ผู้จัดการออนไลน์ – ผบ.ทบ.โผล่บี้ นายกฯ แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ 7 ต.ค. ยืนยันไม่ปฏิวัติ เพราะไม่เกิดผลดี ตอก “บิ๊กจิ๋ว” ให้ไปเคลียร์เหตุการณ์กับพวกรัฐบาลให้เรียบร้อยก่อนยุปฏิวัติ ปูดตำรวจวางแผนทำปฏิวัติ “ปฐมพงษ์” ออกโรงอัดน้อง ผบ.เหล่าทัพ ถ้าแยกผิด-ถูกไม่ออก จะเป็นทหารของพระราชาและประชาชนได้อย่างไร ชี้ ตร.ไปอยู่ชายแดนภาคใต้ดีกว่า
วันนี้ (10 ต.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” ทางช่อง 3 โดยเรียกร้องให้รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมากกว่า 400 คน
“ถ้าผมไม่ออกมาพูดอย่างนี้ สังคมก็ไม่มีทางยอมรับ ผมไม่ได้บอกว่ารัฐบาลผิดหรือไม่ผิด แต่ต้องมีผู้รับผิดชอบ ต้องพิจารณาตัวเองว่าจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ไม่เช่นนั้นก็จะมีการออกมากดดันให้ทหารปฏิวัติอีก ซึ่งไม่ดีกับประเทศอย่างยิ่ง ส่วนรัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร ก็มีหลายหนทาง ซึ่งผมคิดว่าทุกคนคงทราบดีว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสามารถเดินต่อไปได้” ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า ตนได้ประเมินแล้วว่า หากทหารจะออกไป ก็หมายถึงการทำปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็ออกมาให้ความเห็นว่าไม่ควรทำ เช่น นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ก็ออกมาพูดชัดว่า ปฏิวัติไม่ได้ และยังมีกลุ่มนักวิชาการอีกหลายต่อหลายคนที่เห็นว่าทหารไม่ควรออกมาปฏิวัติ ถ้าทำปฏิวัติแล้วเหตุการณ์เรียบร้อยก็น่าศึกษาพิจารณา แต่เมื่อพิจารณารอบด้านแล้วเห็นว่า แม้ทหารจะออกไปทำปฏิวัติ แต่การชุมนุมก็ยังอยู่ต่อไป ประเทศชาติก็เสียหาย การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร ถ้ามีเลือกตั้ง นักการเมืองเก่าก็จะกลับเข้ามาอีก ดังนั้น ถ้าทำไปแล้วไม่มีประโยชน์และไม่น่าจะคุ้มกัน ถ้าจะทำเช่นนั้น ยังมีวิธีอื่นที่ดีกว่า เช่น การเรียกร้อง การแสดงพลังให้ผู้มีอำนาจได้พิจารณา
ตอก “บิ๊กจิ๋ว” หน้าหงาย
ส่วนกรณีที่ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า ไม่มีทางอื่นนอกจากทหารจะเข้ามายึดอำนาจ และบอกว่า พล.อ.อนุพงษ์ อย่ากลัวนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดทันทีว่า
“ผมไม่มีความกลัว ท่าน (พล.อ.ชวลิต) เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า คิดว่า ท่านควรแก้ปัญหาว่าใครสั่งการคืนวันที่ 6 ตุลาคม ต่อเนื่องวันที่ 7 ตุลาคมให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า ไปพูดกับหมอประเวศ ให้เรียบร้อยก่อน”
เตือน ตร.หยุดใช้ความรุนแรง
ส่วนที่ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรอง ผบ.ตร.อาสาจะนำอดีตตำรวจเข้ายึดทำเนียบคืนนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนว่าถ้าว่าตามกฎหมายไม่น่าจะทำได้ และไม่น่าจะเป็นประโยชน์
ต่อมา ผบ.ทบ.ยังตอบข้อสงสัยด้วยว่า เหตุใดทหารจึงไม่ออกมาช่วยประชาชนในวันที่ 7 ต.ค. โดยระบุว่า ถ้าทหารออกไปก็ต้องมีการปะทะกับตำรวจ และแน่นอนว่า ย่อมมีลูกหลงโดนประชาชน และอาจมีคำถามว่าทหารออกมาได้อย่างไร ทั้งที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ นอกจากนี้ประเทศจะแบ่งเป็นฝ่าย ไม่เกิดผลดี
ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุ ผู้บัญชาการทั้งเหล่าทัพได้ประสานไปยัง ผบ.ตร.แล้วว่าให้หยุดการใช้ความรุนแรง พร้อมยืนยันว่า ทหารเป็นทหารของประชาชน จะไม่ทำในสิ่งที่เสียหายกับประเทศ แต่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางปฏิวัติของตำรวจที่ทำให้เกิดความสูญเสีย ส่วนสถานการณ์จะยุติอย่างไรนั้น ผบ.ทบ.กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะให้สถานการณ์เป็นอย่างไร
“ปฐมพงษ์” ฉุน จวก ผบ.เหล่าทัพ
พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด (บก.สส.) กล่าวถึงการแก้ภาพลักษณ์ของทหารที่ไม่อยู่ข้างประชาชน ว่า ทหารก็ต้องรู้ว่าประชาชนคาดหวังอะไรกับเรา แต่ในขั้นสุดท้ายทหารทำให้ความหวังของประชาชนต้องสูญสลาย ประชาชนไม่ได้คาดหวังทหารในตัวบุคคล เขาหวังในองค์กรทั้งหมดว่ากองทัพทั้งหมดจะต้องออกมาปกป้องประชาชน
“ทหารอ้างตนเองว่า เป็นทหารของประชาชน เมื่อประชาชนถูกทำร้าย พูดได้ยังไง อ้างว่า เป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่กลับปล่อยให้มีเว็บไซต์ต่างๆ โจมตีสถาบันเบื้องสูง คุณอ้างได้ไงว่าเป็นทหารของแผ่นดิน เมื่อแผ่นดินทั้งหมดถูกนักการเมืองเอาประเทศชาติไปแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ การแก้ภาพลักษณ์ทหารต้องออกมาขอโทษประชาชน และกราบขออภัยโทษในหลวง และต้องทำให้พวกที่หมิ่นสถาบันต้องสูญหายไป รวมทั้งไอ้พวกที่ทำลายชาติบ้านเมืองพวกเอาแผ่นดินไปขาย แม้กระทั่งพวกที่ทำร้ายประชาชน ต้องจัดการนี่คือ วิธีการแก้ภาพลักษณ์ของทหาร” พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี แสดงท่าทีจะประกาศยุบสภา พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวว่า ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะทำอะไรก็คงไม่พ้นความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกหน่วยราชการ หรือ ผู้บังคับบัญชาก็ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะประชาชนได้รับทราบตลอดเวลา ว่าจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายประชาชน และวันที่เกิดปัญหาไปอยู่ที่ไหน วันที่ประชาชนเรียกร้องหา เมื่อประชาชนดีใจว่าจะออกมา แต่กลับมาช่วยตำรวจ หลักการ และเหตุผล จริยธรรมต้องมีต้องพูดตรง
“คุณไม่สามารถเป็นผู้บังคับบัญชาของกองทัพได้เลย ตราบใดที่คุณยังจำแนกไม่ได้ว่าอะไรถูกอะไรควร หรืออะไรคือสิ่งที่คุณต้องกระทำ สมบัติทั้งหลายแหล่นั่นเป็นสมบัติของชาติบ้านเมือง สักวันคุณก็ต้องเกษียณ แล้วคุณจะไปอยู่ในรูหรือไง คนที่มีเงินมากแต่จิตใจมันชั่วช้าต่ำทราม มันก็อยู่ไม่ได้ ตนไม่เชื่อว่า คนทั้งหมดจะเห็นดีด้วยกับคุณ กองทัพทั้งหมดชั่งใจแล้วว่า เขาต้องการมีกองทัพแบบไหน มีผู้บังคับบัญชาแบบใด อย่าคิดว่าคุณจะใช้อำนาจที่มีอยู่ดำเนินการใดๆ ก็ได้ ทุกวันนี้ประเทศไม่เหลือซากแล้ว” พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าว
พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวต่อว่า ตำรวจที่กล้าใช้อาวุธอย่างสนุกกับประชาชน ตนอยากให้ไปช่วยงานด้านชายแดนภาคใต้ น่าจะมีประโยชน์กว่า และขอให้ทุกคนออกมาช่วยเหลือกันทำให้ประเทศสงบสุข เพราะอย่างไรเราก็เป็นคนไทยด้วยกัน