“สมเกียรติ” สุดทน ปลุก “พันธมิตรฯ” ต้าน “รัฐบาลซ่องโจร” เตรียมแก้ไข รธน. 6 ต.ค.นี้ ชี้ทางออกต้องร้องขอ ป.ป.ช.ให้รีบชี้มูลความผิด เผยผลการประชุม “การเมืองใหม่” น่าพอใจ เหตุเพราะที่ประชุมมีข้อสรุปให้มี “สภาประชาชน” เพื่อให้ ปชช.สามารถเข้าไปนั่งในสภา-ถอดถอน “ส.ส.พันธุ์ชั่ว” ได้อย่างจริงจัง
วานนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 23.10 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยโดยกล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องการเมืองใหม่ว่า มีนิทานเรื่องหนึ่ง ในรัชสมัยฮ่องเต้พระองค์หนึ่งของจีน มีขุนนางที่เป็นญาติกับฮ่องเต้ แล้วไปฉ้อราษฎร์บังหลวง กดขี่ข่มเหงประชาชน โดยขุนนางคนดังกล่าว รูปร่างเตี้ยคล้ายกับนักการเมืองไทยคนหนึ่ง และเมื่อเรื่องดังกล่าวล่วงรู้ถึงฮ่องเต้ ทำให้ฮ่องเต้วางแผนที่จะกำจัดขุนนางชั่ว ก็เลยสั่งให้ไปนับดาว ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง
“แต่ขุนนางชั่วก็ไปครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดาวถึงจะมีราคา จึงไปบอกกับประชาชนว่า ห้ามประชาชนก่อไฟหุงหาอาหาร เพราะควันจะไปบังดวงดาว แต่ถ้าใครจะจุดไฟก็ให้เสียค่าแป๊ะเจี๊ยะ ก็สามารถหุงหาอาการได้ และความชั่วของขุนนางคนดังกล่าวก็คือ การเมืองเก่า และถ้าเป็นการเมืองใหม่ เราก็จะใช้วิธีตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต เหมือนกับเป็นการตอนอย่างถาวร” นายสมเกียรติ ระบุ
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า วันนี้มีความหวังมาก เพราะไปนั่งประชุมการเมืองใหม่ 4 ชั่วโมง และข้อสรุปที่ออกมาดีมาก โดยเฉพาะข้อสรุปที่ 10 ดีที่สุด คือ ให้มีสภาประชาชน และยกฐานะการเมืองภาคประชาชนให้สูงเด่นขึ้นมา นี่คือข้อเสนอที่สุดยอด เพราะพี่น้องประชาชนสามารถเข้าไปนั่งในอยู่สภาของประชาชนแท้ๆ ได้ แล้วยังสามารถทำหน้าที่ถอดถอนนักการเมืองได้อีกด้วย จึงต้องขอขอบคุณพี่น้องที่มาร่วมชุมนุมกันในวันนี้ โดยเฉพาะข้อเสนอของนายนวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์ เพราะทำให้เรามีโอกาสตั้งสภาประชาชนของตนเอง
“วานนี้ไปประชุมสภาเศร้ามาก เพราะประธานรัฐสภาชื่อนายชัย ชิดชอบ ซึ่งโกงที่ดินรถไฟ เสนอให้มีวาระเร่งด่วนในวันที่ 6 ต.ค.นี้ คือ 1.ขอความเห็นชอบรัฐสภาประชุมร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอความเห็นให้การยกประสาทเขาพระวิหารเป็นเรื่องถูกต้อง แล้วอย่างนี้รัฐบาลไม่เรียกว่าเลว แล้วจะเรียกว่าอะไร เราสู้มาแทบตาย แต่พวกมันบอกว่าปราสาทเขาพระวิหารไม่ใช่ของไทยตามพ่อของพวกมันหมดเลย ในวันนี้เรื่องมันแดงแจ๋แล้ว และในวันที่ 13 ต.ค.นี้ พวกมันจะยกโขยงไปไหว้พ่อมันที่กัมพูชา” นายสมเกียรติ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ตอนนี้คนเหล่านั้นกำลังจะตาย เพราะ ป.ป.ช.รับเรื่องเอาไว้แล้ว แต่ ป.ป.ช.ยังใจเย็น ตนจึงเข้าไปคุยกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ปรากฏว่าถูกแช่แข็งทั้งหมดจึงคุยไม่ได้ ที่สำคัญควรติดตามรัฐบาลซึ่งเตรียมที่จะมีการเสนอวาระในวันที่ 6 ต.ค.นี้ โดยในอดีตเป็นวันล้อมปราบนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่วนเรื่องที่ 2 คือ ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ คือ เรื่องรัฐธรรมนูญที่กลุ่ม นปก. ยื่นเอาไว้เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายชัย ได้ยื่นมือล้วงเข้ามาหยิบเอาเรื่องแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับในวันที่ 6 ต.ค.นี้ จึงถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเป็นภาระอันหนักอึ้งของพันธมิตรฯ เนื่องจากเราคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญทุกรูปแบบ
“เราทำได้เพียงอย่างเดียวคือ ขอร้อง ป.ป.ช.ให้รีบชี้มูลความผิดไอ้พวกที่อยู่ในซ่องโจรทั้ง 35 คน ตอนนี้เราทำได้แค่เพียงขุดหลุมที่ทำเนียบเพื่อฝัง พ.ต.ท.ทักษิณ กับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ในวันที่ 21 ต.ค.นี้ อยากจะเรียนพี่น้องประชาชนว่าขอให้อดทน เพราะสถานการณ์จะดีวันดีคืน ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ได้ทำวิจัยว่า หากเลิกชุมนุมแล้ว เมื่อกลับไปบ้านก็ไม่รู้จะทำอะไร จึงมีการคุยกันว่า จะมีวันพันธมิตรฯ พบกัน คือ 30-40 วัน พบกันครั้งหนึ่งในรูปแบบของสภาประชาชน” นายสมเกียรติ ระบุ
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า เราขอประชุมกันอีกเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นแล้วเราจะเอาร่างแก้ไขการเมืองใหม่มาให้พี่น้องทุกคน แล้วแยกไปประชุมกันตามจังหวัดต่างๆ เพื่อเอาขุนนางของการเมืองเก่าไปตอนอย่างถาวร โดยเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งไปตลอดชีวิต ดังนั้นเราอาจจะต้องจัดการอะไรสักอย่างหนึ่ง โดยอาจจะเป็นยุทธวิธีดาวกระจาย แต่ตนออกไปไม่ได้ เพราะเขาต้องจะจับตน
“สังคมดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องร่วมสร้าง การเมืองดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องร่วมสร้าง สังคมเลวเพราะคนดีท้อแท้ สังคมไม่เลวเพราะคนดีพันธมิตรฯ ไม่ท้อแท้” นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย
