“พิภพ” จวกรัฐบาลนอมินีฉวยโอกาสตั้ง ส.ส.ร.3 หวังแก้ไข รธน.ช่วย “แม้ว” พ้นผิด ลั่นพันธมิตรฯ ยอมไม่ได้เด็ดขาด เผยเนื้อหาการเมืองใหม่ล่าสุด เสนอตั้งสภาประชาชนถ่วงดุล 2 สภาเดิม และตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ พร้อมให้สัดส่วนนักการเมืองหญิงชายเท่าเทียมกัน โทษซื้อเสียงเหลือ “ใบแดง” อย่างเดียว พร้อมตัดสิทธิตลอดชีวิต ห้ามนายทุนบริจาคเงินพรรคการเมืองเกิน 1 พรรคและไม่เกิน 1 ล้าน กันอำนาจเงินครอบงำ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
เมื่อเวลา 21.45 น. วันที่ 1 ต.ค.นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงการที่รัฐบาลจะให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ชุดที่ 3 หรือ ส.ส.ร.3 ว่า เป็นการอาศัยกระแสที่ต้องการสร้างการเมืองใหม่และการปฏิรูปการเมือง ถือว่าพรรคพลังประชาชนฉวยโอกาสเนื่องจากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 อยู่แล้ว และพรรคพลังประชาชนนั้นไม่เคยคิดเรื่องการแก้ไขการเมืองน้ำเน่าเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังวิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรฯ อย่างเสียๆ หายๆ ที่เสนอเรื่องการเมืองใหม่โดยผ่านช่อง เอ็นบีที ในรายการ “ความเท็จวันนี้”
นายพิภพ กล่าวต่อว่า สิ่งที่แฝงไว้ในการฉวยโอกาส คือ จะแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 309, 190 และ 237 ด้วย ซึ่งการเมืองน้ำเน่าไม่มีทางจะปฏิรูปตัวเองได้ จะต้องปฏิรูปจากคนภายนอกเท่านั้น และวันนี้ประธานสภาก็จะรับร่างรัฐธรรมนูญจากพวก นปก.เข้าไปพิจารณา ซึ่งเป็นการกลับไปใช้รัฐธรรมนูญ 2540 โดยรู้ทั้งรู้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการทุจริตคอร์รัปชันและมีผลประโยชน์ทับซ้อน
นี่เป็นการฉวยโอกาสทับซ้อนกันจากกระแสที่ 24 อธิการบดีเสนอให้มีคณะกรรมการอิสระขึ้นมาแก้ไขปัญหาวิกฤติทางการเมือง และนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตัวเองไม่ยินดียินร้ายกับข้อเสนอ 24 อธิการบดี ไม่ยินดียินร้ายกับพันธมิตรที่เสนอการเมืองใหม่ อยู่ดีๆ ก็มาฉวยโอกาสจากกระแสที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเสนอเป็นนโยบายที่จะประกาศต่อรัฐสภาว่าจะตั้ง ส.ส.ร.3 โดยที่ยังไม่รู้ว่า ส.ส.ร.3 จะเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนแปลงการเมืองเก่าเป็นการเมืองใหม่อย่างไร
ที่จริงแล้วต้องการจะหมกเม็ด เพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเราต้องรู้ทันและต้องต่อต้านไม่ให้พรรคพลังประชาชนทำให้การเมืองเก่ากลับมาอีกครั้ง โดยการนำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้ ซึ่งแม้จะเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีฉบับหนึ่ง แต่ก็เปิดช่องให้นักการเมืองแทรกแซงองค์กรอิสระได้จนเกิดการทุจริตคอร์รัปชันขึ้นอย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ นายพิภพ กล่าวว่า การทำการเมืองใหม่นั้นทั้งฝ่ายพันธมิตรฯ และนักวิชาการเห็นตรงกันว่าจะต้องเริ่มจากการสร้างเนื้อหาสาระก่อน โดยมุ่งไปแก้ที่ต้นเหตุ ซึ่งก็คือการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็แล้วแต่จะต้องหาวิธีว่าจะแก้ปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นของนักการเมืองได้อย่างไร จะแก้ปัญหาเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงได้อย่างไร จะแก้ปัญหาองค์กรอิสระที่มาคุมการเลือกตั้งไม่ให้เกิดการทุจริตได้อย่างไร นี่เป็นเนื้อหาต้นๆ ที่จะทำ
ดังนั้น การจะให้นักการเมืองที่ทุจริตมาแก้ปัญหาทุจริตของตัวเองไม่มีทางเป็นไปได้แน่ จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนและนักวิชาการ องค์กรต่างๆ จะร่วมมือกัน เพราะวันนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ประชาชนไม่ต้องการให้รัฐบาลพรรคพลังประชาชนเป็นคนแก้การเมืองน้ำเน่า เพราะเน่าเสียเองและไม่มีความชอบธรรม เนื่องจากเป็นพรรคที่ กกต.ตัดสินว่าได้ใบแดงและกำลังจะนำไปสู่การยุบพรรค เราต้องเห็นประเด็นนี้ ต้องให้พรรคพลังประชาชนแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าแก้ไขเมื่อไหร่ก็จะแก้เพื่อปกป้องไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนที่เข้าไปแล้วก็จะนิรโทษกรรมต่อไปในอนาคต เพราะฉะนั้นเรายอมไม่ได้
“ประชาชนเท่านั้นที่จะเปลี่ยนการเมืองเก่าไปสู่ใหม่ และสังคมเริ่มยอมรับว่าการเมืองใหม่เท่านั้นที่เป็นคำตอบ อย่าปล่อยให้พรรคพลังประชาชนมาฉวยโอกาสเป็นอันขาด”
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ได้มีการประชุมเรื่องการเมืองใหม่ ซึ่งข้อสรุปที่สำคัญๆ นั้น เรื่องแรก ส.ส.หรือ ส.ว.ต้องคำนึงถึงเรื่องสัดส่วนของหญิง-ผู้ชาย เพราะที่ผ่านมานักการเมืองผู้ชายเป็นตัวปัญหา ทั้งเรื่องโกงกินและการมีบ้านเล็กบ้านน้อย ทำให้เกิดปัญหาสังคม มีการเสนอให้มีการนำผู้หญิงกับผู้ชายมาทำงานทางการเมืองในสัดส่วนที่เท่าๆ กัน
ขณะเดียวกันจะต้องมีสภาประชาชนขึ้นมาอีกสภาหนึ่ง นอกจากมีสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา โดยเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์ ได้เสนอให้มีสภาประชาชนขึ้นมาตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน แล้วให้มีอำนาจในการตรวจสอบการทุจริตและให้เพิ่มอำนาจเข้าไป ซึ่งจะเป็นมิติใหม่ของการคานอำนาจสภาผู้แทนราษฎร โดยสภาประชาชนนี้จะมีการรับรองตามกฎหมาย มีหน้าที่ให้ความรู้ ปลุกจิตสำนึกทางการเมือง ทำหน้าที่ในการตรจสอบ คัดค้าน และถอดถอนอำนาจรัฐได้ ซึ่งพันธมิตรฯ คือการจำลองสภาประชาชนกลายๆ เพราะมาจากทุกจังหวัด และมีความต้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
นอกจากนั้น ให้มีการยกเลิกการให้ใบเหลืองสำหรับคนที่ทุจริตเลือกตั้ง เพราะสามารถลงเลือกตั้งแล้วกลับเข้ามาใหม่ได้ จึงควรให้มีแต่ใบแดง คือ ห้ามลงเลือกตั้ง รวมถึงลงโทษทางอาญาจำคุกกี่ปีค่อยกำหนดกัน เสนอให้มีศาลเลือกตั้งขึ้นมาพิจารณาคดีเลือกตั้งโดยเฉพาะ เพิ่มโทษตัดสิทธิทางการเมืองผู้ที่ทุจริตตลอดชีวิต
คนที่เคยมีประวัติการทุจริตห้ามลงเลือกตั้ง ให้สภาประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้ง พร้อมสร้างแรงจูงใจและให้ความตุ้มครองแก่ประชาชนที่ชี้เบาะแส
เปิดให้ประชาชนเลือกจ่ายภาษีสนับสนุนพรรคการเมืองได้ไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกลุ่มทุนที่จะบริจาคสนับสนุนพรรคการเมืองจะต้องไม่สนับสนุนเกิน 1 พรรค และบริจาคได้ไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อไม่ให้นายทุนมาครอบงำพรรค ส่วนเงินสนับสนุนพรรคการเมืองนั้นให้หักมาจากภาษีประชาชนคนละไม้เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ ให้มีการตัดสิทธิทางการเมืองคนที่ขายเสียงด้วย เพื่อควบคุมทั้งต้นทางและปลายทาง
ควรรณรงค์ทางการเมืองผ่านสื่อสาธาณะอย่างจริงจัง ทีวีท่องช่องต้องเสนอรายการที่ยกระดับทางจริยธรรมและพัฒนาจิตสำนึกทางการเมือง ให้ประชาชน องค์กรประชาชน หรือสภาประชาชนเป้นผู้เสียหายโดยตรงจากการทุจริตคอร์รัปชันสามารถฟ้องคดีเองได้โดยตรง เสนอให้มีการให้รางวัลประชาชนที่เอาผิดนักการเมืองทุจริตได้ ให้มีการกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาคดีในทุกชั้นอย่างชัดเจน
นักการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติควรมีวาระและมีการเกษียณอายุนักการเมือง มิฉะนั้นจะเป็นไปตลอดชีวิต การกำหนดวาระ เช่น ไม่เกิน 2 วาระ หรือ ไม่เกิน 10 ปี จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักการเมืองรุ่นใหม่ได้เข้าสู่การเมือง
คนที่มีความผิดฐานทุจริตให้ขึ้นบัญชีดำห้ามลงเล่นการเมือง นักการเมืองที่ยกมือในสภาให้กับนักการเมืองที่ทุจริต จะต้องมีบทลงโทษทางกฎหมาย ข้าราชการระดับสูงให้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและนี้สินต่อสาธารณะ การพิจารณางบประมาณประจำปี ให้มีถ่ายทอดสดประชุมกรรมาธิการงบประมาณด้วย จะได้เห็นว่านักการเมืองต่อรองการใช้งบประมาณของรัฐอย่างไร เพื่อให้เกิดความโปร่งใส
นายพิภพ ย้ำว่า การเมืองใหม่ไม่ใช่เรื่องของ 5 แกนนำ แต่เป็นของประชาชน ข้อเสนอที่ออกมาไม่ใช่สิ่งที่แก้ไขไมได้ สังคมภายนอกสามารถเสนอกลับมาได้ ซึ่งเราพร้อมรับฟัง โดยสรุปก็คือการเมืองใหม่เป็นการเมืองที่ภาคประชาชนมีส่วนร่วม และเพิ่มอำนาจประชาชนให้เท่าเทียมกับนักการเมือง เพื่อการขจัดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน แก้ไขปัญหาจริยธรรมทางการเมืองให้ได้ ไม่เช่นนั้นชีวิตเราจะไม่มีความสุข คนจนจะยิ่งยากจนลง เงินภาษีของเราถูกโกงกิน การเมืองใหม่จะตอบสนองความต้องการของทุกชนชั้น แก้ไขปัญหาของคนยากคนจน