นายกฯชิงออกตัวแก้ รธน.เป็นหน้าที่ของสภา และถือเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส.รัฐบาลก้าวก่ายไม่ได้ ทำไขสืออ้างไม่เคยเห็นร่าง รธน.ฉบับ คปพร.ด้านเจ้าหน้าที่พิมพ์แจกสื่อมวลชนสะพัด ยันเจตนารมณ์แก้ รธน.เพื่อตั้ง ส.ส.ร.3
วันนี้ (3 ต.ค.) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายโรลอง นีดี้ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในโอกาสที่ นายสมชาย ได้รับการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย จากนั้น นายเยฟเกนี อฟานาเซียฟ เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เป็นลำดับถัดมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้นำเอกสาร “คำแถลงนโยบายรัฐบาลของคณะรัฐมนตรี” จำนวน 300 เล่ม มาแจกจ่ายให้ผู้สื่อข่าวก่อนที่รัฐบาลจะมีการแถลงนโยบายรัฐบาลอย่างเป็นทางการในวันที่ 7-9 ต.ค.นี้
จากนั้น นายสมชาย เดินทางไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อลงนามถวายพระพรสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสคล้ายวันพระประสูติครบรอบ 95 พรรษา ก่อนเดินทางเข้าร่วมประชุมหารือ 4 ฝ่าย ระหว่าง ประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาแนวทางในการปฏิรูปทางการเมือง ณ ห้องรับรอง 1 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1
นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุม 4 ฝ่าย ถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา นำร่างรัฐธรรมนูญของ คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) ที่นำโดย นพ.เหวง โตจิราการ เสนอเข้าที่ประชุมสภา ซึ่งเกรงว่า จะเป็นการสวนทางกันว่า เป็นคนเรื่องละเรื่องกัน เท่าที่ฟังตามข่าวร่างดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญปี 50 มาตรา 291 ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้โดยวิธีใดบ้าง อาทิ คณะรัฐมนตรี ส.ส. และประชาชน ฉะนั้น คิดว่า ทางคณะของ นพ.เหวง คงดำเนินการไปตามรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเรื่องที่ทำตามกฎหมาย แต่แนวทางที่รัฐบาลมีนโยบายว่าจะสนับสนุนการดำเนินการโดยวิธีการให้ประชาชนทั้งประเทศมีส่วนร่วมในการดำเนินการ ในลักษณะของ ส.ส.ร.3 และนี่ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่จะต้องมาปรับปรุงมาตรา 291 เสียก่อน เพื่อนำไปสู่จุดนั้น
นายสมชาย กล่าวว่า วันนี้มาตามที่ประธานสภาเชิญ ฉะนั้น คิดว่า เรื่องนี้คงต้องแยก ไม่เกี่ยวกับการที่เอารัฐธรรมนูญมาเข้าก่อน ส่วนจะดำเนินการอย่างไรเป็นเรื่องของประธานสภา และสภาผู้แทนราษฎร เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำการคุยกับ นพ.เหวง ให้ถอนเรื่อง ให้กลไกที่รออยู่ดำเนินการไปก่อน นายสมชาย กล่าวว่า รัฐบาลก้าวก่ายไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิตามกฎหมาย เมื่อถามว่า การกระทำดังกล่าวถือว่านายชัยตบหน้านายกฯหรือไม่ หลังกลุ่มเพื่อนเนวิน ไม่พอใจการจัดตั้ง ครม.ที่ผ่านมา นายสมชาย กล่าวพร้อมหัวเราะว่า “ท่านจะตบหน้าผมทำไม ดีกันอยู่ ไม่มีอะไร ไม่ใช่เรื่องตบหน้าหรือไม่ตบหน้า ทุกอย่างผมยืนยันว่าการทำตามกฎหมายเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่มีใครไปมีความรู้สึกอะไรต่ออะไรทั้งสิ้น ผมเองบอกแล้วว่าเคารพการทำตามกฎหมาย ไม่มีปัญหาอะไร”
ต่อข้อถามว่า ในฐานะที่คุมเสียงข้างมากในสภา เป็นไปได้หรือไม่ที่จะคุยกับ ส.ส.ของพรรคเพื่อที่จะรับหลักการหรือไม่รับ เพื่อไม่ให้เกิดการขัดขากันเอง นายกฯ กล่าวว่า เวลาประชุมพรรคเราก็หารือกัน แต่อย่าลืมว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 ระบุว่า ส.ส.มีอิสระในการที่จะทำอะไร เราพูดได้ แต่จะพูดในทางที่ไปกำหนดกฎเกณฑ์ โดยที่ทำให้เขาไม่มีอิสระนั้นไม่ได้ เมื่อถามว่า หากปล่อยค้างไว้รัฐบาลจะโดนข้อครหา เพราะร่างของ คปพร.เป็นประโยชน์สำหรับอดีตนายกฯ นายสมชาย ตอบว่า ยังไม่เคยเห็นร่างอะไรทั้งสิ้น และคิดว่าเมื่อเข้ามาก็เป็นเรื่องของสภาโดยแท้ ไม่ได้ผ่านรัฐบาล และรัฐบาลก็ไม่ได้มีส่วนในการช่วยเขียน ตรงนี้ไม่เกี่ยวเลย เมื่อถามว่า จะกำชับส.ส.ในการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้ชะลอหรือไม่รับหลักการหรือไม่ นายสมชาย ตอบว่า พูดถึงขั้นนั้นไม่ได้ เพราะยังไม่เคยเห็นร่าง และไม่อยากก้าวก่ายสภา เมื่อถามว่า พรรคพลังประชาชนจะหารือเรื่องนี้เมื่อใด นายสมชายกล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา การดำเนินการถ้าเป็นไปตามกฎหมายก็ไม่มีใครห้าม เพราะเป็นสิทธิของประชาชน เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
