xs
xsm
sm
md
lg

“ไข่แม้ว” เหิม ด่าศาลฯ วินิจฉัย “หมัก” พ้นเก้าอี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อดีตแกนนำ นปก.คลั่ง ศาลตัดสิน “หมัก” พ้นตำแหน่งนายกฯ และห้ามรักษาการ ด่ากราด ตัดสินเกินหน้าที่ ยัน หนุน “หมัก” เป็นนายกฯต่อ เพราะเป็นผู้นำที่มีจุดแข็งที่พันธมิตรฯ โจมตีลำบาก - จวก ปธ.วุฒิฯ “ประสพสุข” เสนอ “บรรหาร” เป็นนายกฯ อ้างทำตัวไม่เหมาะสม แถมกัดนักวิชาการนิด้า ที่เสนอเปลี่ยนขั้ว-ให้ ปธ.วุฒิฯ นั่งนายกฯชั่วคราว สบถ “ไม่รู้ไปเลี้ยงควายที่ไหนมา”

วานนี้ (9 ก.ย.) รายการเพื่อนพ้องน้องพี่ พีทีวีภาคพิเศษ ออกอากาศทางโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5 ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี

ทั้งนี้ เมื่อเริ่มรายการผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวถึงกรณีที่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ขาดจากคุณสมบัติความเป็นนายกรัฐมนตรี จากกรณีเป็นลูกจ้างรายการชิมไปบ่นไป ซึ่งศาล รธน.ชี้ว่า ขัดมาตรา 267 ของ รธน.และวินิจฉัยว่าให้นายสมัครพ้นจากตำแหน่ง โดยไม่สามารถรักษาการได้

โดย นายวีระ ได้กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ตนไม่เข้าใจว่า ใครไปถามศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ให้ตัดสินว่า นายสมัคร จะสามารถรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ มีใครไปถามอย่างนั้นหรือ เพราะแท้จริงแล้วศาล รธน.มีอำนาจตัดสินเฉพาะคดีชิมไปบ่นไป ว่า นายกฯจะพ้นจากตำแหน่งหรือไม่เท่านั้น แต่ศาล รธน.ไม่มีสิทธิ์ตัดสินว่า นายสมัคร ไม่เหมาะจะรักษาการในตำแหน่งนายก ดังนั้น คำวินิจฉัยดังกล่าว จึงถือเป็นการวินิจฉัยซึ่งเกินหน้าที่

จากนั้นผู้ดำเนินรายการก็กล่าวพาดพิงศาลต่างๆ นานา อย่างดุเดือด และกล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชน ยังยืนยันที่จะเสนอชื่อ นายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อไป ว่า เป็นเพราะ ส.ส.ในพรรคทุกคนเห็นว่า นายสมัคร เป็นคนที่มีจุดแข็งมากที่สุด ที่จะสามารถดำรงตำแหน่งอยู่ในสภาวะบ้านเมืองแบบนี้ เพราะต้องยอมรับว่านายสมัคร มีจุดแข็งที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเปี่ยมล้น ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่สามารถนำเรื่องนี้มาโจมตีนายสมัครได้ ประกอบกับ นายสมัคร มีสัมพันธภาพที่ดีกับทหารอย่างแน่นแฟ้น ซึ่งเหล่านี้เองเป็นจุดแข็งที่หาได้ยากในบุคคลอื่น ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน นายสมัคร

นอกจากนี้ ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึงข้อเสนอที่ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เสนอว่า หาก นายสมัคร ต้องพ้นจากตำแหน่งไปจริง ควรให้ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน โดยผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 ได้วิพากษ์ความคิดดังกล่าวอย่างดุเดือด ว่า ข้อเสนอดังกล่าวถือเป็นความเห็นที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่ไม่ควรจะออกมาจากคนที่เป็นประธานวุฒิสภา เพราะแท้จริงประธานวุฒิฯ ต้องทำตัวเป็นกลางทางการเมืองจึงจะถูกต้อง แต่ตัว นายประสพสุข กลับมาสอดแทรก แสดงความคิดเห็นทางการเมืองอยู่ตลอด ซึ่งการกระทำเช่นนี้พวกตนมองว่า เป็นการแสดงออกถึงความมีวุฒิภาวะไม่เพียงพอ ทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่ ไม่น่าเคารพ อย่างที่ประธานวุฒิฯ ควรจะเป็น

อนึ่งเมื่อจบรายการเพื่อนพ้องน้องพี่แล้ว ผู้ดำเนินรายการ 2 คน คือ นายวีระ และ นายจตุพร ก็ได้เดินสายไปจัดรายการ ความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที โดยมี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมรายการ ซึ่งเนื้อหาในรายการก็ยังคงเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่กล่าวไปแล้วในรายการเพื่อนพ้องน้องพี่ คือ กล่าวโจมตี นายประสพสุข ว่า เป็นประธานวุฒิฯ แต่ทำตัวไม่เป็นกลาง มาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง

รวมไปถึง กรณีศาล รธน.ตัดสินคดี นายสมัคร ให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อมาจัดรายการที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ผู้ดำเนินรายการได้ลดความรุนแรงในคำพูดที่วิพากษ์วิจารณ์ศาลลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเพียงแต่กล่าวในเชิงประชดประชันว่า ไม่แน่ใจว่าใครไปถามศาล รธน.หรือไม่ ว่า นายสมัคร ควรจะรักษาการในตำแหน่งนายกได้หรือไม่ แต่ศาล รธน.ก็แถมคำวินิจฉัยมาให้ด้วย รวมถึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด ศาล รธน.จึงตัดสินคดีนายสมัครรวดเร็วนัก และเป็นไปตามที่พวกตนคาดไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ราวกับพวกตนเป็นหมอดูที่ทำนายทายทัก ได้แม่นยำ

นอกจากนี้ ผู้ดำเนินรายการยังชักชวน ให้ผู้ชมร่วมส่งเอสเอ็มเอส แสดงความคิดเห็นมายังรายการ ว่า ต้องการให้ นายสมัคร กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ หากเห็นด้วยให้พิมพ์ 1 ไม่เห็นด้วยพิมพ์ 2 จากนั้นผู้ดำเนินรายการจึงได้กล่าวเรียกร้องความชอบธรรมให้กับนายสมัคร ว่า การได้จัดรายการทำอาหารนั้น ถือเป็นความสุขในชีวิตของปุถุชน คนธรรมดา เหมือนที่ นายสมัคร ชอบเลี้ยงแมว ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ส่งผลเสียต่อประเทศชาติอย่างไร รวมถึงอธิบายข้อกฎหมายว่านายสมัคร สามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งได้ เพราะไม่ขัดต่อกฎหมาย และว่า นายสมัคร คือผู้เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีบริหารบ้านเมืองในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้ดำเนินรายการไม่ได้กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า การจัดรายการทำอาหารของนายสมัครเข้าข่ายผิดมาตรา 267 ของรัฐธรรมนูญ เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนจากการรับค่าตอบแทนในการทำรายการ ซึ่งมีหลักฐานจากการจ่ายเงินของบริษัท เฟซ มีเดีย ให้นายสมัครปีละ 1-2 ล้านบาท นอกจากนี้ ตุลาการ 3 คน ยังเห็นว่า การทำโลโก้รูปนายสมัครในรายการยังเข้าข่ายการเป็นหุ้นส่วนในบริษัทด้วย

จากนั้นผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวโจมตีบรรดานักวิชาการที่ออกมาแสดงความคิดไปในทางที่ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล โดยเริ่มจาก ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงค์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศาสตร์ (นิด้า) ที่ออกมาแนะนำพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ขณะนี้เป็นโอกาสอันดีที่ควรจะเปลี่ยนขั้วรัฐบาล แล้วไปจับขั้วกับพรรคประชาธิปัตย์แทน จึงจะทำให้บ้านเมืองพอมีทางออก ว่า ซึ่งผู้ดำเนินการก็ได้กล่าวว่า ไม่รู้ว่าอธิการบดีคนนี้สอบตกวิชาเลขหรือเปล่า เพราะในความเป็นจริงหากมีการสลับขั้วจริง เสียงของรัฐบาลประชาธิปัตย์ก็มีเสียงหมิ่นเหม่ ไม่มีเสถียรภาพ ซึ่งเรื่องง่ายๆ แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าทำไมคนที่เป็นถึงอธิบดีจึงคิดไม่ได้

ส่วน นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการโครงการปริญญาโท คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่เสนอว่า ควรให้ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา มาดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีนั้น ผู้ดำเนินรายการก็กล่าวว่า เป็นความคิดที่แย่มาก ที่จะมาเสนอคนนอกที่ไม่ได้เป็น ส.ส.มาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งผิดต่อหลักการของ รธน. ผู้ดำเนินรายการจึงตำหนิว่า ไม่รู้ว่าอาจารย์แบบนี้เรียนจบมาจากสถาบันไหน ถึงได้มาสอนหนังสือแบบนี้ และความคิดแบบนี้ควรจะเรียกว่าอาจารย์ได้หรือไม่ “ไม่รู้ว่าไปเลี้ยงควายมาจากไหน”

และข้อเสนอของ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เสนอว่าทุกฝ่ายควรจะหาทางผ่อนปรน โดยอาจจะตั้งข้อเสนอกับพันธมิตรฯ ว่า หากรัฐบาลถอนข้อหากบฏ พันธมิตรฯจะเปลี่ยนที่ชุมนุมได้หรือไม่ หรือไม่ก็ให้มาคุยกันว่า พอจะยอมแก้รัฐธรรมนูญอะไรบางอย่าง แล้วยุบสภาเลือกตั้ง เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง มี ส.ส.ร.3 นำไปสู่การแก้ไขระยะยาว โดยผู้ดำเนินรายการก็ได้ตำหนิ นายปริญญา อีกว่า ความคิดดังกล่าวเป็นความคิดที่ล้าหลัง ดึงให้ประเทศกลับไปสู่ยุคโบราณ ที่ยอมให้พวกกบฏอย่างกลุ่มพันธมิตรฯ มามีอำนาจต่อรองกับรัฐบาล
นายวีระ มุสิกพงษ์
นายจตุพร พรหมพันธุ์
นายก่อแก้ว พิกุลทอง
กำลังโหลดความคิดเห็น