xs
xsm
sm
md
lg

“สามเกรียน” เล่นวิชามาร กล่าวหาดื้อๆ “พันธมิตรฯ” สกปรก-ใช้ยาเสพติด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สามเกลอ” รวมหัวใช้ NBT เป็นกระบอกเสียง นำข่าวลือมาป้ายสี “พันธมิตรฯ” อ้างพบการจำหน่ายอุปกรณ์เสพยา และถุงยาอนามัยจำนวนมาก ในที่ชุมนุม-ยังปากดีตุลาการ รธน.ชี้แจงกรณี “จรัญ” สอนหนังสือ มีความผิดเหมือน “หมัก” ที่เป็นพิธีกรทีวี เหน็บ “เสรี สุวรรณภานนท์” รู้ดีแค่ไหน ออกมาแจงข้อกฎหมายโต้แทน “จรัญ”

วานนี้ (15 ก.ย.) รายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงษ์ อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย โดยมีผู้ร่วมดำเนินรายการขาประจำ คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน

เมื่อเริ่มรายการผู้ดำเนินรายการได้กล่าวชักชวนให้ผู้ชมร่วมแสดงความคิดเห็นในรายการ ว่าเห็นด้วยกับ การเมืองใหม่ของกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่ หากเห็นด้วยให้พิมพ์ 1 และไม่เห็นด้วยให้พิมพ์ 2 แล้วส่งมาแสดงความคิดเห็นในรายการ เพื่อจะได้เป็นเสียงสะท้อนให้คนส่วนใหญ่ได้รับรู้

จากนั้นผู้ดำเนินรายการได้กล่าวโจมตี นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการ รธน.อีกตามเคย หลังจากที่ได้กล่าวโจมตีในรายการดังกล่าวมาแล้วเกือบตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ประเด็นที่พวกตนนำเสนอในรายการ ว่า นายจรัญ ไปรับจ้างสอนหนังสือตามมหาวิทยาลัยนั้น น่าจะมีความผิดเช่นเดียวกับการที่ นายสมัคร ไปรับจ้างเป็นผู้ดำเนินรายการรายการชิมไปบ่นไป แต่จนถึงวันนี้นายจรัญ ก็ยังไม่ออกมาตอบคำถามสังคม มีแต่เพียง นายเสรี สุวรรภานนท์ อดีต ส.ส.ร.50 ที่ออกมาระบุว่า

การสอนหนังสือไม่ถือเป็นการรับจ้าง เนื่องจากเป็นการบริการทางวิชาการให้ความรู้แก่สังคม อีกทั้งการสอนหนังสือก็ไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับการดำรงตำแหน่งตุลาการ รธน.ดังนั้น กรณีการรับจ้างเป็นผู้ดำเนินรายการ ของบริษัทเอกชนที่มุ่งแสวงหาผลกำไรของ นายสมัคร จึงต่างกันกับกรณีการสอนหนังสือในมหาวิทยลัย ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่ได้แสวงหาผลกำไรของนายจรัญ

ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวอย่างคับแค้นใจ ว่า พวกตนไม่เข้าใจว่าเหตุใด นายเสรี ต้องมาแก้ตัวแทน นายจรัญ ทำไมไม่ให้ นายจรัญ ออกมาตอบคำถามเอง ทำไมต้องออกมาเถียงแทนทั้งที่ตัว นายจรัญ เองยังไม่ออกมาพูดอะไรเลย แล้วตัว นายเสรี เอง แน่ใจแค่ไหนว่าการตีความ รธน.ของตนเป็นไปอย่างถูกต้อง ดังนั้น พวกตนจึงขอเรียกร้องไปยัง นายจรัญ อีกครั้งว่าให้ออกมาชี้แจงต่อสังคมด้วยตัวเองจะดีกว่า เพราะในเมื่อ นายจรัญ เป็นตุลาการ รธน.ที่ตัดสินคดีของ นายสมัคร ก็น่าจะออกมาตอบคำถามได้ดีกว่า ว่า การตัดสินคดีของนายสมัครเคยตีความ รธน.ไว้อย่างไร และในครั้งนี้เมื่อเป็นกรณีของตัวเองจะใช้บรรทัดฐานเดียวกันกับคดีนายสมัครหรือไม่

ทั้งนี้ หาก นายจรัญ จะไม่ออกมาตอบคำถามด้วยตัวเอง ก็น่าจะให้ตุลาการศาล รธน.สักคนหนึ่งจากทั้งหมด 9 คน ออกมาตอบคำถามนี้ ให้เส้นประสาทที่เรียกว่าความอายทำงานเสียบ้าง อย่าทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว รวมตัวกันนิ่งเฉยอยู่เช่นนี้ เพราะหากยังทำอยู่เช่นนี้ความสง่างาม และน่าเชื่อถือของตุลาการ รธน.ก็คงจะต้องหมดไปเป็นแน่ เพราะในขณะนี้ก็เริ่มหมดความเชื่อถือในสายตาต่างชาติไปแล้วเห็นได้จากผลสำรวจของบริษัทเพิร์ค ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ ทำการสำรวจความน่าเชื่อถือกระบวนการยุติธรรมของ 12 ประเทศ และเขตเศรษฐกิจพิเศษในเอเชีย ปรากฏว่า ไทยอยู่ในอันดับ 9 นี่จึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าความน่าเชื่อถือในระบบตุลาการของไทย มีน้อยมากในสายตาของต่างชาติ

จากนั้น นายจตุพร ได้กล่าวว่า ตนในฐานะที่ตนเป็น ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน อยากบอกให้ประชาชนได้มั่นใจว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คงแล้วเสร็จภายในวันพุธที่ 17 ก.ย.นี้อย่างแน่นอน ซึ่งแม้ขณะนี้แม้ ส.ส.บางส่วนในพรรคพลังประชาชนอาจจะยังมีความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่ตนเชื่อว่า ส.ส.ในพรรคจะทำความเข้าใจกันได้ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนเป็นผู้ที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อย่างไรเสียก็ต้องยอมรับเสียงส่วนใหญ่ของพรรคอยู่แล้ว ซึ่งตนก็คาดว่า ภายในวันที่ 16 ก.ย.นี้คงจะได้ผลสรุปว่าที่ประชุมพรรคจะเสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนยืนยันว่าเหตุการณ์สภาล่ม องค์ประชุมไม่ครบ เหมือนอย่างคราวที่พรรคเสนอชื่อนายสมัคร จะไม่เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน

ผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 ได้กล่าวเรียกร้องว่า หากมีการโหวตเลือกตัวนายกรัฐมนตรีได้แล้ว รัฐบาลชุดใหม่เมื่อเข้ารับตำแหน่ง ควรจะมีการระบุข้อความไว้ในแถลงการณ์นโยบายเมื่อเข้ารับตำแหน่งเลยว่า จะมีแนวทางการดำเนินการกับทำเนียบรัฐบาลอย่างไร เพราะทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ทำงานของรัฐบาลไม่ควรปล่อยให้กลุ่มพันธมิตรฯ เข้าไปบุกยึดอยู่เช่นนี้ รวมถึงควรระบุไว้ในแถลงการณ์ด้วยว่าจะทำการแก้ไข รธน.หรือไม่ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่าจะมีการแก้ไข รธน. กลุ่มพันธมิตรฯ จะได้ไม่สามารถมาใช้เป็นข้ออ้างเรียกร้องได้อีก

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการเมืองใหม่ของกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะการเมืองใหม่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยในระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็นการเสนอให้นักการเมืองส่วนหนึ่งมาจากการแต่งตั้ง ซึ่งก็ขัดต่อหลักการทางประชาธิปไตยอย่างชัดเจน ดังนั้นพวกตนจึงขอตำหนิ นักวิชาการบางคนที่เริ่มออกมาแสดงความคิดเห็นเห็นด้วยกับการเมืองใหม่ว่า คิดอะไรกันอยู่ คิดจะทำลายระบอบประชาธิปไตยอย่างนั้นหรือ ถึงได้กล่าวสนับสนุนเรื่องแบบนี้

ในช่วงท้ายรายการผู้ดำเนินรายการ ยังกล่าวหาการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยว่า ขณะนี้เต็มไปด้วยความสกปรก และอบายมุข โดยเห็นได้จากการที่มีการจำหน่ายขวดแก้ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใช้เสพยาไอซ์ขายอย่างเอิกเกริกอยู่บริเวณประตู 5 ทางเข้าทำเนียบรัฐบาลโดยไม่มีใครคิดจะไปว่ากล่าวหรือตักเตือน นอกจากนี้ เมื่อมีการเก็บกวาดทำความสะอาดพื้นที่ภายในที่ชุมนุมแล้ว ยังพบถุงยางอนามัยใช้แล้วจำนวนมากตกอยู่ในบริเวณดังกล่าวอีกด้วย
นายวีระ มุสิกพงษ์
นายจตุพร พรหมพันธุ์
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
กำลังโหลดความคิดเห็น