xs
xsm
sm
md
lg

จุดยืนของเหล่าทัพ : คำถามที่ “สรยุทธ” ไม่ได้ถาม ข้อเท็จจริงที่ ผบ.เหล่าทัพ ไม่รู้?!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ วันที่ 16 ต.ค.51 เชิญผู้นำเหล่าทัพมาให้สัมภาษณ์
จากกรณีที่ผู้นำเหล่าทัพ ให้สัมภาษณ์ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ในรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง การให้สัมภาษณ์ในรายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้" 

1.กรณีเหตุใดวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เมื่อตำรวจลงมือยิงประชาชนมีผู้บาดเจ็บล้มตาย ทหารไม่ออกมาห้ามหรือทำอะไรสักอย่าง

คำตอบ: - พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา บอกว่า ไม่ทราบมาก่อน ทั้งก่อนหน้าคือคืนวันที่ 6 และ วันที่เกิดเหตุ และ ไม่ทราบและไม่คาดว่า ผลของการสลายชุมนุมจะมีผลทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตาย ยอมรับว่า “เสียใจ” หากทราบ “คงจะ” ห้ามและประสานให้ผบ.สูงสุดคุยกับรัฐบาลไม่ให้ทำเช่นนั้นแล้ว

คำถามที่ สรยุทธ ไม่ได้ถามต่อ: คนอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ มีตำแหน่งสูงถึงเป็น ผบ.ทบ.ไม่มีหน่วยข่าวรายงานให้ทราบเลยเชียวหรือ?

กองทัพมีการประชุมกันตั้งแต่ช่วงสายจนถึงเย็นระหว่างนั้นตำรวจยังยิงใส่ผู้ชุมนุม ผู้บาดเจ็บเพิ่มจำนวนขึ้น และ มีผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมา พล.อ.อนุพงษ์ และ ผบ.เหล่าทัพ ยังอยู่ร่วมกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากรัฐสภามาร่วมประชุมด้วย และเมื่อเลิกประชุมในช่วงเย็นวันนั้น พล.อ อนุพงษ์ ยังยืนอยู่ข้างหลังนายสมชายร่วมแถลงข่าว เป็นไปได้หรือจะไม่ทราบอะไรบ้างเลย?

ข้อเท็จจริง : ตำรวจเคลื่อนกำลังพล และ อาวุธเต็มพิกัด ตั้งแต่คืนวันที่ 6 ตุลาคม หลังจาก ครม.มีมติและ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะเข้าแถลงนโยบายรัฐบาลที่รัฐสภา ข่าวของสื่อต่างๆ เผยแพร่ทันทีตั้งแต่คืนนั้น ขณะที่ช่วงเช้าเวลาประมาณ 6 นาฬิกาเศษตำรวจเริ่มยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชน มีการระดมยิงอย่างต่อเนื่องจนมีผู้บาดเจ็บ ขาขาด สูญเสียอวัยวะ เป็นแผลเหวอะหวะในที่เกิดเหตุ ภาพการสูญเสียของฝ่ายประชาชนถูกนำเสนอผ่านทีวีทุกช่อง และ วิทยุรายงานทุกแห่งต่อเนื่องทั้งวัน โดยที่ตำรวจไม่รามือในการยิงเข้าใส่ฝูงชนเลยจนกระทั่งถึงเวลา23 นาฬิกา

2.กรณีจุดยืนของกองทัพที่ว่าจะอยู่ข้างประชาชน

คำตอบ: พล.อ.ทรงกิตติ และ พล.อ.อนุพงษ์ ตอบตรงกันว่า กองทัพต้องอยู่ข้างประชาชน แต่เลือกข้างไม่ได้ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ต้องการให้มีการพูดคุย ปรองดองกัน เพราะหากประชาชนในชาติแบ่งฝ่ายชาติจะล่มจม วิบัติแน่

คำถามที่ สรยุทธ ไม่ได้ถามต่อ: ระหว่างประชาชนที่เรียกร้องความชอบธรรมให้กับสังคม ไม่ต้องการรัฐบาลที่ทุจริตคอร์รัปชัน ทำผิดแล้วหนีคดี ขัดขวางไม่ให้กลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง บ่อนทำลายสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เช่นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจนตัวตาย ขณะที่ อีกฝ่ายกลุ่ม นปช.ภายใต้การสนับสนุนของนักการเมืองซีกรัฐบาล ทำในสิ่งตรงกันข้าม ทำทุกอย่างเพื่อคนคนเดียว คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งพฤติการณ์และคำพูดแสดงออกอย่างชัดเจนดูได้จากหลักฐานการเคลื่อนไหวมาตลอด กองทัพยังอยู่ตัดสินใจไม่ได้หรือว่า ประชาชนฝ่ายใดควรสนับสนุน ควรอยู่เคียงข้าง? ไม่สามารถแยกแยะออกเลยหรือว่า สิ่งใด ถูก ผิด ชอบ ชั่ว ดี?

ข้อเท็จจริง: ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นเลยจุดซึ่งไม่ใช่เรื่องของความคิดที่แตกต่างหรือขัดแย้งทางความคิด แล้วแต่เป็นเรื่องที่พัฒนาไปไกล หรือ ที่เรียกว่า “การเมืองใหม่” การเมืองใหม่ที่พันธมิตรเรียกร้องให้สังคมได้รับรู้ว่า ต้องปกป้องสถาบันสูงสุดเป็นธงนำ ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข นักการเมืองกระทำความผิดทุจริตคอร์รัปชันก็ต้องถูกลงโทษ โดยทหารหรือเหล่าทัพให้การสนับสนุน “ไม่ต้องปฏิวัติ” แค่ทำหน้าที่ปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่างสมบูรณ์โดยไม่ตกอยู่ในอำนาจรับใช้การเมืองเหมือนปัจจุบัน

3.ใครเป็นคนสั่งฆ่าประชาชน

คำตอบ: สรยุทธ ถาม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร ก่อนโดยที่ ผบ.ตร. ตอบว่า ขอให้รอผลการสอบสวน แต่ “โดยหลักการ” ตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ได้ต้องขึ้นอยู่ นายกรัฐมนตรี และ มติ ครม.จากนั้น สรยุทธ หันมาถาม พล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ.คำถามเดียวกัน ผบ.ทบ.ระบุว่า ต้องเริ่มมาจาก มีมติ ครม.ตำรวจจึงลงมือทำได้ แต่คงไม่คาดว่า จะเกิดผลร้ายแรงดังกล่าว

คำถามที่ สรยุทธ ไม่ได้ถามต่อ: ถ้าเช่นนั้น ทั้งสองคนในฐานะที่เป็นข้าราชการมานานย่อมทราบดีว่า ตามระเบียบปฏิบัติ นายกรัฐมนตรีต้องมาสั่งการ และ มีมติรองรับ ดังที่พูดมา เพราะฉะนั้นสามารถระบุให้ชัดขึ้นได้ว่า ฆาตกรที่สั่งฆ่าประชาชนครั้งนี้ ก็คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ?

ข้อเท็จจริง: นายกรัฐมนตรี นายสมชาย ยืนยันจะเข้าแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 7 ตุลาคม 2551 แม้จะทราบว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนไหวปิดล้อมรัฐสภาตั้งแต่คืนวันที่ 6 ตุลาคม ตามระเบียบการปฏิบัติราชการ พร้อมกับคำพูดของนายตำรวจระดับสูงที่บัญชาการในวันนั้นฟังได้ว่า ตำรวจได้รับคำสั่งให้เปิดทางให้นายกรัฐมนตรีเข้าแถลงนโยบาย และ เปิดทางให้ช่วงเย็นให้แก่กลุ่มสมาชิกรัฐสภา เพื่อประโยชน์ของนายสมชาย และ รัฐบาล ตำรวจจึงปฏิบัติหน้าที่ตามความประสงค์ของนายสมชาย และ คณะรัฐมนตรี

4.จุดยืนต่อการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

คำตอบ : ผู้นำเหล่าทัพยืนยันตรงกันจะไม่ยอมให้ใครมาจาบจ้วงเบื้องสูง หากพบเห็นจะจัดการทันที และ จะรักษาราชบัลลังก์ด้วยในสำนึกหน้าที่ของทหาร ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ บอกด้วยว่า ทำงานรับใช้เบื้องพยุคลบาทเป็นราชองค์รักษ์มานานกว่า 30 ปี ย่อมมีความรู้สึกเหมือนคนไทยทุกคนต้องเทิดทูน ปกป้องสถาบันกษัตริย์อย่างถึงที่สุด

คำถามที่ สรยุทธ ไม่ได้ถามต่อ: แล้วคดีจาบจ้วงเบื้องสูงของคนในซีกรัฐบาล อาทิ นายจักรภพ เพ็ญแข นายวีระ มุสิกพงศ์ รวมถึงพฤตการณ์ต่างของกลุ่ม นปช.ตั้งแต่การบุกบ้านสี่เสาของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีเรื่อยมา พวกท่านจัดการอย่างไร เพื่อให้สังคมรับรู้ว่า พวกท่านไม่ได้นิ่งเฉย?

ข้อเท็จจริง : ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา ระบอบทักษิณ ปล่อยปละให้มีการจวบจ้วงเบื้องสูงมาตลอด ทุกวันนี้ เว็บไซต์หลายแห่ง สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุชุมนุมในเครือข่าย นปช.ภายใต้การสนับสนุนของคนในฝ่ายรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แม้กระทั่งบนเวทีของ นปช.ที่สนามหลวง ยังปราศรัยจวบจ้วงเบื้องสูงอยู่ตลอดเวลา โดยกองทัพ หรือ ผู้นำเหล่าทัพทั้งหลายไม่ได้แสดงท่าทีวิตกกังวล หรือสั่งการให้มีการดำเนินการใดๆ แม้แต้น้อย
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
กำลังโหลดความคิดเห็น