“สนธิ” ย้อนอดีตเชื่อมโยงพรรคพลังประชาชนโกงการเลือกตั้งเป็นนอมินีไทยรักไทยเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ย้ำต่อสู้เพื่อทวงประเทศไทยให้ลูกหลานไม่ได้หวังเป็นนายกฯ หรือเป็นรัฐมนตรี นัดเปิดโปง “ระบอบแม้ว-ฮุนเซน” ร่วมสูบเลือดคนไทยพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) อีกรอบ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันนี้ (20 ก.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พวกเรามารวมกันที่นี่เพราะสังคมการเมืองไทยไม่ได้เปิดช่อง หรือถ้ามีช่องแต่ก็ไม่ได้ดำรงความยุติธรรมและไม่จัดการกับรัฐบาลชั่วๆ เหล่านั้น
นายสนธิ ได้ทบทวนเหตุการณ์ในอดีตตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มาจนถึงพรรคพลังประชาชน และรัฐบาลชุดนี้ โดยเริ่มจากพรรคไทยรักไทยที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคเนื่องจากมีพฤติกรรมที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต่อมามีการยืนยันทั้งนิตินัยและพฤตินัยว่าพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย และต่อมา กกต.ก็สรุปว่าเป็นนอมินี ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ยอมรับว่าพรรคพลังประชาชนมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และชัดเจนที่สุดก็คือล่าสุด กกต.ตัดสินให้ยุบพรรค
นายสนธิ กล่าวว่า ด้วยเหตุผลต่างๆดังกล่าวมาทำให้พรรคพลังประชาชนจึงเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จึงมีเหตุผลที่เราต้องออกมาขับไล่และต่อมาเป็นรัฐบาลยังทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 กรณีออกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาเรื่องเขาพระวิหารที่ไม่ผ่านรัฐสภา นอกจากนี้ยังมีเจตนาฉ้อราษฎร์บังหลวง มีการลุกแก่อำนาจสั่งตำรวจสลายการชุมนุม ดังนั้นความผิดทั้งหมดนี้จึงมีเหตุผลต้องออกมาไล่ ให้รัฐบาลชุดนี้ออกไป
จากนั้น นายสนธิ ได้กล่าวว่า ตำรวจสามารถมาสลายการชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลตลอดเวลา ทว่าตนเตือนว่าในวันรุ่งขึ้นจะมีคนออกมาทั่วประเทศเป็นเรือนแสนเรือนล้าน และอาจเกิดจลาจลทั่วประเทศ ดังนั้นคนที่คิดสลายการชุมนุมก็ขอให้คิดให้ดี
จากนั้น นายสนธิได้ตั้งข้อสังเกตสื่อบางฉบับ และคอลัมนิสต์บางคน ที่พยายามบิดเบือนโดยได้ลงรูปภาพของตนเองที่ใส่หมวกแก๊ปแล้วพยายามเปรียบเทียบให้เหมือนเช กูวารา นักปฏิวัติในอเมริกากลาง-อเมริกาใต้ โดย นายสนธิ ย้ำว่ ตนไม่ใช่ เช แต่เป็นลูกจีนที่รักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ โดยสาเหตุที่ออกมาต่อสู้พร้อมแกนนำพันธมิตรฯก็คือต้องการเอาประเทศไทยของประชาชนคืนมา บนพื้นฐานความดีต้องชนะความชั่ว
“พวกผมไม่ได้สู้เพื่อจะเป็นรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี แต่เราต่อสู้เพื่อลูกหลานเราในอนาคต ให้มีที่ยืนบนแผ่นดินด้วยความเสมอภาคกันทุกแห่ง” นายสนธิ ระบุ และว่า ตอนนี้คอลัมนิสต์บางคนยังบิดเบือนว่าการประท้วงของพันธมิตรฯ เหมือนกับการประท้วงในฝรั่งเศสที่ไม่สำเร็จเพราะรัฐบาลฝรั่งเศสได้รับการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมากว่า โดยสื่อบางคนก็มักจะยึดเอาแต่เลือกการเลือกตั้ง แต่ที่ไม่ยอมพูดให้หมดก็คือฝรั่งเศสไม่เหมือนกับไทยเพราะประเทศไทยมีการโกงการเลือกตั้ง ซึ่งฝรั่งเศสมีน้อยกว่า ขณะที่ประเทศไทยพรรคพลังประชาชนโกงการเลือกตั้งและ กกต.สรุปแล้วเสนอให้ยุบพรรคไปแล้ว จะให้เรายอมรับการโกงการเลือกตั้ง ซึ่งเรายอมรับไม่ได้
จากนั้น นายสนธิได้เรียกร้องให้พี่น้องพันธมิตรฯ รวมพลังดัดหลังบริษัทที่ไม่สนใจพวกเรา โดยอย่าไปสนับสนุนซื้อสินค้าบริษัทเหล่านั้น ขณะเดียวกัน ได้เรียกร้องให้สนับสนุนบริษัท วิริยะประกันภัย ที่มีความกล้าหาญโดยไม่เกรงกลัวอำนาจการเมือง ยอมค้ำประกันกลุ่มพี่น้องที่ถูกออกหมายจับกรณีบุกเอ็นบีทีคนละ 2 แสนบาท รวมแล้วประมาณ 20 ล้านบาท โดยนายสนธิเรียกร้องให้สนับสนุนบริษัท วิริยะประกันภัย โดยซื้อประกันภัยกับบริษัทดังกล่าว
นอกจากนี้ นายสนธิ ยังกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะมาเปิดเผยเรื่องลึกๆ ที่เชื่อมโยงกันตั้งแต่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนถึงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช กับรัฐบาลของ นายฮุนเซน ของกัมพูชา ทุกเรื่องล้วนเกี่ยวข้องกับน้ำมันทั้งสิ้น พร้อมกันนั้นได้กล่าวเตือนว่าอย่าเพิ่งดีใจกับแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศที่ให้ยุติแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เพราะไม่ใช่สิ้นสุด แต่ต้องเป็นโมฆะถึงจะถูก เพราะศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้เป็นโมฆะ ขณะเดียวกัน ทางที่ดีกระทรวงการต่างประเทศต้องออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2-3 ส่งไปถึงสหประชาชาติ และองค์การยูเนสโก ว่าไทยไม่รับรองคณะกรรมการ 7 ชาติที่จะเข้ามาบริหารปราสาทพระวิหารด้วย