สัญญาณร้ายนกหวีดรัฐตำรวจเถื่อน กำลังออกทำร้ายประชาชนพลังกู้ชาติแล้ว โดยใช้มาตรการปิดล้อมก่อนเข้าสลาย ขณะที่ความวุ่นวายกำลังจะเกิดขึ้น
วันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการปิดหมายศาลแพ่งของเจ้าพนักงานบังคับคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ และตัวแทนโจทก์ที่บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล เพื่อสั่งให้พันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาลว่า ขณะนี้ได้มีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้นในหลายจุด โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายกองร้อยเข้าปฏิบัติการพร้อมกับทำการรื้อสิ่งของ เต็นท์ และสิ่งกีดขวางออกจากพื้นที่
โดยที่บริเวณเวทีสะพานมัฆวานฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปพยายามที่จะทำการรื้อถอนโดยมีกลุ่มพันธมิตรฯ เข้าไปล้อมเวทีเอาไว้ ส่วนรถกระบะที่เปิดเครื่องเสียงเพลงปลุกใจตำรวจได้ขับวนไปบริเวณรอบๆ โดยมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 อยู่บนรถ
นอกจากนั้น ที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 2 กองร้อย พร้อมโล่ห์ และกระบอง โดยเตรียมจะปฏิบัติการเข้าสลายทันทีหลังได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา
ล่าสุด ที่บริเวณประตู 5 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการจับกุมการ์ดพันธมิตรฯ ขึ้นรถผู้ต้องหาไปแล้ว 20 คน ขณะเดียวกัน ที่บริเวณด้านถนนพิษณุโลก ระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช.กับกองทัพภาคที่ 1 กำลังตำรวจปราบจลาจลพร้อมโล่ห์และกระบอกจำนวนมากเตรียมพร้อมที่จะเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่อยู่บริเวณรอบนอกกำแพงทำเนียบรัฐบาล
สำหรับความเคลื่อนไหวของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ล่าสุด ตำรวจได้ตรงเข้ารื้อเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์แล้ว โดยมีการปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ กันเล็กน้อย ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่สามารถต้านทานกำลังของตำรวจได้ ตำรวจได้เข้าไปรื้อแผงขายของรอบๆ เวที พร้อมกับนำไม้กอล์ฟที่มีผู้บริจาคให้พันธมิตรไปทิ้งลงในคลองผดุงกรุงเกษม นอกจากนั้นยังได้หยิบฉวยเอาน้ำดื่มของพันธมิตรไปกินโดยพลการด้วย ขณะที่แม่ค้ารถเข็นที่อยู่ใกล้ได้ฉวยโอกาสหยิบเอาไปด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน กำลังตำรวจจำนวนหนึ่งพร้อมอาวุธปืนยิงแก๊สน้ำตาได้เดินทางเข้าไปยังบริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ส่วนที่บริเวณหน้าพาณิชยการพระนคร กำลังตำรวจจำนวนมากยังคงตรึงกำลังอยู่พร้อมรอคำสั่ง
เวลา 11.20 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ กำลังตำรวจ 2 พันนายได้เคลื่อนออกจากจุดดังกล่าวเพื่อเข้าไปสมทบกำลังตำรวจบริเวณประตูทำเนียบ โดย พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องนำกำลังมาตรึงไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่บังคับคดีเท่านั้น และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ได้มาเพื่อสลายพันธมิตรฯ ใช่หรือไม่ พล.ต.ต.พงษ์สันต์ ไม่ยืนยันว่าไม่สลายพันธมิตรฯ เพียงแต่บอกว่าต้องรอเพียงคำสั่งเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น.และว่าที่ ผบช.น เปิดเผยว่า การจะเข้าสลายการชุมนุมในทันทีทันใดหรือไม่ ต้องรอผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งการ หากได้รับคำสั่งเมื่อใดก็พร้อมจะดำเนินการตามที่ได้รับบัญชา ซึ่งจะเน้นความละมุนละม่อม ไม่ใช้ความรุนแรง การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดเข้าประชิดและเข้าไปในบริเวณทำเนียบรัฐบาลขณะนี้เป็นการทำตามหน้าที่เข้าไปรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เดิมที่เคยประจำการอยู่ ยังไม่ใช่การเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม
ทางด้าน พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.กล่าวว่า การรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาลมีกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 10,000 นาย ซึ่งยอมรับได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่มากขึ้นกว่าวันก่อน แต่จะทำการสลายการชุมนุมเมื่อใดขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาสั่งการเท่านั้น
เวลา 11.58 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์อยู่บริเวณที่ตั้งเวทีของกลุ่มพันธมิตรฯบริเวณสะพานมัฆวาน ได้ใช้กระบอกไล่ตีประชาชนที่รวมตัวอย่บริเวณหน้าที่ทำการสหประชาชาติ หรือยูเอ็นจำนวนมาก จนเกิดการชุลมุลขึ้น ซึ่งยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
เวลา 12.00 น. ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ กำลังตำรวจจำนวนมาก ได้กดดันกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยการตั้งแถวสลับกำลัง และไปยื่นอยุ่หน้ารั้วพันธมิตรฯ จากนั้นพากันเคาะโล่ กระบองเป็นการข่มขวัญพันธมิตรฯ จากนั้น ก็เดินแถวจากไป และมีแถวใหม่ มากระทำการเช่นเดิมอีกชุด
เวลา 12.10 น. ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ตำรวจได้ตั้งสกัดประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมอยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งสถานการณ์เริ่มตรึงเครียดขึ้นทุกขณะ จนกระทั่งเริ่มเกิดความชุลมุนขึ้นแล้ว สุดท้าย ตำรวจต้องนำรถขนผู้ต้องขังมาปิดทางเข้าทั้งหมด พร้อมกับกำลังตำรวจปราบจราจลยืนตั้งแผงเป็นแนวกัน จนเกิดการปะทะกันเล็กน้อย ส่งผลให้ป้ายสัญญาณไฟจราจรล้มลงมา จากนั้นตำรวจตชด.ประมาณ 4-5 คันรถ เข้าไปสมทบ โดยมีกลุ่มพันธมิตรฯประมาณ 500 กว่าคน พยายามที่จะดันเข้าไป แต่ไม่สำเร็จ จึงต้องถอยออกมา
เมื่อเวลา 12.33 น. มีรถหน่วยกู้ภัย แพทย์ พยาบาล เข้ามายังบริเวณหน้าสะพานชมัยมรุเชษฐ ประมาณ 7-8 คัน จากนั้นมีการเตรียมอุปกรณ์การแพทย์ เช่นเครื่องมือผ่าตัด เครื่องเวชภัณฑ์ ยารักษาโรค พร้อมทีมแพทย์พยาบาลจำนวนมาก โดยนพ.สุรเชษฐ์ สถิตย์นิลมัย เลขาธิการสมาพันธ์แพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นผู้ดูแลหน่วยแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ หน่วยแพทย์มีการประสาน เมื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน หากเกิดปะทะกันจนมีผู้บาดเจ็บ ระหว่างพันธมิตร กับตำรวจ โดยได้ระดม รถแพทย์ จากโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาลมาประจำจำนวน 4 จุด ที่สะพานมัฆวาน สะพานอรทัย สะพานชมัยมรุเชษฐ และสี่แยกมิสกวัน ซึ่งหากเกิดเหตุปะทะในเบื้องต้น จะทำการปฐมพยาบาลและรีบส่งต่อทันที
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่บริเวณแยกนางเลิ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถคุมขังผู้ต้องหาจำนวน 7 คัน มาจอดขวางถนนไว้ พร้อมทั้งนำแผงเหล็ก และลวดหนาม มาขึงกั้นบริเวณทางเข้า-ออก อีกทั้งได้ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปยังบริเวณถนนที่จะมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล แต่ให้ผู้ชุมนุมออกไปด้านนอกได้แต่ห้ามเข้าเด็ดขาด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 กองร้อย ถือโล่ กระบอก ตรึงกำลังเตรียมพร้อมที่ตั้งปฏิบัติการตลอดเวลา นอกจากนี้ โรงเรียนที่อยู่บริเวณนางเลิ้ง อาทิ รร.มัธยมราชวินิตฯ ได้ปิดการเรียนการสอนทุกโรงเรียน