เลขาฯ กกต.เผย “หมัก-เลี้ยบ” ทำหนังสือขอเลื่อนชี้แจงข้อเท็จจริงคดียุบ พปช.ออกไป 27 ส.ค.อ้างติดภารกิจ แต่กกต.ไม่อนุญาต เพราะทำให้ล่าช้า ขณะเดียวกัน คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ให้ใบแดงกับยงยุทธ กก.บห.พรรค ชัดเจนแล้ว แต่อะลุ้มอะล่วยให้ชี้แจงเป็นเอกสารได้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุทธิพล ทวีชัยการ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (7 ส.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณาสำนวนการยุบพรรคพลังประชาชนว่า ล่าสุดนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคฯ ได้ส่งหนังสือมาเพื่อขอเลื่อนการเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงจากวันที่ 7 หรือ 8 สิงหาคม เป็นวันที่ 27 สิงหาคม เนื่องจากติดภารกิจ แต่ทางคณะอนุกรรมการเห็นว่าหากมีการขยายเวลาออกไปจะทำให้ล่าช้า และเลยเวลาที่ กกต.กำหนด ประกอบกับได้มีคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ให้ใบแดงต่อนายยงยุทธ ติยะไพรัช กรรมการบริหารพรรคฯ ชัดเจนแล้ว จึงมีมติให้บุคคลทั้งสองต้องเดินทางเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงภายในวันที่ 13 สิงหาคมนี้
อย่างไรก็ตาม หากบุคคลทั้งสองไม่สามารถเดินทางมาชี้แจงได้ด้วยตนเอง ทางคณะอนุกรรมการอนุญาตให้สามารถชี้แจงเป็นเอกสารแทนได้
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค และน.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ขอเลื่อนการเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการสอบสวนกรณียุบพรรคพลังประชาชน ว่า ที่บุคคลทั้ง 2 ขอเลื่อนเข้าชี้แจงเป็นวันที่ 27 ส.ค.มีการอ้างว่าติดภารกิจต้องเดินทางไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค แต่ทางอนุกรรมการสอบสวนฯไม่อนุญาต โดยกำหนดให้มาชี้แจงภายในวันที่ 13 ส.ค. เพราะวันที่ 15 ส.ค.จะครบกำหนดการขยายเวลาสอบสวนที่กกต.ให้กับอนุกรรมการฯ ดังนั้นหากภายในวันที่ 13 ส.ค.บุคคลทั้ง 2 ไม่มาชี้แจงด้วยตนเองก็สามารถส่งเป็นเอกสารมาชี้แจงได้
“ การเปิดโอกาสให้หัวหน้าและเลขาธิการพรรคพลังประชาชนชี้แจง ก็เพื่อให้การสอบสวนครบถ้วน และเป็นองค์ประกอบในการวินิจฉัยของ กกต. อีกทั้งเรื่องดังกล่าวมีคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งอยู่แล้ว ซึ่งการที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคทุจริตเลือกตั้ง ตามกฎหมายจะต้องดำเนินการยุบพรรค”
ด้านนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่แจ้งต่อผู้เกี่ยวข้องทุกคนว่า หากไม่สามารถมาชี้แจงตามกำหนดเวลาได้ก็ขอให้ทำคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งการที่ กกต.กำหนดให้มาชี้แจงอีกครั้งภายในวันที่ 13 ส.ค.ไม่ใช่ว่า กกต.ไม่ให้โอกาสแต่การให้โอกาสไม่จำเป็นต้องมานั่งซักใซ้กัน หรือมาเอง สามารถชี้แจงเป็นเอกสารได้ และการทำงานของอนุกรรมการสอบสวนฯ กกต.ก็เห็นว่าให้เวลามาพอสมควรแล้ว คงจะไม่มีการเลื่อนเวลาการสอบสวนออกไปอีก ดังนั้นทางอนุกรรมการสอบสวนฯ คงจะเสนอรายงานสรุปผลการสอบสวนให้ กกต.ทราบภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้
นายอภิชาต ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณาสำนวนคำร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งของนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ กกต.ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการสอบสวนไปพิจารณาว่า แม้จะครบกำหนดระยะเวลาการสอบสวนแล้ว แต่วานนี้ ( 7 ส.ค.) ทางอนุกรรมการฯ ได้แจ้งมาว่าจะขอสอบพยานเพิ่มอีก 4 ปาก ซึ่งหากมีการสรุปสำนวนส่งมาเมื่อไหร่ก็จะเร่งนำเข้าที่ประชุม กกต.โดยเร็วที่สุด และเชื่อว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวน่าจะเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งไม่น่าจะเกินวันที่ 15 ส.ค.
ส่วนนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้งกล่าวถึงกรณีมี ส.ส.พรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า มี ส.ส.ในพรรคดำเนินการหางบประมาณจากการกินหัวคิวจากโครงการใหญ่ของรัฐบาล เพื่อนำใช้ในการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ว่าเรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องภายในของพรรค และยังไม่มีการร้องเรียนเข้ามา ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง หรือ กฎหมายเลือกตั้ง เป็นเพียงข่าวในหนังสือพิมพ์ กกต.คงไม่ไปตรวจสอบอะไร อย่างไรก็ตามในเรื่องการใช้จ่ายเงินของพรรคการเมือง หากมีการร้องเรียนเข้ามา กกต.ก็สามารถที่จะตรวจสอบที่มาของเงินดังกล่าวได้