นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการตั้งพรรคเพื่อไทยไว้สำรองหากพรรคพลังประชาชนถูกยุบ โดยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารรพรรคว่า การเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคทำได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้าม แต่ต้องแจ้งไปยังนายทะเบียนพรรคการเมือง จากนั้นก็จะเสนอมาที่ กกต. โดย กกต.จะพิจารณาตอบรับว่าให้เปลี่ยนแปลงหรือไม่ ซึ่งจะเป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง ทั้งนี้การเปลี่ยนจะต้องดูว่ามีการประชุมใหญ่หรือไม่ และบุคคลที่จะมาเป็นกรรมการบริหารพรรคมีคุณสมบัติเหมาะสมครบถ้วนหรือไม่
ที่ว่าเป็นอะไหล่พรรคพลังประชาชนนั้นคงไม่ใช่ประเด็นว่าพรรคการเมืองจะมีพรรคสำรองตั้งไว้ได้หรือไม่ เพราะไม่มีกฎหมายห้าม ดังนั้นหากพรรคการเมือง ถูกยุบและ ส.ส.จะพากันไปเข้าสังกัดพรรคการเมืองใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพรรคที่ตั้งไว้แล้วหรือตั้งใหม่ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทย ตั้งมาครบ 1 ปี แล้ว จากที่ตั้งเมื่อเดือน ก.ย. 2550 ซึ่งเป็น 1 ใน 66 พรรคการเมืองที่ กกต.อนุญาตให้จดทะเบียนจัดตั้งแล้ว ทั้งนี้ ส.ส.ที่อยู่ในพรรคที่ถูกยุบจะเลือกไปสังกัดพรรคเพื่อไทย หรือพรรคอื่นๆ ก็ได้ แต่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงตัวกรรมการบริหารพรรค เบื้องต้นได้แจ้งเพียงเรื่องการขยายสาขาพรรคเพิ่มเป็น 6 สาขา และ กกต.กำลังตรวจสอบอยู่
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย จะส่งคนลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งซ่อมที่จ.ร้อยเอ็ด หากศาลฎีกาสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ และเพิกถอนสิทธิ นายนพดล พลชื่อ ส.ส.ร้อยเอ็ด รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินตามที่กกต.เสนอนั้น นางสดศรี กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย สามารถส่งผู้สมัครลงแข่งขันในเขตดังกล่าวได้ เพราะเป็นพรรคการเมืองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามตนก็ยังไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อแผ่นดินจะไปเป็นพรรคเดียวกันกับเพื่อไทยหรือไม่ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องในอนาคต ในกรณีที่หากมีการยุบพรรคเกิดขึ้น
นางสดศรีกล่าวด้วยว่า หากพรรคเพื่อแผ่นดินถูกยุบพรรค ส.ส.ที่อยู่ในพรรค ที่ถูกยุบจะต้องมีปัญหาแน่ แต่สามารถหาพรรคอยู่ใหม่ได้ คนที่จะเป็นรัฐมนตรีก็จะต้องมาจาก ส.ส. ซึ่งก็ต้องเป็นเสียงข้างมากในสภาฯ แต่ถ้าพรรคถูกยุบไปแล้ว เสียงหายไป ก็ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี
ส่วนที่แต่ละพรรคพยายามลดจำนวนกรรมการบริหารพรรคและให้คนภายนอก มาเป็นแทนเพื่อหลีกเลี่ยงกรณีกรรมการบริหารพรรคถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองนั้น นางสดศรี กล่าวว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุว่ากรรมการบริหารพรรคจะต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่คนที่เป็นหัวหน้าพรรคจะต้องเป็นกรรมการบริหารพรรค เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่านายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้งและเป็น ส.ส. ส่วนการจะให้บุคคลที่ไม่ข้องเกี่ยวกับการเมืองเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรคแทน ส.ส.นั้น ถ้าหากว่าข้อบังคับเปิดโอกาสก็สามารถทำได้ ซึ่งทางพรรคต้องแจ้งข้อบังคับพรรคให้ กกต.ได้รับทราบ แต่ กกต.ไม่มีกระบวนการเข้าไปตรวจสอบเพื่อเอาโทษได้
การจะเอาคนมาเป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่น่าจะเอาใครก็ได้มาเป็น อย่างเช่น แม่บ้าน หรือ ภารโรง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องคิดและต้องดูความเหมาะสมด้วย กกต.ก็ต้องดูว่าการตั้งกรรมการบริหารพรรคมาเหมาะสมหรือไม่ การตั้งคนไม่เหมาะสมเข้าต้องดูว่าเป็นความพยายามในการหลีกเลี่ยงกฎหมายหรือไม่
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ว่าพรรคการเมืองใหม่ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับพรรคพลังประชาชนถูกยุบชื่ออะไร พรรคดังกล่าวก็มีเศรษฐีเป็นเจ้าของฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องระดมทุน เพื่อไปต่อสู้ ทั้งนี้การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการยืนยันว่า ระบอบทักษิณยังอยู่ ซึ่งตนยืนยันตลอดเวลาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรยังไม่คิดเลิกจากการเมือง และฝ่ายรัฐบาลออกมาตอบโต้ตน แต่ข้อเท็จจริงได้ปรากฎแล้ว ในที่สุดฝ่ายรัฐบาลก็บอกเองว่า พอเกิดปัญหาความขัดแย้งกันแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์ถึงคนนั้นคนนี้เพื่อให้ยุติ ก็แสดงให้เห็นว่าการเป็นเจ้าของพรรคที่แท้จริงคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อไปอีกกี่ชื่อก็ตาม ก็ยังเหมือนเดิม เหมือนกับเปลี่ยนกระดาษห่อของ ที่สุดท้ายเนื้อสินค้าข้างในยังคงเดิม
นายสุเทพ กล่าวว่าในวันที่ 20 ก.ย.นี้พรรคจะจัดงานระดมทุนที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของประชาชน ไม่มีนายทุนจึงต้อง มาเปิดรับบริจาคจากประชาชน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเดียว ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลนี้ จึงต้องเตรียมพร้อมในทุกกรณี ไม่เช่นนั้นจะทำให้รัฐบาลยึดครองอำนาจ เหลิงอำนาจ เพราะมีกำลังเพียงฝ่ายเดียว ไม่มีใครต่อสู้ด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคพลังประชาชนอ้างว่าแม้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีจะถูกตัดสินจาศาลรัฐธรรมนูญว่าขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ก็อาศัยเสียงข้างมากโหวตให้มาเป็น นายกรัฐมนตรีได้อีกว่าต้องไปดูว่าหากขาดคุณสมบัติจะกระทบตำแหน่งใดและกระทบอย่างไร เมื่อเสียงข้างมากยังเป็นของพรรคร่วมรัฐบาลย่อมจะทำได้ ส่วนหากรัฐบาลจะทำเช่นเดียวกับการกลับเข้ารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ของนายไชยา สะสมทรัพย์ ก็เป็นเรื่องที่ทำได้เพราะรัฐบาลมีเสียงข้างมาก
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าอดีตข้าราชการที่มีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองจะมา ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นปกติของ พรรคการเมืองที่มีเกิดมีหายไปอยู่ตลอดเวลา ตนไม่แน่ใจว่าผู้ตั้งพรรคมีเจตนาอย่างไร ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์คิดว่าการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองเป็นสิ่งที่ดี
ที่ว่าเป็นอะไหล่พรรคพลังประชาชนนั้นคงไม่ใช่ประเด็นว่าพรรคการเมืองจะมีพรรคสำรองตั้งไว้ได้หรือไม่ เพราะไม่มีกฎหมายห้าม ดังนั้นหากพรรคการเมือง ถูกยุบและ ส.ส.จะพากันไปเข้าสังกัดพรรคการเมืองใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพรรคที่ตั้งไว้แล้วหรือตั้งใหม่ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทย ตั้งมาครบ 1 ปี แล้ว จากที่ตั้งเมื่อเดือน ก.ย. 2550 ซึ่งเป็น 1 ใน 66 พรรคการเมืองที่ กกต.อนุญาตให้จดทะเบียนจัดตั้งแล้ว ทั้งนี้ ส.ส.ที่อยู่ในพรรคที่ถูกยุบจะเลือกไปสังกัดพรรคเพื่อไทย หรือพรรคอื่นๆ ก็ได้ แต่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงตัวกรรมการบริหารพรรค เบื้องต้นได้แจ้งเพียงเรื่องการขยายสาขาพรรคเพิ่มเป็น 6 สาขา และ กกต.กำลังตรวจสอบอยู่
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย จะส่งคนลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งซ่อมที่จ.ร้อยเอ็ด หากศาลฎีกาสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ และเพิกถอนสิทธิ นายนพดล พลชื่อ ส.ส.ร้อยเอ็ด รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินตามที่กกต.เสนอนั้น นางสดศรี กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย สามารถส่งผู้สมัครลงแข่งขันในเขตดังกล่าวได้ เพราะเป็นพรรคการเมืองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามตนก็ยังไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อแผ่นดินจะไปเป็นพรรคเดียวกันกับเพื่อไทยหรือไม่ เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องในอนาคต ในกรณีที่หากมีการยุบพรรคเกิดขึ้น
นางสดศรีกล่าวด้วยว่า หากพรรคเพื่อแผ่นดินถูกยุบพรรค ส.ส.ที่อยู่ในพรรค ที่ถูกยุบจะต้องมีปัญหาแน่ แต่สามารถหาพรรคอยู่ใหม่ได้ คนที่จะเป็นรัฐมนตรีก็จะต้องมาจาก ส.ส. ซึ่งก็ต้องเป็นเสียงข้างมากในสภาฯ แต่ถ้าพรรคถูกยุบไปแล้ว เสียงหายไป ก็ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี
ส่วนที่แต่ละพรรคพยายามลดจำนวนกรรมการบริหารพรรคและให้คนภายนอก มาเป็นแทนเพื่อหลีกเลี่ยงกรณีกรรมการบริหารพรรคถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองนั้น นางสดศรี กล่าวว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุว่ากรรมการบริหารพรรคจะต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่คนที่เป็นหัวหน้าพรรคจะต้องเป็นกรรมการบริหารพรรค เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่านายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้งและเป็น ส.ส. ส่วนการจะให้บุคคลที่ไม่ข้องเกี่ยวกับการเมืองเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรคแทน ส.ส.นั้น ถ้าหากว่าข้อบังคับเปิดโอกาสก็สามารถทำได้ ซึ่งทางพรรคต้องแจ้งข้อบังคับพรรคให้ กกต.ได้รับทราบ แต่ กกต.ไม่มีกระบวนการเข้าไปตรวจสอบเพื่อเอาโทษได้
การจะเอาคนมาเป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่น่าจะเอาใครก็ได้มาเป็น อย่างเช่น แม่บ้าน หรือ ภารโรง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องคิดและต้องดูความเหมาะสมด้วย กกต.ก็ต้องดูว่าการตั้งกรรมการบริหารพรรคมาเหมาะสมหรือไม่ การตั้งคนไม่เหมาะสมเข้าต้องดูว่าเป็นความพยายามในการหลีกเลี่ยงกฎหมายหรือไม่
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ว่าพรรคการเมืองใหม่ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับพรรคพลังประชาชนถูกยุบชื่ออะไร พรรคดังกล่าวก็มีเศรษฐีเป็นเจ้าของฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องระดมทุน เพื่อไปต่อสู้ ทั้งนี้การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการยืนยันว่า ระบอบทักษิณยังอยู่ ซึ่งตนยืนยันตลอดเวลาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรยังไม่คิดเลิกจากการเมือง และฝ่ายรัฐบาลออกมาตอบโต้ตน แต่ข้อเท็จจริงได้ปรากฎแล้ว ในที่สุดฝ่ายรัฐบาลก็บอกเองว่า พอเกิดปัญหาความขัดแย้งกันแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์ถึงคนนั้นคนนี้เพื่อให้ยุติ ก็แสดงให้เห็นว่าการเป็นเจ้าของพรรคที่แท้จริงคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อไปอีกกี่ชื่อก็ตาม ก็ยังเหมือนเดิม เหมือนกับเปลี่ยนกระดาษห่อของ ที่สุดท้ายเนื้อสินค้าข้างในยังคงเดิม
นายสุเทพ กล่าวว่าในวันที่ 20 ก.ย.นี้พรรคจะจัดงานระดมทุนที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของประชาชน ไม่มีนายทุนจึงต้อง มาเปิดรับบริจาคจากประชาชน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเดียว ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลนี้ จึงต้องเตรียมพร้อมในทุกกรณี ไม่เช่นนั้นจะทำให้รัฐบาลยึดครองอำนาจ เหลิงอำนาจ เพราะมีกำลังเพียงฝ่ายเดียว ไม่มีใครต่อสู้ด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคพลังประชาชนอ้างว่าแม้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีจะถูกตัดสินจาศาลรัฐธรรมนูญว่าขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ก็อาศัยเสียงข้างมากโหวตให้มาเป็น นายกรัฐมนตรีได้อีกว่าต้องไปดูว่าหากขาดคุณสมบัติจะกระทบตำแหน่งใดและกระทบอย่างไร เมื่อเสียงข้างมากยังเป็นของพรรคร่วมรัฐบาลย่อมจะทำได้ ส่วนหากรัฐบาลจะทำเช่นเดียวกับการกลับเข้ารับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ของนายไชยา สะสมทรัพย์ ก็เป็นเรื่องที่ทำได้เพราะรัฐบาลมีเสียงข้างมาก
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าอดีตข้าราชการที่มีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองจะมา ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นปกติของ พรรคการเมืองที่มีเกิดมีหายไปอยู่ตลอดเวลา ตนไม่แน่ใจว่าผู้ตั้งพรรคมีเจตนาอย่างไร ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์คิดว่าการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองเป็นสิ่งที่ดี