ประชุมสภาฯวุ่น ฝ่ายค้านเสนอถกเหตุการณ์ปะทะจนมีผู้เสียชีวิต แต่ ส.ส.พปช.กลัวเข้าตัวรวมหัวต้านสุดฤทธิ์ "ชัย" เด้งรับอ้างไม่อยู่ในวาระ แม้ ปชป. ขอให้ยืนไว้อาลัยก็ยังไม่ยอม ที่สุดวิปฝ่ายค้านใช้วิธีดัดหลังยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ จี้สอบ รมต.ใช้สภาบัญชาการว่าจ้างชาวบ้านเข้าก๊วน นปก.บุกพันธมิตรฯ จนมีคนตาย พร้อมเตรียมยื่นหลักฐานให้ ผบ.ทบ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบสวน ส่วน พปช.แอบอ้างมติส.ส.พรรคร่วม ออกแถลงการณ์ประฌามพันธมิตรฯ พร้อม กดดัน ผบ.ทบ.ให้จัดการ แถมขู่ถ้ายังเฉยออกแถลงการณ์ถล่มอีกฉบับ "ชัย" รับลูก "อนุพงษ์" นัดหารือ ประธานวูฒิฯ-ฝ่ายค้านเปิดรัฐสภาแก้วิกฤติ บอกเฉยเหตุการณ์ปะทะจนมีคนเสียชีวิตเป็นเรื่องของพรหมลิขิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (3 ก.ย.) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระได้เปิดให้สมาชิกหารือ โดยนายสุวโรช พะลัง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือถึงเหตุการณ์การปะทะมีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตโดยทราบจากข่าวว่า กลุ่มที่ยกพวกเข้ามาปะทะจนมีการฆ่ากันตาย มี ส.ส.บางคนอยู่เบื้องหลัง จึงขอให้คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภา สอบสวนเรื่องดังกล่าวด้วย
นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชนลุกตอบโต้ทันทีว่า กลุ่มต่างๆ ที่ออกมาทำให้บ้านเมืองวุ่นวายทำไมไม่ทำตามกฎหมาย บ้านเมืองจะอยู่ไม่ได้ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ด้วยวิธีการดังกล่าวไม่ถูกต้อง ตนเสนอว่า รัฐบาลควรให้ทำประชามติ เพราะประชาชนในต่างจังหวัดไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรฯมากมาย
"ตอนนี้ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ อยู่ที่วุฒิสภารัฐบาลจะออกเป็น พ.ร.ก.ก่อนก็ได้ แล้วถามประชาชนว่าใครเห็นด้วยกับฝ่ายไหนและที่มีการกล่าวว่า มี ส.ส.อยู่เบื้องหลัง ผมคิดว่า มี ส.ส.บางพรรคไปขึ้นเวทีของผู้ชุมนุม ถามว่าฝ่ายใดไปเริ่มก่อน นอกจากนี้ มีการแย่งศพประชาชนที่เสียชีวิตเพื่ออ้างว่าเป็นกลุ่มตนเอง น่าละอายแก่ใจ ตำรวจต้องสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดให้ได้"
ปูดเลขาฯ นายกฯ เอี่ยวขนม็อบปะทะ
จากนั้นมีการประท้วงเล็กน้อยจากส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากนายชัย ได้พยายามตัดบท ทำให้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปเยี่ยมผู้ชุมนุมในฐานะผู้แทนปวงชนแต่มี ส.ส. พรรคพลังประชาชน ไปขึ้นเวทีของอีกกลุ่มหนึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันรุนแรง ทำให้นายชัย ตัดบทอีกครั้งและนำเข้าสู่วาระการประชุมต่อไป
แต่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)ลุกขึ้นหารือว่าในการประชุมร่วมของรัฐสภาเมื่อ วันที่31ส.ค. เวลาประมาณ 22.00น.ในห้องรับรองสมาชิก มีรัฐมนตรีและส.ส.บางคนพูดกันว่าจะขนคนมากี่คนและมีการติดต่อไปยังหนึ่งใน แกงค์ออฟโฟร์และเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเกือบตลอดเวลา หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ขนคนมาปะทะกันการที่ตนมาพูดเช่นนี้เพราะต้องการถามหาคนรับผิดชอบจากรัฐบาลและ พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทำให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชน หลายคน อาทิ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา ประท้วงโดยเห็นว่า เข้าสู่วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯแล้ว ให้ประธานดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระ แต่นายสาทิตย์ยังไม่ยอมพยายาม ขอหารืออ้างว่าสถานการณ์รุนแรงจนมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและมีคนในสภาเข้าไปอยู่เบื้องหลัง
แนะ"ชัย"เรียกประชุมรัฐสภาอีกรอบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในการแก้ปัญหานี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.แนะว่าฝ่ายนิติบัญญัติควรจะหารือกันมากกว่านี้ ซึ่งตนได้หารือกับประธานสภาฯ แล้ว สาเหตุที่ไม่สามารถเสนอญัตติแล้วเลื่อนขึ้นมาพิจารณาได้ เพราะเป็นการประชุมสภาสมัยนิติญัตติ ต้องรอการประชุมร่วมรัฐสภา ดังนั้นจึงเลือกวิธีการหารือแบบนี้ เพราะผู้รับผิดชอบบอกแล้วว่าขณะนี้เป็นภาวะที่ประชาชน 2 กลุ่มทะเลาะกันอย่าง รุนแรง และการที่ประธานวิปฝ่ายค้านออกมายืนยันว่า มีการใช้สภาแห่งนี้ไปเกี่ยวข้องกับความรุนแรง แต่ทันทีที่ประธานวิปฝ่ายค้านพูดเรื่องนี้ก็งดถ่ายถอดการประชุม ซึ่งพรรคก็เคารพอำนาจของประธาน ถ้าให้พูดก็พูด แต่ถ้าไม่ให้พูดก็จะขอนำข้อเท็จจริง ไปเสนอกับประธานโดยตรง
ทั้งนี้ นายชัย ได้กล่าวว่า ยินดีจะรับข้อมูลจากผู้นำฝ่ายค้านคิดว่าน่าจะต้องมีการ ประชุมร่วมรัฐสภาอยู่แล้วเพื่อจะหารือร่วมกัน3 ฝ่ายคือ ประธานวุฒิสภา ประธานสภาฯและผู้นำฝ่ายค้าน ในการยุติปัญหาดังกล่าว
"ชัย"ไม่ให้แม้ไว้อาลัยผู้เสียชีวิต
จากนั้น นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ที่ประชุมยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต 1 นาที แต่นายชัย ไม่อนุญาตโดยให้เหตุผลว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ หากจะยืนก็ขอให้ยืนคนเดียวไปก่อน เนื่องจากไม่ได้อยู่ในระเบียบวาระ
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน ลุกขึ้นประท้วงพร้อมเสนอว่าถ้าอยากไว้อาลัยให้ไปทำบุญที่วัด ไม่ต้องมาสร้างภาพในการประชุมสภา ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายคนไม่พอใจ และประท้วงให้ถอนคำว่า สร้างภาพ แต่นาย สุทิน ไม่ถอน โดยยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย ท้ายที่สุดนายบุญยอด ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากนั้นนายชัย ได้ตัดบทเข้าสู่วาระการประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงาน เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการประชุมสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนใหญ่ สวมสูทดำและเนคไทค์ดำ เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตด้วย
ปชป.จี้สอบ รมต.ใช้สภาบัญชาการม็อบ
ต่อมาเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน พร้อมสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ เพื่อให้ตรวจสอบการปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ กับแนกวร่วม นปช. ที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งทำให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ใช้เป็นสถานการณ์ ประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
นายสาทิตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ์ได้รับหนังสือร้องเรียนจากพยาน บุคคลที่เห็นและได้ยินการสนทนา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ภายในห้องทำงาน ส.ส. ที่อยู่บริเวณชั้น 1 ของรัฐสภา ผ่านทาง ส.ส.ของพรรคว่ามีบุคคลระดับรัฐมนตรีโทรศัพท์ เชิงตำหนิกับใครบางคนว่าทำไมขนคนมาแค่ 1,200 คน ไม่ใช่ 2,000 คน ตามที่ตกลงไว้ ซึ่งบุคคลปลายสายระบุว่า คนชื่อ "โจ" และ "อ้วน" ที่เป็นคนจัดการนับคนบอกว่าเอามา1,600 คนไม่ใช่ 1,200 คน นอกจากนี้ยังมีการระบุว่า มีการจ่ายเงินหัวละ 500 บาท พร้อมทั้งจัดเตรียมน้ำ อาหารมาด้วย ซึ่งรัฐมนตรีคนดังกล่าวยังย้ำว่า ให้เอาผู้หญิงมามากกว่าผู้ชาย
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนมีความเป็นห่วงคนที่ให้ข้อมูลมาก เพราะบุคคลดังกล่าวได้ทำหนังสือมายังพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้แจ้งไปยังประธานสภา หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งรัฐสภารับรองความปลอดภัย เขาก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องนี้ และการให้ข้อมูลได้ทำเป็นหนังสือโดยมีชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องระบุอย่างชัดเจนในเอกสารที่มอบต่อนายชัย นอกจากนี้ยังมีพยานรู้เห็นอีกหลายสิบคน
"เราเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพาะหากเป็นจริงตามข้อมูลระบุ ทางประธานสภาก็จะต้องสอบ และเราจะยื่นให้หน่วยงานเกี่ยวกับความมั่นคงดู เพราะถ้าคนบงการเป็นระดับรัฐมนตรี แล้วมีการจ่ายเงินจ้างม๊อบในสภา จะเป็นเรื่องที่ อุกอาจอย่างยิ่งรวมทั้งเป็นการผิดกฎหมายอาญา"
ส่วนจำนวนเงินในการขนคนมาชุมนุมนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า เท่าที่หนังสือระบุมา เพียงบอกเล่าเหตุการณ์ว่าได้ยินการพูดคุยว่าคุยกันอย่างไร แต่ไม่ได้มีการพูดถึง จำนวนเงินโดยรวมว่าเท่าใด รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ โดยคนให้ข้อมูลได้ทำเป็นหนังสือและลงชื่อรับรองมาเลยถ้าหากเรื่องนี้มีการดำเนินคดีต่างๆหรือมีการสอบ เขายินดีมาให้ปากคำเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดหวังการสอบสวนของนายชัยแต่ไหน นายสาทิตย์ กล่าวว่า คงต้องทำตามขั้นตอนไปก่อน เนื่องจากเป็นเรื่องราวเกิดที่สภา และมีการเกี่ยวพันสถานการร์ใหญ่ของประเทศ จึงต้องยื่นต่อประธานสภา ส่วนควาดหวังหรือไม่นั้นอยู่ที่นายชัยจะพิจารณา และติดตามว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร
เตรียมส่งหลักฐานให้ ผบ.ทบ.จัดการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการยื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า จำเป็นที่จะต้องยื่นให้ ส่วนจะยื่นให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชนตรวจสอบ ส.ส.ในพรรคหรือไม่เป็นคนละกรณีกัน ตอนนี้ตนยังไม่เอ่ยว่าเป็นใคร แต่กรณีของ ส.ส.กลุ่มของท่านเป็นเรื่องที่ชัดเจน ส่วนในคืนที่เกิดเหตุมีสื่อมวลชนที่เห็นตรงกันว่ามี ส.ส.ในกลุ่มของท่านนำประชาชนจากท้องสนามหลวงมาปะทะกับพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวานฯจนเป็นเหตุให้มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ไกลเกินไปกว่าที่ท่านนายกฯจะสืบสวนสอบสวน แต่เป็นเรื่องที่ท่านนายกฯต้องรับผิชอบในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน
ส่วนที่ ส.ส.พลังประชาชน พยายามเร่งให้ ผบ.ทบ.ดำเนินการตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน นายสาทิตย์ กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้ประกาศชัดเจนถึงกรอบ อำนาจว่ามีแค่ไหน ซึ่ง ต้องดูว่าไปเร่งเรื่องอะไรอยู่ในกรอบอำนาจหรือไม่
พปช.อ้าง ส.ส.พรรคร่วมบี้ ผบ.ทบ.ลุย
ขณะเดียวกัน ส.ส.พรรคพลังประชาชน 10 คน นำโดยนายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พร้อมด้วยนายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น นายประเสริฐ ชัยกิจนภาลัย ส.ส.สมุทรปราการ ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ผู้แทนของปวงชนชาวไทย ฉบับที่ 1 โดยเนื้อหาประฌามการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ฆ่าคนไทยด้วยกัน และให้ตำรวจหาผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยด่วน และเรียกร้องให้แกนนำพันธมิตรฯ ปฏิบัติตามกฎหมายเข้าสู่กระบวนการยุติะรรม และเรียกร้องให้ ผบ.ทบ.ได้ปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการห้ามชุมนุมเกินกว่า 5 คน
ผู้สื่อข่าวถามว่า แถลงการณ์ครั้งนี้อ้างว่าในนามผู้แทนปวงชนชาวไทยมาจาก ทุกพรรคการเมือง แต่ทำไมมายืนแถลงข่าวเฉพาะ ส.ส.พรรคพลังประชาชน นายปัญญา อ้างว่า ได้ประชุมส.ส.ทุกพรรคกว่า 200 คน มาแล้ว วันนี้มีเพียงแค่ตัวแทนเท่านั้น แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมไม่เห็นมีตัวแทนพรรคการเมืองอื่น กลับไม่มีใครตอบคำถาม
ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า หาก ผบ.ทบ.ไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังกล่าวจะทำยังไง นายอำนวย กล่าวว่า ทางกลุ่มก็จะออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 ตามมา อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มก็เห็นด้วยกับที่ ผบ.ทบ.มีนโยบายที่จะใช้การเจรจา แต่ก็อยากเร่งรัดให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว เมื่อถามว่าเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อกดดัน ผบ.ทบ.ใช่หรือไม่ นายอำนวย กล่าวว่าไม่ใช่การกดดัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงประณามเฉพาะกลุ่มพันธมิตรฯเพียงฝ่ายเดียว ไม่มีการประณามกลุ่ม นปช. ทั้งๆที่เหตุความรุนแรงเกิดจาก นปก.นายประเสริฐ กล่าวว่า กลุ่มประชาชนที่เดินไปหาพันธมิตรฯไม่มีอาวุธในมือ
"ชัย"เตรียมนัดถกเปิดประชุมรัฐสภา
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หลังจาก ผบ.ทบ. เสนอให้การเมืองแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตนในฐานะประธานรัฐสภา จะได้หารือกับนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ เพื่อขอเปิดประชุมรัฐสภาอีกครั้งโดยเร็ว เพื่อให้ที่ประชุมหาแนวทาง แก้ไขปัญหากันต่อไป เนื่องจาก ผบ.ทบ.ในฐานะที่เป็นผู้รักษา พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉินไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ อย่างไรก็ตามจะต้องดำเนินการภายหลังการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แม้มี พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯแต่ก็ไม่สามารถบังคับให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกนอกทำเนียบรัฐบาล นายชัย กล่าวว่าเป็นเรื่องของผู้ใช้กฎหมาย ที่จะต้องปฏิบัติตาม ซึ่งเมื่อ ผบ.ทบ.ไม่ดำเนินการอะไร ก็ถือเป็นสิทธิ เพราะเป็นผู้นำตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
อ้างเฉยปะทะเสียชีวิตเป็นพรหมลิขิต
นายชัย กล่าวหน้าตาเฉยว่าการเผชิญหน้าจนเกิดความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิต ที่ผ่านมา เป็นเรื่องของ ลิ้นกับฟัน อยู่ในปากเดียวกัน จะต้องอะลุ้มอะล่วยซึ่งกันและกัน ตนคิดว่าเป็นละครฉากหนึ่งของแผ่นดินประเทศไทยที่จะต้องแสดงบทบาทอย่างนี้ เพราะเทวดาฟ้าดินกำหนดไว้ ส่วนที่ปะทะกันจนมีผู้เสียชีวิต ก็ถือเป็นพรหมลิขิต ที่สร้างมา ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นไปตามกงกรรมกงเกวียน
ส่วนที่มีการพาดพิงว่านายเนวิน ชิดชอบ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นบุตรชายของนายชัย อยู่เบื้องหลังม็อบแนวร่วม นปก.นายชัย กล่าวว่า อย่าทำบาปทำกรรมมากล่าวหาเลย เพราะนายเนวินอยู่ที่บ้านกับลูกและภรรยา จะไปอยู่เบื้องหลังการชุมนุมได้อย่างไร ขอให้สื่อช่วยเห็นใจด้วย และที่ว่านายเนวิน เป็นผู้จัดชุมนุม นปก.มีหลักฐานหรือเปล่า หากมีหลักฐานก็แจ้งความดำเนินคดีได้
"นายสมัคร สุนทรเวช จะลาออกจากนายกฯหรือไม่อยู่ที่ตัวท่าน แต่คิดว่าแม้ลาออกการเมืองก็ไม่จบ เหมือนกับเรารับประทานอาหาร หากไม่ได้รับประทานข้าวก็ไม่จบ เหมือนนักการเมืองที่หิวกระหายการเมือง"
"อภิสิทธิ์"ชี้ถ้า"หมัก"ดื้อแก้ลำบาก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เสนอให้ฝ่ายนิติบัญญัติมีส่วนร่วมด้วย เพื่อที่จะได้ช่วยกันแก้ปัญหา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงฝ่ายนิติบัญญัติกันเองถ้ารัฐบาลพร้อมที่จะพูดคุยเจรจาคิดว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ ตนไม่ขัดข้อง ซึ่งจะเห็นภาพว่าถ้าการพูดคุยเจรจาถ้านายกฯย้ำอย่างเดียวว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ไม่ทราบว่า จะพูดคุยได้อย่างไร เมื่อถามว่าท่าทีของนายกฯจะยอมรับข้อเสนอจากฝ่ายต่าง ๆหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามท่าน แต่เท่าที่ดูจากท่าทีก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางออกควรจะเป็นอย่างไรเพราะ ผบ.ทบ.ก็ไม่สามารถทำอะไรได้โยนกลับไปให้สภา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีปัญหาซ้อนปัญหาอยู่ ปัญหามีแน่นอน คือมีคนไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย ต้องหาวิธีการบังคับใช้กฎหมาย ทำอย่างไร ไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นคือถึงบังคับใช้กฎหมายได้กับผู้ที่กระทำความผิด ปัญหาพื้นฐานก็ไม่จบ เพราะเป็นปัญหาการเมือง จึงมีการพูดว่า ก็ต้องแก้ด้วยการเมือง
"สุเทพ"แนะ"หมัก"ยังไม่สายที่จะออก
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความชื่นชมต่อ ผบ.ทบ.ต่อการทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ได้ประกาศท่าทีจุดยืนชัดเจน เป็นที่ยอมรับของประชาชนทุกฝ่าย แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้มี วุฒิภาวะ มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม ไม่ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการใด ๆ ตามแรงกดดันของฝ่ายการเมืองหรือสถานการณ์
ส่วนข้อเสนอของผบ.ทบ.ที่ว่าฝ่ายการเมืองต้องแก้ปัญหากันเองถือเป็นเรื่อง ถูกต้องแล้ว เพราะข้าราชการและเจ้าหน้าที่เพียงเพื่อดูแลความเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่ให้ประชาชนทำร้ายกันก็เพียงพอแล้ว
นายสุเทพ กล่าวว่า ในวันนี้พรรคพลังประชาชนจะทำอะไรก็ได้ เพราะอำนาจ อยู่ในมือของนายกรัฐมนตรี ซึ่งสมาชิกรัฐสภาได้เสนอแล้วว่า หากนายกรัฐมนตรี เห็นว่าตัวเองมีปัญหา ก็ควรลาออก และให้สภาเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขึ้นมา และจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ก็ยังเป็นโอกาส แต่หากเห็นว่าทุกอย่างจวนตัวหมดแล้ว ไม่อยากลาออก ยังอยากจะรักษาราชการในฐานะนายกรัฐมนตรีไปอีกพักหนึ่ง ก็ควรยุบสภา เพื่อให้ประชาชนตั้งหลักเลือกตั้งแทนเข้ามาใหม่ แต่ปัญหาคือนายกรัฐมนตรีไม่รับฟัง และยังไม่แสดงความรับผิดชอบ ปากบอกแต่ว่าจะรับผิดชอบ แต่พอเกิดความวุ่นวาย มีคนตาย กลับโยนให้ผบ.ทบ.รับไปดำเนินการ
"เลี้ยบ"เหน็บพันธมิตรฯ ต้องการอะไร
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ประเด็นการยุบพรรคพลังประชาชน ไม่ใช่เงื่อนไขสำคัญจนทำให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา หรือลาออก รวมถึงเชื่อว่าจะไม่ส่งผลต่อสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น เพราะหากเปรียบเทียบกับสถานการณ์บ้านเมืองก็ถือเป็นเรื่องเล็กมาก เนื่องจากขณะนี้ระ
นพ.สุรพงษ์ กล่าวรู้สึกเห็นใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่ได้รับมอบหมาย ให้แก้ปัญหาเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นต่างๆ ซึ่งเห็นว่า ขณะนี้ ปัญหา ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเรื่องของประชาชนและประเทศชาติว่า จะทำอย่างไร เพราะแม้จะคืนอำนาจด้วยการให้นายกรัฐมนตรีลาออก หรือยุบสภา กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่ยอม ดังนั้นพันธมิตรฯ ต้องบอกให้ชัดเจนว่า จุดมุ่งหมายแท้จริงคืออะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (3 ก.ย.) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระได้เปิดให้สมาชิกหารือ โดยนายสุวโรช พะลัง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือถึงเหตุการณ์การปะทะมีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตโดยทราบจากข่าวว่า กลุ่มที่ยกพวกเข้ามาปะทะจนมีการฆ่ากันตาย มี ส.ส.บางคนอยู่เบื้องหลัง จึงขอให้คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภา สอบสวนเรื่องดังกล่าวด้วย
นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชนลุกตอบโต้ทันทีว่า กลุ่มต่างๆ ที่ออกมาทำให้บ้านเมืองวุ่นวายทำไมไม่ทำตามกฎหมาย บ้านเมืองจะอยู่ไม่ได้ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ด้วยวิธีการดังกล่าวไม่ถูกต้อง ตนเสนอว่า รัฐบาลควรให้ทำประชามติ เพราะประชาชนในต่างจังหวัดไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรฯมากมาย
"ตอนนี้ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ อยู่ที่วุฒิสภารัฐบาลจะออกเป็น พ.ร.ก.ก่อนก็ได้ แล้วถามประชาชนว่าใครเห็นด้วยกับฝ่ายไหนและที่มีการกล่าวว่า มี ส.ส.อยู่เบื้องหลัง ผมคิดว่า มี ส.ส.บางพรรคไปขึ้นเวทีของผู้ชุมนุม ถามว่าฝ่ายใดไปเริ่มก่อน นอกจากนี้ มีการแย่งศพประชาชนที่เสียชีวิตเพื่ออ้างว่าเป็นกลุ่มตนเอง น่าละอายแก่ใจ ตำรวจต้องสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดให้ได้"
ปูดเลขาฯ นายกฯ เอี่ยวขนม็อบปะทะ
จากนั้นมีการประท้วงเล็กน้อยจากส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากนายชัย ได้พยายามตัดบท ทำให้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปเยี่ยมผู้ชุมนุมในฐานะผู้แทนปวงชนแต่มี ส.ส. พรรคพลังประชาชน ไปขึ้นเวทีของอีกกลุ่มหนึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันรุนแรง ทำให้นายชัย ตัดบทอีกครั้งและนำเข้าสู่วาระการประชุมต่อไป
แต่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)ลุกขึ้นหารือว่าในการประชุมร่วมของรัฐสภาเมื่อ วันที่31ส.ค. เวลาประมาณ 22.00น.ในห้องรับรองสมาชิก มีรัฐมนตรีและส.ส.บางคนพูดกันว่าจะขนคนมากี่คนและมีการติดต่อไปยังหนึ่งใน แกงค์ออฟโฟร์และเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเกือบตลอดเวลา หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ขนคนมาปะทะกันการที่ตนมาพูดเช่นนี้เพราะต้องการถามหาคนรับผิดชอบจากรัฐบาลและ พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทำให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชน หลายคน อาทิ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา ประท้วงโดยเห็นว่า เข้าสู่วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯแล้ว ให้ประธานดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระ แต่นายสาทิตย์ยังไม่ยอมพยายาม ขอหารืออ้างว่าสถานการณ์รุนแรงจนมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและมีคนในสภาเข้าไปอยู่เบื้องหลัง
แนะ"ชัย"เรียกประชุมรัฐสภาอีกรอบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในการแก้ปัญหานี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.แนะว่าฝ่ายนิติบัญญัติควรจะหารือกันมากกว่านี้ ซึ่งตนได้หารือกับประธานสภาฯ แล้ว สาเหตุที่ไม่สามารถเสนอญัตติแล้วเลื่อนขึ้นมาพิจารณาได้ เพราะเป็นการประชุมสภาสมัยนิติญัตติ ต้องรอการประชุมร่วมรัฐสภา ดังนั้นจึงเลือกวิธีการหารือแบบนี้ เพราะผู้รับผิดชอบบอกแล้วว่าขณะนี้เป็นภาวะที่ประชาชน 2 กลุ่มทะเลาะกันอย่าง รุนแรง และการที่ประธานวิปฝ่ายค้านออกมายืนยันว่า มีการใช้สภาแห่งนี้ไปเกี่ยวข้องกับความรุนแรง แต่ทันทีที่ประธานวิปฝ่ายค้านพูดเรื่องนี้ก็งดถ่ายถอดการประชุม ซึ่งพรรคก็เคารพอำนาจของประธาน ถ้าให้พูดก็พูด แต่ถ้าไม่ให้พูดก็จะขอนำข้อเท็จจริง ไปเสนอกับประธานโดยตรง
ทั้งนี้ นายชัย ได้กล่าวว่า ยินดีจะรับข้อมูลจากผู้นำฝ่ายค้านคิดว่าน่าจะต้องมีการ ประชุมร่วมรัฐสภาอยู่แล้วเพื่อจะหารือร่วมกัน3 ฝ่ายคือ ประธานวุฒิสภา ประธานสภาฯและผู้นำฝ่ายค้าน ในการยุติปัญหาดังกล่าว
"ชัย"ไม่ให้แม้ไว้อาลัยผู้เสียชีวิต
จากนั้น นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ที่ประชุมยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต 1 นาที แต่นายชัย ไม่อนุญาตโดยให้เหตุผลว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ หากจะยืนก็ขอให้ยืนคนเดียวไปก่อน เนื่องจากไม่ได้อยู่ในระเบียบวาระ
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน ลุกขึ้นประท้วงพร้อมเสนอว่าถ้าอยากไว้อาลัยให้ไปทำบุญที่วัด ไม่ต้องมาสร้างภาพในการประชุมสภา ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายคนไม่พอใจ และประท้วงให้ถอนคำว่า สร้างภาพ แต่นาย สุทิน ไม่ถอน โดยยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย ท้ายที่สุดนายบุญยอด ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากนั้นนายชัย ได้ตัดบทเข้าสู่วาระการประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงาน เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการประชุมสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนใหญ่ สวมสูทดำและเนคไทค์ดำ เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตด้วย
ปชป.จี้สอบ รมต.ใช้สภาบัญชาการม็อบ
ต่อมาเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน พร้อมสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นหนังสือถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ เพื่อให้ตรวจสอบการปะทะกันระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ กับแนกวร่วม นปช. ที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งทำให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ใช้เป็นสถานการณ์ ประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
นายสาทิตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ์ได้รับหนังสือร้องเรียนจากพยาน บุคคลที่เห็นและได้ยินการสนทนา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ภายในห้องทำงาน ส.ส. ที่อยู่บริเวณชั้น 1 ของรัฐสภา ผ่านทาง ส.ส.ของพรรคว่ามีบุคคลระดับรัฐมนตรีโทรศัพท์ เชิงตำหนิกับใครบางคนว่าทำไมขนคนมาแค่ 1,200 คน ไม่ใช่ 2,000 คน ตามที่ตกลงไว้ ซึ่งบุคคลปลายสายระบุว่า คนชื่อ "โจ" และ "อ้วน" ที่เป็นคนจัดการนับคนบอกว่าเอามา1,600 คนไม่ใช่ 1,200 คน นอกจากนี้ยังมีการระบุว่า มีการจ่ายเงินหัวละ 500 บาท พร้อมทั้งจัดเตรียมน้ำ อาหารมาด้วย ซึ่งรัฐมนตรีคนดังกล่าวยังย้ำว่า ให้เอาผู้หญิงมามากกว่าผู้ชาย
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนมีความเป็นห่วงคนที่ให้ข้อมูลมาก เพราะบุคคลดังกล่าวได้ทำหนังสือมายังพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้แจ้งไปยังประธานสภา หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งรัฐสภารับรองความปลอดภัย เขาก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องนี้ และการให้ข้อมูลได้ทำเป็นหนังสือโดยมีชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องระบุอย่างชัดเจนในเอกสารที่มอบต่อนายชัย นอกจากนี้ยังมีพยานรู้เห็นอีกหลายสิบคน
"เราเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพาะหากเป็นจริงตามข้อมูลระบุ ทางประธานสภาก็จะต้องสอบ และเราจะยื่นให้หน่วยงานเกี่ยวกับความมั่นคงดู เพราะถ้าคนบงการเป็นระดับรัฐมนตรี แล้วมีการจ่ายเงินจ้างม๊อบในสภา จะเป็นเรื่องที่ อุกอาจอย่างยิ่งรวมทั้งเป็นการผิดกฎหมายอาญา"
ส่วนจำนวนเงินในการขนคนมาชุมนุมนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า เท่าที่หนังสือระบุมา เพียงบอกเล่าเหตุการณ์ว่าได้ยินการพูดคุยว่าคุยกันอย่างไร แต่ไม่ได้มีการพูดถึง จำนวนเงินโดยรวมว่าเท่าใด รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ โดยคนให้ข้อมูลได้ทำเป็นหนังสือและลงชื่อรับรองมาเลยถ้าหากเรื่องนี้มีการดำเนินคดีต่างๆหรือมีการสอบ เขายินดีมาให้ปากคำเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดหวังการสอบสวนของนายชัยแต่ไหน นายสาทิตย์ กล่าวว่า คงต้องทำตามขั้นตอนไปก่อน เนื่องจากเป็นเรื่องราวเกิดที่สภา และมีการเกี่ยวพันสถานการร์ใหญ่ของประเทศ จึงต้องยื่นต่อประธานสภา ส่วนควาดหวังหรือไม่นั้นอยู่ที่นายชัยจะพิจารณา และติดตามว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร
เตรียมส่งหลักฐานให้ ผบ.ทบ.จัดการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการยื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า จำเป็นที่จะต้องยื่นให้ ส่วนจะยื่นให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชนตรวจสอบ ส.ส.ในพรรคหรือไม่เป็นคนละกรณีกัน ตอนนี้ตนยังไม่เอ่ยว่าเป็นใคร แต่กรณีของ ส.ส.กลุ่มของท่านเป็นเรื่องที่ชัดเจน ส่วนในคืนที่เกิดเหตุมีสื่อมวลชนที่เห็นตรงกันว่ามี ส.ส.ในกลุ่มของท่านนำประชาชนจากท้องสนามหลวงมาปะทะกับพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวานฯจนเป็นเหตุให้มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ไกลเกินไปกว่าที่ท่านนายกฯจะสืบสวนสอบสวน แต่เป็นเรื่องที่ท่านนายกฯต้องรับผิชอบในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน
ส่วนที่ ส.ส.พลังประชาชน พยายามเร่งให้ ผบ.ทบ.ดำเนินการตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน นายสาทิตย์ กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้ประกาศชัดเจนถึงกรอบ อำนาจว่ามีแค่ไหน ซึ่ง ต้องดูว่าไปเร่งเรื่องอะไรอยู่ในกรอบอำนาจหรือไม่
พปช.อ้าง ส.ส.พรรคร่วมบี้ ผบ.ทบ.ลุย
ขณะเดียวกัน ส.ส.พรรคพลังประชาชน 10 คน นำโดยนายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พร้อมด้วยนายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น นายประเสริฐ ชัยกิจนภาลัย ส.ส.สมุทรปราการ ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ผู้แทนของปวงชนชาวไทย ฉบับที่ 1 โดยเนื้อหาประฌามการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ฆ่าคนไทยด้วยกัน และให้ตำรวจหาผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยด่วน และเรียกร้องให้แกนนำพันธมิตรฯ ปฏิบัติตามกฎหมายเข้าสู่กระบวนการยุติะรรม และเรียกร้องให้ ผบ.ทบ.ได้ปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการห้ามชุมนุมเกินกว่า 5 คน
ผู้สื่อข่าวถามว่า แถลงการณ์ครั้งนี้อ้างว่าในนามผู้แทนปวงชนชาวไทยมาจาก ทุกพรรคการเมือง แต่ทำไมมายืนแถลงข่าวเฉพาะ ส.ส.พรรคพลังประชาชน นายปัญญา อ้างว่า ได้ประชุมส.ส.ทุกพรรคกว่า 200 คน มาแล้ว วันนี้มีเพียงแค่ตัวแทนเท่านั้น แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมไม่เห็นมีตัวแทนพรรคการเมืองอื่น กลับไม่มีใครตอบคำถาม
ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า หาก ผบ.ทบ.ไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังกล่าวจะทำยังไง นายอำนวย กล่าวว่า ทางกลุ่มก็จะออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 ตามมา อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มก็เห็นด้วยกับที่ ผบ.ทบ.มีนโยบายที่จะใช้การเจรจา แต่ก็อยากเร่งรัดให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว เมื่อถามว่าเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อกดดัน ผบ.ทบ.ใช่หรือไม่ นายอำนวย กล่าวว่าไม่ใช่การกดดัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงประณามเฉพาะกลุ่มพันธมิตรฯเพียงฝ่ายเดียว ไม่มีการประณามกลุ่ม นปช. ทั้งๆที่เหตุความรุนแรงเกิดจาก นปก.นายประเสริฐ กล่าวว่า กลุ่มประชาชนที่เดินไปหาพันธมิตรฯไม่มีอาวุธในมือ
"ชัย"เตรียมนัดถกเปิดประชุมรัฐสภา
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หลังจาก ผบ.ทบ. เสนอให้การเมืองแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตนในฐานะประธานรัฐสภา จะได้หารือกับนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ เพื่อขอเปิดประชุมรัฐสภาอีกครั้งโดยเร็ว เพื่อให้ที่ประชุมหาแนวทาง แก้ไขปัญหากันต่อไป เนื่องจาก ผบ.ทบ.ในฐานะที่เป็นผู้รักษา พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉินไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ อย่างไรก็ตามจะต้องดำเนินการภายหลังการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แม้มี พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯแต่ก็ไม่สามารถบังคับให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกนอกทำเนียบรัฐบาล นายชัย กล่าวว่าเป็นเรื่องของผู้ใช้กฎหมาย ที่จะต้องปฏิบัติตาม ซึ่งเมื่อ ผบ.ทบ.ไม่ดำเนินการอะไร ก็ถือเป็นสิทธิ เพราะเป็นผู้นำตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
อ้างเฉยปะทะเสียชีวิตเป็นพรหมลิขิต
นายชัย กล่าวหน้าตาเฉยว่าการเผชิญหน้าจนเกิดความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิต ที่ผ่านมา เป็นเรื่องของ ลิ้นกับฟัน อยู่ในปากเดียวกัน จะต้องอะลุ้มอะล่วยซึ่งกันและกัน ตนคิดว่าเป็นละครฉากหนึ่งของแผ่นดินประเทศไทยที่จะต้องแสดงบทบาทอย่างนี้ เพราะเทวดาฟ้าดินกำหนดไว้ ส่วนที่ปะทะกันจนมีผู้เสียชีวิต ก็ถือเป็นพรหมลิขิต ที่สร้างมา ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นไปตามกงกรรมกงเกวียน
ส่วนที่มีการพาดพิงว่านายเนวิน ชิดชอบ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นบุตรชายของนายชัย อยู่เบื้องหลังม็อบแนวร่วม นปก.นายชัย กล่าวว่า อย่าทำบาปทำกรรมมากล่าวหาเลย เพราะนายเนวินอยู่ที่บ้านกับลูกและภรรยา จะไปอยู่เบื้องหลังการชุมนุมได้อย่างไร ขอให้สื่อช่วยเห็นใจด้วย และที่ว่านายเนวิน เป็นผู้จัดชุมนุม นปก.มีหลักฐานหรือเปล่า หากมีหลักฐานก็แจ้งความดำเนินคดีได้
"นายสมัคร สุนทรเวช จะลาออกจากนายกฯหรือไม่อยู่ที่ตัวท่าน แต่คิดว่าแม้ลาออกการเมืองก็ไม่จบ เหมือนกับเรารับประทานอาหาร หากไม่ได้รับประทานข้าวก็ไม่จบ เหมือนนักการเมืองที่หิวกระหายการเมือง"
"อภิสิทธิ์"ชี้ถ้า"หมัก"ดื้อแก้ลำบาก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เสนอให้ฝ่ายนิติบัญญัติมีส่วนร่วมด้วย เพื่อที่จะได้ช่วยกันแก้ปัญหา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงฝ่ายนิติบัญญัติกันเองถ้ารัฐบาลพร้อมที่จะพูดคุยเจรจาคิดว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ ตนไม่ขัดข้อง ซึ่งจะเห็นภาพว่าถ้าการพูดคุยเจรจาถ้านายกฯย้ำอย่างเดียวว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ไม่ทราบว่า จะพูดคุยได้อย่างไร เมื่อถามว่าท่าทีของนายกฯจะยอมรับข้อเสนอจากฝ่ายต่าง ๆหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามท่าน แต่เท่าที่ดูจากท่าทีก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางออกควรจะเป็นอย่างไรเพราะ ผบ.ทบ.ก็ไม่สามารถทำอะไรได้โยนกลับไปให้สภา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีปัญหาซ้อนปัญหาอยู่ ปัญหามีแน่นอน คือมีคนไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย ต้องหาวิธีการบังคับใช้กฎหมาย ทำอย่างไร ไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นคือถึงบังคับใช้กฎหมายได้กับผู้ที่กระทำความผิด ปัญหาพื้นฐานก็ไม่จบ เพราะเป็นปัญหาการเมือง จึงมีการพูดว่า ก็ต้องแก้ด้วยการเมือง
"สุเทพ"แนะ"หมัก"ยังไม่สายที่จะออก
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความชื่นชมต่อ ผบ.ทบ.ต่อการทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ได้ประกาศท่าทีจุดยืนชัดเจน เป็นที่ยอมรับของประชาชนทุกฝ่าย แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้มี วุฒิภาวะ มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม ไม่ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการใด ๆ ตามแรงกดดันของฝ่ายการเมืองหรือสถานการณ์
ส่วนข้อเสนอของผบ.ทบ.ที่ว่าฝ่ายการเมืองต้องแก้ปัญหากันเองถือเป็นเรื่อง ถูกต้องแล้ว เพราะข้าราชการและเจ้าหน้าที่เพียงเพื่อดูแลความเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่ให้ประชาชนทำร้ายกันก็เพียงพอแล้ว
นายสุเทพ กล่าวว่า ในวันนี้พรรคพลังประชาชนจะทำอะไรก็ได้ เพราะอำนาจ อยู่ในมือของนายกรัฐมนตรี ซึ่งสมาชิกรัฐสภาได้เสนอแล้วว่า หากนายกรัฐมนตรี เห็นว่าตัวเองมีปัญหา ก็ควรลาออก และให้สภาเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขึ้นมา และจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ก็ยังเป็นโอกาส แต่หากเห็นว่าทุกอย่างจวนตัวหมดแล้ว ไม่อยากลาออก ยังอยากจะรักษาราชการในฐานะนายกรัฐมนตรีไปอีกพักหนึ่ง ก็ควรยุบสภา เพื่อให้ประชาชนตั้งหลักเลือกตั้งแทนเข้ามาใหม่ แต่ปัญหาคือนายกรัฐมนตรีไม่รับฟัง และยังไม่แสดงความรับผิดชอบ ปากบอกแต่ว่าจะรับผิดชอบ แต่พอเกิดความวุ่นวาย มีคนตาย กลับโยนให้ผบ.ทบ.รับไปดำเนินการ
"เลี้ยบ"เหน็บพันธมิตรฯ ต้องการอะไร
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ประเด็นการยุบพรรคพลังประชาชน ไม่ใช่เงื่อนไขสำคัญจนทำให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา หรือลาออก รวมถึงเชื่อว่าจะไม่ส่งผลต่อสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น เพราะหากเปรียบเทียบกับสถานการณ์บ้านเมืองก็ถือเป็นเรื่องเล็กมาก เนื่องจากขณะนี้ระ
นพ.สุรพงษ์ กล่าวรู้สึกเห็นใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่ได้รับมอบหมาย ให้แก้ปัญหาเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นต่างๆ ซึ่งเห็นว่า ขณะนี้ ปัญหา ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเรื่องของประชาชนและประเทศชาติว่า จะทำอย่างไร เพราะแม้จะคืนอำนาจด้วยการให้นายกรัฐมนตรีลาออก หรือยุบสภา กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่ยอม ดังนั้นพันธมิตรฯ ต้องบอกให้ชัดเจนว่า จุดมุ่งหมายแท้จริงคืออะไร