ผู้จัดการออนไลน์ – ครบเดือน “7 ตุลาเลือด” มติชนสุดสัปดาห์ เปิดพื้นที่ให้ “สุชาติ เหมือนแก้ว” ผบช.น.โอดครวญ ทำซึ้ง ตร.ก็มีเลือดเนื้อ-ความคิด-จิตใจ ไม่คิดทำร้ายประชาชน แต่ไม่พ้นพ่นคำโกหกไม่เลิก ระบุ ทำทุกอย่างตามขั้นตอน กระบวนการ คู่มือ แต่ปัดที่จะบอกว่าทำให้คนตายไป 2 คน บาดเจ็บมากกว่า 400 ขู่หลังเรื่องจบจะขุดคดีมาดำเนินการกับการ์ดพันธมิตรฯ อีกแน่
ผ่านมาครบ 1 เดือนเต็มแล้วสำหรับเหตุการณ์ตำรวจใช้กำลังเข้าทำร้ายและเข่นฆ่าประชาชนบริเวณหน้ารัฐสภา ลานพระบรมรูปทรงม้า และหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และ ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 400 คน
ล่าสุด “มติชนสุดสัปดาห์” ฉบับประจำวันที่ 7-13 พฤศจิกายน 2551 คอลัมน์โล่เงิน หน้า 99 ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล “ก้นบึ้ง “สุชาติ เหมือนแก้ว” ตร.ไม่คิดทำร้ายประชาชน เชื่อเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” โดยกล่าวถึงเหตุการณ์และผลกระทบจากประชาชนที่มีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเนื้อหาตอนหนึ่งมีดังนี้
“เรามีเหตุผล เราปฏิบัติตามขั้นตอนและคู่มือทั้งหมด ถ้าเรียกสอบจะนำหลักฐานไปแสดง ชี้แจงได้ทุกเรื่อง เราทำตั้งแต่อ่อนไปหาแก่ ตรงอ่อนๆ มักไม่ค่อยได้เป็นข่าว มีการเจรจาประนีประนอม ประสานกับฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ ไม่มีใครถาม บางทีถามก็ตอบไม่ได้ เพราะข้างหลังเป็นมิสเตอร์เอ็กซ์ แต่พอเหตุการณ์ผ่านไปขั้น 3 ขั้น 4 จะหยิบขึ้นมาถาม” ผบช.น.กล่าว
ขณะที่ ในข้อเท็จจริงนั้น มีการสอบสวนจากคณะอนุกรรมการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พยาน และหลักฐานในเหตุการณ์ยืนยันว่า เช้าวันที่ 7 ต.ค.นั้น ในช่วงคืนวันที่ 6 ต.ค.ต่อวันที่ 7 ต.ค.ก่อนเริ่มปฏิบัติการในเวลาประมาณ 06.15 น.ตำรวจไม่ได้มีการประสานเพื่อเจรจาหรือพูดคุยกับกลุ่มพันธมิตรฯ แต่อย่างใด ทั้งยังไม่มีการแจ้งเตือนด้วยว่าจะมีการใช้กำลังสลายการชุมนุม อีกทั้งยังมีการนำอาวุธร้ายแรงเพื่อสลายการชุมนุมจนก่อให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยจำนวนหนึ่งถึงกับขั้นแขนขาด ขาขาด ทุพพลภาพ อย่างเช่น นายธัญญา กุลแก้ว พันธมิตรฯ จ.ชุมพร ที่ถูกอาวุธร้ายแรงยิงเข้าใส่จนถึงขั้นขาขาด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของ บช.น.ออกมาแก้ตัวว่า อาจจะเกิดจากการที่พันธมิตรฯ วิ่งเหยียบกันจนทำให้ขาขาด
นอกจากนี้ ในกรณีที่ พล.ต.ท.สุชาติ ระบุว่า การดำเนินการมีการปฏิบัติตามขั้นตอนและคู่มือทั้งหมดก็น่าสงสัยว่าเป็นไปตามนั้นหรือไม่ เช่น กรณีที่ทั้งวัน ตำรวจส่วนใหญ่ประทับปืนในแนวขนานกับพื้นยิงแก๊สน้ำตาตรงเข้าหากลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งๆ ที่ตามหลักแล้วต้องยิงเป็นวิถีโค้ง และ บนตัวกระสุนแก๊สน้ำตาเองก็ระบุชัดว่าห้ามยิงเข้าหากลุ่มผู้ชุมนุมโดยตรง มากกว่านั้น ยังมีหลักฐานเป็นภาพนิ่งและวิดีโอจำนวนมากที่ระบุด้วยว่า นอกจากแก๊สน้ำตาแล้วตำรวจยังมีการใช้อาวุธปืน ระเบิดมือ และอาวุธหนักอื่นๆ เสริมด้วย ซึ่งถือว่าผิดหลักการสลายการชุมนุมอย่างร้ายแรง
ครวญ ตร.ก็มีเลือดเนื้อ-จิตใจ
ในบทสัมภาษณ์ชิ้นดังกล่าว พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวด้วยว่า “ตำรวจมีเลือดเนื้อ ความคิด จิตใจ ไม่มีใครคิดทำร้ายประชาชน ไม่อย่างนั้นจะบำบัดทุกข์ บำรุงสุขอย่างไร แต่บางเรื่องทำไปแล้วเกิดการต่อต้าน ก็รู้สึกกดดัน ถ้าหันมามองในอาชีพตำรวจต้องตัดเรื่องพวกนั้นออกไป ถ้าท้อถอย วันนี้ตำรวจไม่ไปจัดการจราจร ไม่สนใจออกตรวจตรา เปิดโอกาสให้โจรผู้ร้ายทำสิ่งผิดกฎหมาย มันก็ยิ่งเลวร้ายหนัก ความเจ็บปวดต้องให้ย้อนกลับไป เปิดร้อยยิ้มกลับมา น้ำตาต้องไหลกลับ เชิดหน้าเข้าไว้ เพราะก้มแล้วน้ำตามันจะหยด ตำรวจต้องอดทน ไม่ว่านาทีนั้นจะวิกฤตอย่างไร ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการที่ตรวจสอบได้ แล้วสักวันหนึ่งคงประจักษ์ว่าสิ่งที่เราทำเป็นอย่างไร อาจจะดีขึ้นในความรู้สึกตัวเองและภาพลักษณ์”
ตอนต่อมา ผบช.น.ระบุว่า ในช่วงร้อยกว่าวันของการชุมนุมมีคดีที่เกิดขึ้นจำนวนมากจากกลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ และ นักรบศรีวิชัย แต่ตนเลือกที่จะไม่เข้าไปจับเพราะไม่อยากให้สถานการณ์รุนแรง แต่ถ้าเหตุการณ์คลี่คลายตนก็ต้องใช้กฎหมายมาจับกุมและจัดการคนพวกนี้แน่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีกำลังใจในการทำงานอย่างไรบ้าง เนื้อหาของบทสัมภาษณ์ระบุว่า พล.ต.ท.สุชาติกล่าวด้วยความตื้นตันว่า โชคดีที่มีครอบครัวเป็นกำลังใจทั้ง คุณพ่อ ภรรยา และลูก
สำหรับ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว มีชื่อเล่นที่เพื่อนๆ เรียกว่า “ไอ้เบื๊อก” ปัจจุบันอายุ 57 ปี ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2494 เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 26 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนักโทษที่กำลังหนีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี พล.ต.ท.สุชาติ ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผบช.น.แทน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา และเป็นนายตำรวจผู้สั่งการและรับผิดชอบโดยตรงต่อเหตุการณ์ฆ่าประชาชนเมื่อวันที่ 7 ต.ค.หลังขึ้นรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการได้ไม่ครบสัปดาห์ดี
คลิกชมและดาวน์โหลดวิดีโอคลิป “ตำรวจฆ่าประชาชน” 7 ตุลาคม 2551
คลิกอ่านข้อมูลข่าวเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ 7 ต.ค. 2551 (บางส่วน)