xs
xsm
sm
md
lg

“สุริยะใส” ชี้ ผบช.น.เร่งจับแกนนำ สร้างผลงานชิ้นแรกเอาใจ “แม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ
“สุริยะใส” มองเกมภายใน พปช.สั่ง ตร.จับ “ไชยวัฒน์” คว่ำโต๊ะเจรจาพันธมิตรฯ หวังตบหน้า “รองฯ จิ๋ว” ชี้ การจับกุมส่อผิดกฎหมาย เหตุอยู่ระหว่างอุทธรณ์ เชื่อ “สุชาติ” หวังจับ 9 แกนนำ ทำผลงานสนอง “แม้ว” เย้ย “ส.ส.ร.3” แค่ซื้อเวลา รองรับ รธน.ฉบับ “หมอเหวง” ยันพันธมิตรฯ ไม่ร่วมสังฆกรรม

วันนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลา 19.45 น.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงถึงกรณีการจับกุม นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ว่า มีข้อแปลกใจอยู่ถึง 2-3 ประการ คือ 1.บรรยากาศการเจรจา ระหว่างแกนนำพันธมิตรฯ กับตัวแทนของรัฐบาล ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าพอสมควร การพูดคุยเป็นไปด้วยดี ภาพของ พล.ท.พิรัตน์ สวาพิรัตน์ หรือ เสธ.หมึก ที่เข้าพบกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นั้น หลายฝ่ายคาดหวังว่า จะเป็นจุดริเริ่ม นำไปสู่ความสมานฉันท์ในบ้านเมืองได้ แต่การจับ นายไชยวัฒน์ ในวันนี้ อาจจะเป็นการคว่ำโต๊ะเจรจาก็เป็นได้ ดังนั้น รัฐบาลต้องตอบว่าเป็นใบสั่งของใคร หรือว่า เป็นความพยายาม ที่จะตบหน้า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่มีการแบ่งงานว่าใครดูตำรวจ กองทัพ หรือฝ่ายความมั่นคง

ดังนั้น ตรงนี้อาจเป็นการชิงอำนาจในปีกของรัฐบาลหรือไม่ เพราะถ้าหาก พล.อ.ชวลิต เจรจากับพันธมิตรฯ สำเร็จ บทบาทของ พล.อ.ชวลิต ก็จะสูงขึ้น ดังนั้น ฝ่ายการเมือง ในบางปีกของรัฐบาลอาจจะไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นก็เป็นได้

2.การจับกุมในครั้งนี้ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะทั้ง 9 คนที่ถูกออกหมายจับ อยู่ระหว่างยื่นต่อศาลอุทธรณ์ ซึ่งศาลก็รับคำร้องไต่สวนว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่แล้ว ดังนั้น เจ้าหน้าที่ยังมีอำนาจดำเนินการตรงนี้ ได้หรือไม่ ตำรวจจะต้องตอบ เพราะถ้าหากำไม่มีอำนาจ อาจจะเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่ง นายไชยวัฒน์ มีสิทธิที่จะแจ้งความ ดำเนินคดีกลับได้

3.พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งมีความสนิทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะนี้มีอำนาจเต็มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ดังนั้น ผลงานครั้งแรก คือการจับกุม 1 ใน 9 กบฏ ซึ่งตรงนี้ไม่รู้ว่าเป็นการเอาใจนาย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เพราะพันธมิตรฯ คลางแคลงใจ และเกรงว่า จะกระทบกับบรรยากาศการเจรจาได้ ส่วนจะถึงขั้นล้มโต๊ะเจรจาหรือไม่นั้น ในช่วงเวลา 21.00 น.คืนนี้ แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน จะมีคำตอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ที่โดนหมายจับอีก 8 คนที่เหลือ จะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นหรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า โดยหลักปฏิบัติแล้ว หากไม่จำเป็นจริงๆ เราก็จะอยู่แต่ในสถานที่ชุมนุม แต่สำหรับตนแล้วต้องออกไปนอกสถานที่ชุมนุม มากกว่าทุกคน ซึ่งถ้าหากตำรวจจะจับกุมตน ก็สามารถทำได้ตลอดเวลา เพียงแต่ที่ผ่านมา ฝ่ายการเมือง อาจจะอะลุ้มอะล่วยให้ แต่ครั้งนี้คงจะต้องวิเคราะห์กันใหม่ เพราะหน้าหนึ่งก็ตีหน้าว่า สมานฉันท์ แต่อีกหน้าหนึ่ง ก็ตีหน้าเหมือนแก้แค้นทวงคืน ดังนั้น แกนนำคงต้องระวังให้มากขึ้น

ต่อคำถามว่า มีสัญญาณอะไรบ่งบอกก่อนหน้าหรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า มีสัญญาณมาตั้งแต่ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งชุดเฉพาะกิจ ติดตามไล่ล่าแล้ว แต่ในทางปฏิบัตินั้น เราไม่รู้ว่าจริงจังแค่ไหน แต่เราก็ต้องไม่ประมาท เพียงแต่รัฐบาลชั่งใจหรือยังว่า จะมีกระแสโต้ตอบกลับมาอย่างไรบ้าง เพราะเมื่อฝ่ายมีอำนาจไม่จริงใจ ไม่บริสุทธิ์ใจที่จะสมานฉันท์ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ทั้งนี้ ยืนยันว่า ที่ผ่านมา เราไม่เคยยกเรื่องการยกเลิกหมายจับ มาพูดคุยกับรัฐบาลเลย เพราะมั่นใจว่า ศาลจะให้ความเป็นธรรม เพราะข้อหากบฏนั้นไม่ชอบและอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม ตนได้คุยกับ นายไชยวัฒน์ ในเบื้องต้นแล้ว โดย นายไชยวัฒน์ ได้แสดงเจตนาที่จะไม่ประกันตัว และฝากให้ตนมาหารือกับแกนนำด้วย ว่า คิดอย่างไร ซึ่งตรงนี้ถือเป็นสิทธิของ นายไชยวัฒน์ ที่จะคัดค้านการจับกุม และการออหมายจับได้ ทั้งนี้ นายไชยวัฒน์ ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องการประมาท เพราะแม้แต่ นายเทิดภูมิ ใจดี เอง ก็มีการตามจับตัวอยู่เป็นระยะเหมือนกัน เพียงแต่ นายเทิดภูมิ ไหวตัวทันเท่านั้นเอง

นอกจากนี้ เท่าที่ได้ฟังจาก นายไชยวัฒน์ นั้น เจ้าหน้าที่ที่มาจับกุมเหมือนเป็นหน่วยอรินทราช มาฉุดกระชากลากตัว มาจับเหมือนเป็นผู้ร้ายคดีที่มีโทษหนักติดตัว ส่วนเรื่องการสะกดรอยตามนั้น เรารู้ตัวตลอดเวลา แต่ที่น่าแปลกใจ คือ หมายจับ นายไชยวัฒน์ อยู่ที่ สน.นางเลิ้ง แต่กลับนำตัวไปไว้ที่ ตชด.ภาค 1

นายสุริยะใส กล่าวถึงเรื่อง ส.ส.ร.3 ด้วยว่า วันนี้มีความชัดเจนแล้ว ว่า เจตนาของรัฐบาลนั้น เพียงแค่ซื้อเวลาเท่านั้น เพราะมีความพยายามที่จะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของ นพ.เหวง โตจิราการ รวมทั้งมีการเบี่ยงเบนประเด็นว่าเป็นเรื่องของสภา รัฐบาลไม่ได้มาเกี่ยวข้อง ทั้งๆ ที่รัฐบาลเอง ก็มาจาก ส.ส.ดังนั้น สภาจะไม่เกี่ยวข้องคงไม่ได้

ส่วนผลการประชุม 4 ฝ่ายในวันนี้ ที่มีมติว่าให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ชุดที่ 3 หรือ ส.ส.ร.3 เป็นทางออกนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า น่าจะเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่มากกว่า อย่างไรก็ตาม แกนนำพันธมิตรฯ ไม่ได้ต่อต้าน แต่จะไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย แต่ก็มองว่าสุดท้ายแล้ว ก็จะเป็นประเด็นเดียวกับที่พรรคพลังประชาชน ตั้งใจจะแก้ไข รธน.ให้ได้เหมือนตลอด 6-7 เดือนที่ผ่านมา เพราะถ้าหากตั้งใจจะนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองจริง จะต้องเริ่มนับหนึ่ง หลังจากคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยุติและต้องลดความหวาดระแวง ให้มากกกว่านี้ก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น