สามเกลอ “ความเท็จวันนี้”ขู่ฟ้อง อดีต สสร. หลังเสนอ “สมชาย” ถอดรายการ

ผู้จัดการออนไลน์ – วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ เดือดหลังถูก เสรี สุวรรณภานนท์ อดีต สสร. เสนอนายกฯ รีบถอด “รายการความเท็จ” ชี้ตัวสร้างความแตกแยกให้สังคม ทำลายรัฐบาล ขู่ฟ้องหมิ่นประมาทแน่ กัด “จรัญ” ไม่เลิก ระบุจะยื่นปธ.ศาลรธน.พิจารณาคุณสมบัติ กรณีเป็นอาจารย์พิเศษ แย่งกันยกบทความ นักวิชาการ มช. อัด เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ตกเป็นเครื่องมือกลุ่มอำนาจนิยม

วันนี้ (23 ก.ย.) รายการความจริงวันนี้ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กรมประชาสัมพันธ์ และดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มีการยกเอาบทความในคอลัมน์ “คุยกันอย่างเสรี” ของนายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา กทม. และ รองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์สยามรัฐ เมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา

สำหรับบทความชิ้นดังกล่าวมีชื่อว่า “นายกฯ สมชายฯ ควรปิดรายการ “ความเท็จวันนี้”?” ทั้งนี้ส่วนหนึ่งของบทความชิ้นดังกล่าวของนายเสรี มีเนื้อหาดังนี้คือ
……….……..
รายการ ‘ความจริงวันนี้’ ทางโทรทัศน์ NBT หรือ ช่อง 11 เดิม ผมขอเปลี่ยนชื่อรายการเป็น “รายการความเท็จวันนี้” หรือเป็นชื่อ “รายการใส่สีตีไข่” น่าจะเหมาะสมที่สุด

มีการสร้างภาพสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในประเด็นต่างๆ ซึ่งคนเขารู้กันทั้งประเทศว่าตัวเลขที่ขึ้นหน้าจอทีวีนั้น เป็นตัวเลขที่จัดทำขึ้นมาเอง หรือส่งข้อความมาเชียร์เข้าข้างคนจัดฝ่ายเดียว ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ทำให้จับไต๋ได้ว่า ข้อความที่ส่งมานั้นก็จัดทำขึ้นเอง

เล่นเอง แสดงเอง เชียร์เอง ชมเอง ให้คะแนนเอง โดยไม่เกิดความละอายในสิ่งที่ตัวเองทำ

ต้องขอบอกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาหมาดๆ เจ๊งเพราะ “รายการความเท็จวันนี้” ทางช่อง NBT

ส่วนรัฐบาลที่เพิ่งจะเข้ามาหมาดๆ จะเจ๊งหรือไม่เจ๊งหรือจะอยู่นานแค่ไหน ก็คงขึ้นอยู่กับว่า นายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงหรือจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพที่คอยทะเลาะกับชาวบ้านหรือสร้างความขัดแย้งในบ้านเมืองอย่างที่เป็นอยู่ ก็เลือกเอา

หากไม่ต้องการให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยหรือไม่คิดที่จะแก้ปัญหาบ้านเมือง ก็ขอให้มี “รายการความเท็จวันนี้” อย่างที่ทำกันอยู่ต่อไป

แทนที่จะเอาเวลาการออกอากาศไปใช้กับการแสดงผลงานหรือแสดงนโยบายอันเป็นแนวทางบริหารประเทศ หรือให้ความรู้ประเทืองปัญญาแก่ประชาชนคนดู แต่กลับให้คนจัดรายการสามคนได้แก่ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อและ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ไม่มีความรู้ความสามารถอะไรออกมาให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงแก่ประชาชนและออกมาสร้างความแตกแยกให้คนในชาติอยู่ทุกวี่วัน

ก็เป็นเรื่องที่แปลกที่รัฐบาล คือ ฝ่ายที่จะต้องใช้สื่อของรัฐให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด กลับเบียดบังเวลาของรัฐมาสร้างประโยชน์ให้แก่ตัวเองอย่างไม่อับอายหรือไม่ละอายใจว่า สิ่งที่ทำอยู่นั้นเป็นการสร้างปัญหาให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ อันเป็นการขัดต่อความรับผิดชอบของบ้านในการบริหารราชการแผ่นดิน

การใช้สื่อของรัฐในทุกๆ รัฐบาลควรต้องสร้างมาตรฐานการใช้สื่อของรัฐให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนให้มากที่สุด

การจัด “รายการความเท็จวันนี้” โดยการแสดงผลงานเพียงเพื่อปูทางให้ตนเองเป็นบุคคลสำคัญในพรรคหรือให้เจ้าของเงินเห็นผลงาน แล้วจะได้สร้างงานสร้างเงินต่อไป โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง

เห็นนายกฯ สมชาย พยายามที่จะเสนอการแก้ปัญหาบ้านเมืองให้เข้าสู่ยุคสมานฉันท์ แก้ปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ

ผมจะดูเป็นอันดับแรกว่านายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะยกเลิก “รายการความเท็จวันนี้” หรือไม่? หากยังคงปล่อย “รายการความเท็จวันนี้” คงอยู่ต่อไปก็แสดงว่า นายกฯ สมชายไม่มีเจตนาที่จะแก้ปัญหาความแตกแยกหรือไม่คิดจะแก้ปัญหาบ้านเมืองด้วยการสร้างความสมานฉันท์เหมือนกับที่พูดไว้

ก็ขอย้ำเตือนว่า “รายการความเท็จวันนี้” คือตัวสร้างความแตกแยกให้คนในบ้านเมือง จึงขอให้นายกฯ สมชาย ปิดหรือเลิกรายการดังกล่าวนี่เสีย เพราะรายการดังกล่าวนี้เป็นตัวทำลายรัฐบาลในที่สุด”
……….……..
หลังการอ่านบทความชิ้นดังกล่าวจบ พิธีกรและผู้ดำเนินรายการดังกล่าวได้แสดงทีท่าไม่พอใจ โดยพยายามกล่าวหาว่า นายเสรีเป็น “สมุนของเผด็จการ” นอกจากนี้ยังชี้แจงว่า ข้อความสั้นที่ส่งมาในรายการนั้นมิได้เป็นข้อมูลที่จัดทำขึ้น แต่เป็นข้อมูลที่ผู้ชมทางบ้านส่งมาจริง ทั้งยังพยายามชี้แจงด้วยว่าข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอในรายการนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น

ขณะที่นายจตุพรกล่าวข่มขู่ว่าด้วยเหตุนี้ ตนจึงต้องแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทต่อนายเสรีแน่นอน พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า ในสัปดาห์หน้าพวกตนทั้ง 3 คนจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสอบถามถึงคุณสมบัติในการเป็นตุลาการของ นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

จากนั้นพิธีกรทั้งสามคนก็ยกตัวอย่างบทความของ นายธเนศวร์ เจริญเมือง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขึ้นมาแย่งกันอ่าน โดยนายธเนศวร์กล่าวชื่นชมพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และกล่าววิพากษ์วิจารณ์นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์และศิลปินแห่งชาติว่า การที่นายเนาวรัตน์ออกมาพูดถึงความฉ้อฉลและคดโกงของนักการเมืองนั้น แสดงว่านายเนาวรัตน์ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มอำนาจนิยม โดยตอนหนึ่งของบทความชิ้นดังกล่าวระบุว่า

“ในการอภิปรายที่คณะรัฐศาสตร์ มช. (16 กันยา 51) คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้พูดถึงความขมขื่นของตนเองที่ได้เห็นนักการเมืองไทยแก่งแย่งผลประโยชน์ ช่วงชิงและต่อรองเพื่อตำแหน่งและงบประมาณ ทุจริตคอรัปชั่น และไม่เห็นหัวประชาชนมาปีแล้วปีเล่า

“คำถามมีอย่างน้อย 2 ข้อ 1. มีแต่นักการเมืองเท่านั้นหรือที่ทุจริต อาชีพอื่นๆไม่มีหรือที่ทุจริตในสังคมไทย และ 2. อะไรเล่าที่ทำให้นักการเมืองเป็นเช่นนั้น

“คำตอบก็คือในสังคมที่เป็นอำนาจนิยมและอภิสิทธิชนนิยมมานาน ผู้มีอำนาจไม่ว่าอาชีพใดก็ฉ้อฉลอำนาจทั้งนั้น และวัฒนธรรมอำนาจนิยมดังกล่าวได้แพร่เข้าไปในหมู่ประชาชนด้วย การก่นด่าว่าแต่นักการเมืองและพรรคการเมืองจึงเป็นการมองด้านเดียว คนด่าด้านเดียวแบบนี้ไม่รู้ตัวหรือรู้ตัวว่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มอำนาจนิยม” บทความของนายธเนศวร์ระบุ (อ่าน : บทความเรื่องประชาธิปไตยแบบอารยะ (Civilized democracy) จากเว็บไซต์ประชาไท)

กระนั้นพิธีกรทั้งสาม และนายธเนศวร์มิได้กล่าวถึงแต่อย่างไรว่า กลุ่มอำนาจนิยมที่ว่านั้น หมายถึงบุคคล หรือ กลุ่มคนกลุ่มใดในสังคม