“สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” สุดเศร้า ส.ส.ทาสเรียงหน้ารับเงิน 10 ล้าน แลกโหวตเลือก “สมัคร” หวนคืนเก้าอี้นายกฯ จี้พรรคร่วมรัฐบาลเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่คิดแต่ร่วมรัฐบาลท่าเดียว แนะ ส.ส.เลือกเดินตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ อย่าโหวตส่งเสริมคนเลวให้กลับมามีอำนาจ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วานนี้ (11 ก.ย.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อประกาศเตือน ส.ส.เลิกหนุนนายสมัคร สุนทรเวช หวนคืนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีรอบ 2 โดยระบุว่าหลังจากมีข่าวลือความแตกแยกเกิดขึ้นในพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง โดยมีการประกาศตัวชัดเจน และพร้อมแหกโผไม่โหวตเลือกนายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย ล่าสุด วันนี้ (11 ก.ย.) มีข่าวลือในสภา ระบุกำลังมีเงินสะพัด มีการแจกเงินคนละ 10 ล้าน ให้กับกลุ่มที่จะแหกโผ ท้ายที่สุดเรื่องที่จะแหกโผก็เงียบลงไปทันที
ทั้งนี้ นายสมเกียรติชี้ให้เห็นถึงสาเหตุที่นายสมัครอยากกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ ก็หวังต่อยอดเซ็นลงนามอนุมัติในโครงการต่างๆ ต่อเนื่องจากครั้งอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหนแรก ฉะนั้น การกลับมาคราวนี้เปรียบได้เหมือนการกลับมาเพื่อปล้นชาติบ้านเมืองอย่างมโหฬาร เอิกเกริก และตบหน้าท้าทายอำนาจของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่สนใจแม้นคำพิพากษาของศาล ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นทั้งปวง
นายสมเกียรติ ระบุว่า รัฐบาลต้องพึ่งสำนึกระวังให้ดี เพราะมีสัญญาณจากผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่งเตือนไปแล้วถึง 3 ครั้ง โดยเฉพาะกรณีของพรรคร่วมรัฐบาล อยากฝากข้อคิดเตือนเป็นกรณีพิเศษ 3 ข้อ คือ 1.พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมืองในการตัดสินใจโหวตเลือกนายสมัคร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี อดีตที่ผ่านมาก็เพราะพรรคการเมืองเหล่านี้ใช่หรือไม่ ที่ประกาศสนับสนุน พล.อ.สุจินดา คราประยูร ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นก็ถูก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วยคณะล้มลงในท้ายที่สุด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมพรรคการเมืองเหล่านี้ ถึงชอบนักชอบหนาในการสนับสนุนพรรคมารเหล่านี้
ประการที่ 2 พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องแสดงความซื่อสัตย์ สุจริต โดยเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่คิดแต่ร่วมรัฐบาลท่าเดียว แล้วการเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นตัวตั้งนั้น พรรคร่วมต้องประกาศในวันที่ 12 กันยายน พร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลง หลัง ผบ.ทบ.ได้ส่งคำเตือนครั้งที่ 3 ไปแล้วว่า อย่าตั้งนายกรัฐมนตรีที่นำมาซึ่งความขัดแย้งในชาติ ฉะนั้นพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องกล้ารับผิดชอบร่วมกับพรรคพลังประชาชน
ส่วนประการที่ 3.อย่าตีกรรเชียงหลบซ้อนตัวในมุมมืด หรือส้วม ถังขยะ ต้องกล้าเปิดเผยกับประชาชนว่า จะไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่โกงชาติ สร้างปัญหาให้บ้านเมือง ทำให้คนไทยเข่นฆ่ากันเอง พรรคร่วมรัฐบาลต้องแสดงเจตนารมณ์ให้ชัดเจน เสนอหน้าออกมารับผิดชอบต่อสังคม ต่อไปประชาชนจะไม่ด่าพรรคพลังประชาชนพรรคเดียว แต่จะลงโทษพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ที่ผ่านมาพันธมิตรฯ ไม่เคยกล่าวถึงพรรคร่วมรัฐบาลในทางร้ายเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เมื่อประเทศถึงวิกฤติโอกาสสุดท้ายของท่านมาถึง ก็ควรหันมาร่วมกับประชาชนร่วมกันในการฟันฝ่าอุปสรรคที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ นายสมเกียรติยังเรียกร้องให้ ส.ส.ทั้งหมดต้องเห็นแก่ประเทศชาติ ต้องเป็นผู้แทนประชาชน มีสิทธิ์อิสระในการโหวต ฉะนั้น ส.ส.ทุกคนควรโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ โดยไม่นำเรื่องของพรรคเข้ามาเกี่ยวข้อง การโหวตต้องมีอิสระที่แท้จริง หากทำได้ประเทศจะสามารถผ่านวิกฤต รัฐสภาจะเป็นองค์กรที่สามารถฝากผีฝากไข้และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ ฉะนั้น ครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสุดท้าย หากยังขืนทำผิดอีก สร้างความผิดหวังให้กับประชาชน ส่งเสริมคนเลวให้กลับมามีอำนาจ ท่านจะเสียใจไปตลอดชีวิตแน่นอน