแล้วบอกว่า นายสมชาย ต้องลาออก ทำไมเมื่อวานพูดว่าถ้าผมเป็นนายสมชาย ต้องลาออก แถมที่ผ่านมายังไปยืนข้างหลังนายสมชาย ให้ประชาชนได้เจ็บใจอีก
นายสนธิยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ทำไมต้องไปออกรายการที่ช่อง 3 ทำไมไม่ตั้งโต๊ะแถลงที่กองทัพไทย แล้วเชิญสื่อทุกช่องไป ดังนั้น สรุปก็คือเป็นการชี้แจงว่าไม่ได้รับเงิน 50 ล้านจากทักษิณ และลูกไปเรียนหนังสือที่อังกฤษไม่ได้เจอทักษิณ สรุปก็คือ เพื่อเคลียร์ตัวเองเรื่องนี้ เป็นการจัดฉากเพื่อเคลียร์ตัวเองเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นเป็นของแถม
นายสนธิ ตั้งคำถามถึง พล.อ.อนุพงษ์ ว่า รู้หรือไม่ว่า พ่อหลวงและแม่หลวง ช้ำพระทัยแค่ไหน แม้ขนาดส่งทหารเสนารักษ์ไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ มันยังยิงได้ หรือถ้าจงรักภักดีจริงทำไมไม่จัดการกับพวก นปก.เสื้อแดงที่มันจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง
“จะรับเงินของคุณทักษิณ หรือเปล่าคุณรู้อยู่แก่ใจ แต่วันนี้พฤติกรรมหลายอย่างทำให้สงสัยว่ารับเงิน และยังทำบาปกับกองทัพด้วย โกหกว่า ลูกสาวไปเรียนอังกฤษไม่ได้ติดต่อกับคุณหญิงพจมาน และ คุณทักษิณ ผมเสนอให้คุณลาออกแล้วไปอยู่ที่ลอนดอนเสียเลย เพราะอยู่ไปก็ทำให้กองทัพเสื่อมเสีย” นายสนธิ ระบุ
นายสนธิ ตั้งคำถามว่า พล.อ.นพงษ์อายน้องโบว์หรือไม่ ทั้งที่เป็นแค่ลูกจีนที่รักชาติ แต่คุณไม่อายหรอก เพราะใจคุณอยู่ที่ลอนดอนอยู่แล้ว และเวลานี้คนเขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า การออกทีวีเมื่อวานนี้น่าจะเป็นรายการทหารบันเทิง โดยมีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ดำเนินรายการ
นายสนธิ กล่าวว่า ถ้าแน่จริงทำไมไม่แถลงที่กองทัพไทยแล้วเริ่มต้นด้วยการขอโทษประชาชน จากนั้นก็เรียกร้องให้ นายสมชาย ลาออก พร้อมทั้งให้ตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อหาคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย แต่ที่ออกทีวีเมื่อวานนี้ สงสัยว่า ได้จับมือกับนายสมชาย เล่นปาหี่กันหรือไม่ เพราะผู้บัญชาการเหล่าทัพที่ไปล้วนแต่เป็นพวกเดียวกัน ตั้งแต่ผูบัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่เป็นคนสนิทของ พล.ร.อ.สถิรพันธ์ เกยานนท์ คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ยกเว้นผู้บัญชาการทหารอากาศเท่านั้นที่ต้องปรบมือให้
“คุณหยุดฟอกตัวเองเสียที เพราะไม่มีใครเชื่ออีกต่อไป และขอเตือนว่า ทุกอย่างไม่อาจหลบซ่อนตลอดไป เมื่อถึงตอนนั้น มีชีวิตอยู่ไม่สู้ตายเสียดีกว่า” นายสนธิ ระบุ