“ทักษิณ” ไม่สำนึก (๑)
* หิ่งห้อยส่องก้นสู้ แสงจันทร์
ปัดเทียบเทียมรัตนอัน เอี่ยมข้า
ทองเหลืองหลู่สุวรรณ ธรรมชาติ
พาลว่าตนเองอ้า อาจล้ำเลยกวี ฯ
๑ แม้สิ้นแผ่นดินซุก
ก็ยังซ่า...มิสำนึก
ยังกล้าประกาศศึก
แล้วดึงฟ้ามาฟาดฟัน
๒ แม้เร่ระเหหน
ยังทุรนทุรายฝัน
วาดไว้ในกัปกัลป์
จะคืนกลับอย่างเกริกไกร
๓ แม้ล่มสลายเรือน
ยังบิดเบือนระบาดไป
จัดฉากฉงนงาย
ว่ารักใคร่ในเรือนครัว
๔ แม้ฉากจะฉายชัด
ว่าจัดได้ไม่ลงตัว
แถลงการณ์กลับเกลือกกลั้ว
จะก่อการในกลเกม
๕ แท้เกมการเมืองกาฬ
ได้ก่อกรรมลำเค็ญเข้ม
โกงกินกันปริ่มเปรม
ปอกลอกชาติ-ประชาชน
๖ แท้สิ้นประกายแสง
แข่งหิ่งห้อยไม่เห็นหน
แค่กรวดจะอวดตน
เทียบลูกปัดไม่ทัดเทียม
๗ แท้เหล็กเลอะสนิม
ฤาจะหลู่ทองเหลืองเลี่ยม
บัวใต้ตมไม่เจียม
สะเอะท้าปรัชญากวี
๘ แท้แค่โจรกระจอก
หลอกโลกหล้าว่าข้านี้
เหนือชั้นประชาชี
เทียบราชาประชาไทย
ภู-ติ-รัก
๑๘-๐๘-๕๑
* โคลงโลกนิติ
สำหรับ “ภู-ติ-รัก” เป็นนามปากกาของสื่อมวลชนแห่งลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา แต่ถิ่นเกิดอยู่ที่ลุ่มน้ำน่าน เป็นหนึ่งในกวีผู้ร่วมก่อตั้ง “กลุ่มกาแล” กลุ่มวรรณกรรมที่ถือกำเนิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อกว่า 20 ปีมาแล้ว ถือเป็นกวีสายตระกูลช่างแรคำ เพราะเป็นศิษย์ของ “แรคำ ประโดยคำ” กวีซีไรต์แห่งลุ่มน้ำแม่ปิง