xs
xsm
sm
md
lg

“สมเกียรติ” แฉ “ระบอบแม้ว” รุกหนัก 3 แนวรบ-สั่นคลอนสถาบันหลัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
“สมเกียรติ” เย้ย “แม้ว” หากออกเอ็นบีทีได้ “กำนันเป๊าะ-ราเกซ-ปิ่น” ที่ยังหนีคดี คงต้องขอออกด้วย เผยระบอบทักษิณเปิดเกมรุก 3 แนวรบ ลดความสำคัญของสถาบันหลัก จนตกอยู่ในอันตราย ยังเหลือ “ประชาภิวัฒน์” ช่วยพยุง แฉ นปก.แจ้งจับ ป.ป.ช.รอบที่ 5 หวังกดดัน เพราะกำลังชี้ผิด 35 รมต.คดีเขาพระวิหาร ขณะ “วิชา มหาคุณ” กำลัง 3 นายตำรวจที่เอี่ยวฆ่า ปชช.7 ต.ค.

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

เมื่อเวลา 22.40 น.วันที่ 23 ต.ค. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า สถานการณ์หลักของประเทศไทยในขณะนี้อยู่ภายใต้การออกแบบให้เข้าสู่สงครามประชาชน โดยสังคมไทยถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายชัดเจน ซึ่งพวกเรามาชุมนุมอยู่ 150 กว่าวัน คงไปคืนดีกับ นปก.ไม่ได้ ถ้ามีคนกลางมาเชิญไปทำความเข้าใจกันก็คงไม่ยอม เราอ่านสถานการณ์ได้แล้วว่าพลเมืองในประเทศนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน กับอีกส่วนหนึ่งที่เรียกว่าไทยมุง ใครชนะทางไหนก็ไปทางนั้น

นายสมเกียรติ ได้กล่าวเหน็บแนมกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะออกรายการทางเอ็นบีทีวันที่ 1 พ.ย.นี้ว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณออกทีวีที่มาจากเงินภาษีอากรของประชาชนได้ ก็คงจะออกในฐานะผู้นำตัวอย่างของโลกที่หนีคดีมา โดยมีน้องเขยที่เป็นอดีตผู้พิพากษาศาลสูง สนับสนุนให้ออกทีวี และต่อไปก็จะมีคนอื่นๆ ขออกทีวีด้วย โดยคนต่อไปคือกำนันเป๊าะที่หนีคดีทุจริตไปอยู่ต่างประเทศเช่นเดียวกัน ตามด้วยนายราเกซ สักเสนา ที่โกงธนาคารบีบีซีจนทำให้ประเทศไทยเสียหาย 1.4 ล้านล้านบาทแล้วหนีคดีไป และอีกคนคือนายปิ่น จักกะพาก ผู้ต้องหาคดีปั่นหุ้นที่หนีคดีไปเช่นกัน

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า วันที่ 1 พ.ย.นี้ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณได้ออกอากาศสดๆ ก็คงจะเหมือนคราวที่แล้วที่ออกจอโปรเจกเตอร์ที่สนามหลวง ซึ่งได้โจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เขาจะอัดแนวรบที่รุกเขาหนัก คือ ศาล และขณะนี้เขากำลังทำสงครามกับแนวรบ 3 แนว ที่เป็นสถาบันสำคัญของชาติให้หมดความสำคัญลง

แนวรบที่ 1 คือ สถาบันสูงสุดที่อยู่กับสังคมไทยมา 800 ปี ที่เราเห็นมาตั้งแต่เกิด และเรากราบไหว้ได้ แต่ทักษิณเราเพิ่งเห็นมา 5 ปี มีแต่คดโกง เทียบกันไมได้ แต่ขณะนี้ หนังสือพิมพ์หลายฉบับพูดเลยว่ากระบวนการจาบจ้วงไม่ได้อยู่ใต้ดินอีกแล้ว แต่ทำเปิดเผยเลย นายสุชาติ นาคบางไทร กล้าขึ้นพูดบนเวทีสนามหลวง และยังเอาไปโพสต์ในเว็บไซต์ประชาไท ซึ่งขณะนี้เราเก็บข้อมูลไว้แล้ว และกำลังจะฟ้องเว็บไซต์ประชาไทด้วย

“ตอนนี้นายกฯ เพิ่งตื่น บอกว่ามีเว็บที่ต้องจัดการอีกมาก และวันที่ 29 ต.ค.นี้ จะเริ่มปิดจริงจัง หลังจากปิด 500-600 เว็บ แต่ตอนนี้มีเกลื่อนจนนับไม่ได้ อยากจะเรียนนายสมชายว่า วิธีที่จะปราบเว็บพวกนี้ไม่ยาก เพราะญาติของคุณนั่นแหละทำ”

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีสตรีผู้หนึ่งที่มีฐานะทางสังคมได้ด่าด้วยคำหยาบคายอย่างมาก เรามีหลักฐานว่าเขาได้ด่าใครไว้ และเป็นเรื่องใหญ่มาก ตอนนี้เขาสู้กันแบบเปิดเผยแล้ว เพราะฉะนั้น ที่เรามาทำหน้าที่นี้ถือว่าถูกต้อง เพราะแนวรบนี้ตกอยู่ในภาวะอันตรายยิ่ง

สำหรับแนวรบที่ 2 คือ ตุลาการ ถูกแทรกแซงตอนคดีซุกหุ้น ซึ่งเขาซื้อได้ 4 เสียง ทำให้ชนะ ตอนยุบพรรคไทยรักไทย ก็พยายามซื้อ แต่ผู้พิพากษาไม่รับ คนที่ทำก็ถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว คนๆ นั้นมียศ พ.ต.ท.จบนิติ ธรรมศาสตร์ 09 รุ่นเดียวกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ครั้งที่ 3 ก็พยายามให้ขนมศาล 2 ล้าน แต่ศาลเอามาคืน พอซื้อศาลไม่ได้ ก็ไปจ้างสื่อต่างประเทศให้โจมตีศาลไทย จะเอามาอ่านพรุ่งนี้ว่าทักษิณโจมตีศาลไทยอย่างรุนแรงอย่างไรบ้าง

“ศาลตกอยู่ในอันตราย ถามว่ามติ 5 ต่อ 4 (คดีที่ดินรัชดา) ปลอดภัยไหม ขนาดจำเลยหนีศาล 5 ต่อ 4 ปลอดภัยไหม เรามีความรู้สึกต่อศาลแต่ขอเก็บเอาไว้ในส่วนลึก เอามาพูดไม่ได้ ตอนนี้เรามีชื่อศาลแล้ว ว่าใคร 5 ใคร 4 แต่ขอเก็บไว้ลึกสุดๆ” นายสมเกียรติกล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้แล้วยังมีหนังสือ ตุลาการวิบัติ ที่เผยแพร่ในอเมริกา จึงถือว่าแนวรบศาลสั่นสะเทือนมาก แต่ในความรู้สึกส่วนตัว ศาลยังแข็งแกร่งมาก ขอเอ่ยนามศาลปกครองสูงสุด กับศาลรัฐ ธรรมนูญ 2 ศาลนี้เป็นแนวรบสุดท้าย เป็นที่พึ่งทางกระบวนการยุติธรรม ที่พึ่งของคนตกทุกข์ได้ยาก พอเราไปฟ้อง ศาลปกครองนั้น ได้สั่งคุ้มครองการห้ามใช้แถลงการณ์เรื่องเขาพระวิหาร ห้ามตำรวจใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม ส่วนศาลรัฐธรรมนูญ ก็มีมติ 9 ต่อ 0 ให้แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ขัดมาตรา 190 มีมติ 8 ต่อ 1 ต้องรายงานรัฐสภา

“ดังนั้น ในกระบวนการศาลจึงเป็นการต่อสู้กันอย่างสุดๆ ในระหว่างผู้พิพากษาที่มี 2,500 คน ถ้าพูดกันอย่างเคารพสุดๆ คือ กระบวนการที่แบ่งเป็น 2 ส่วน เหมือนเรา มันมีในทุกวงการ ไม่มียกเว้น” และว่า ตอนนี้สังคมไทยมีการระแวงกันสุดๆ ถ้าพวกเราเห็นเสื้อแดงในมุมมืดก็วิ่งหนีกันแล้ว สังคมไทยตอนนี้มันยากจะหันหากันแล้ว นอกจากสังคม 2 ส่วนต้องเอาธรรมะ ความจริง ความถูกต้องนำหน้า

สำหรับแนวรบที่ 3 คือ กองทัพ ซึ่งขณะนี้ภาษาทั่วไปเขาบอกว่า ถูกฉีดยาชา ไม่มีความรู้สึก เป็นไม้ตายด้าน ตอนเขาฆ่ากันวันที่ 7 ตุลาฯ ก็มองไม่เห็น พอนายกฯ ออกคำสั่งฆ่าเสร็จ เรียกไปแถลงข่าวก็ไปด้วย พอวันที่ 16 ตุลาฯ ก็บอกว่า ถ้าเห็นตอนนั้นและย้อนเวลาได้จะไม่ให้เกิด เป็นรายการปาหี่

“เมื่อสถาบันกองทัพถูกทำให้เย็นชา สถาบันสูงสุดถูกจาบจ้วงอย่างเอิกเกริก ศาลก็ถูกแทรกแซงและพยามครอบงำ จึงเหลือสถาบันเดียวคือประชาภิวัฒน์” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า วันนี้ นปก.32 คนได้ไปแจ้งกองปราบให้ดำเนินคดีกับ ป.ป.ช. 9 คน เป็นครั้งที่ 5 ในข้อหาไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ ไม่มีสิทธิรับเงินเดือนเพราะเป็น ป.ป.ช.เถื่อน และให้หยุดการไต่สวนคดีใดๆ ก็ตาม ห้าม ป.ป.ช.ทำหน้าที่ ซึ่งเหตุที่มาแจ้งความตอนนี้ เพราะ ป.ป.ช.ได้รัลฟังพยานแวดล้อมหมดแล้วเรื่องที่ ครม.มีมติรับรองแถลงการณ์เรื่องเขาพระวิหาร และจะชี้มูลความผิดอดีตรัฐมนตรี 35 คนเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ นายวิชา มหาคุณ 1 ใน 9 ป.ป.ช.ยังเป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนคน 3 คนที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าประชาชนในวันที่ 7 ตุลาฯ คือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากการสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ 7 ต.ค.โดยใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ ซึ่งตามกฎหมายแล้ว ป.ป.ช.มีอำนาจไต่สวนข้าราชการที่ทำผิด ม.157 ได้

“ถ้าดูเป็นวงจรก็จะเห็นว่า เมื่อ ป.ป.ช.จะไต่สวน ผบ.ตร. นปก.ก็ไปแจ้งความกองปราบปราม เพื่อให้กองปราบเสนอพัชรวาท แล้วพัชรวาทก็สั่งจัดการ ป.ป.ช. แต่ระวังจะเจอมือตบพันธมิตร” นายสมเกียรติ กล่าว

ในตอนท้าย นายสมเกียรติ กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ อย่าเพิ่งตื่นตระหนก เรื่อง นปก.จะบุกนั้น วันที่ 12 ต.ค.เขาเคยประกาศจะบุกเอเอสทีวี จนต้องขอบริจาคยางรถยนต์ไว้ แต่พอถึงวันก็ไม่มา แล้ววันที่ 20 ต.ค.แกนนำที่ภาคเหนือก็บอกว่าติดเกี่ยวข้าว เพราะฉะนั้นที่ พล.ต.อ.สล้างว่าจะพามาเป็นแสนนั้นน่าจะเป็นแค่ราคาคุย เพราะเคยบอกจะยึดทำเนียบมาแล้ว พอถึงวันก็ออกมาแถลงข่าว ปาดน้ำหูน้ำตา อ้างว่าทำไมได้ เพราะเกรงใจ พล.อ.เปรม คราวนี้ที่ว่าจะมาวันที่ 25 ตุลาฯ 27 ตุลาฯ หรือ 1 พ.ย. คงต้องเอากล่องทางไกลที่ส่องได้ 800 กม. เพื่อส่องดูที่เชียงใหม่เชียงราย และอีกมีกี่วัน พล.ต.อ.สล้างก็จะมาแถลงว่าเกรงใจใคร และอยากบอกถึงนายคนนี้ว่าไม่ต้องมาให้เสียเวลา เพราะที่นี่คือกองทัพประชาชนกู้ชาติ เป็นกองทัพของพระราชา พระราชินี พล.ต.อ.สล้างหลอกพันธมิตรฯ ไม่ได้หรอก นอกจากหลอกพระบางสำนักได้เท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น