นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมยุทธศาสตร์ปราบปรามยาเสพติด ได้ข้อสรุปว่า จะมีการประชุมผู้เกี่ยวข้องอีกครั้งในวันที่ 2 เมษายนนี้ พร้อมกับการแถลงนโยบายปราบปรามยาเสพติด โดยใช้ชื่อว่า "รวมพลังประชาไทย พ้นภัยยาเสพติด" ภายใต้กรอบการปราบปราม 3 กลยุทธ์ คือ 3 ลด 3 เพิ่ม และ 3 เน้น
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า 3 ลด คือ ลดผู้ค้า ลดผู้เสพ และลดกลุ่มเสี่ยง ส่วน 3 เพิ่ม คือ เพิ่มมาตรการปฏิบัติ เพิ่มบทบาทภาคประชาชน และเพิ่มบทบาทช่องทางสาธารณะ ขณะที่ 3 เน้น คือ เน้นปราบในส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑลบางพื้นที่ เน้นพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเน้นพื้นที่นำเข้า
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับว่านโยบายปราบปรามต้องทำอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการใช้งบประมาณต้องพิจารณาจากแผนงบประมาณของรัฐบาลเป็นหลัก แต่หากมีโครงการเร่งด่วนก็จะอนุมัติให้ และที่สำคัญจะเน้นการปฏิบัติที่เฉียบคม หวังผลได้ภายในเวลาอันสั้นภายใต้กฎหมาย
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เยาวชนอายุ 15 - 24 ปี เป็นกลุ่มที่น่าห่วงและต้องเฝ้าระวัง พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลและเปลี่ยนนโยบาย ทำให้จำนวนผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มขึ้น
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า 3 ลด คือ ลดผู้ค้า ลดผู้เสพ และลดกลุ่มเสี่ยง ส่วน 3 เพิ่ม คือ เพิ่มมาตรการปฏิบัติ เพิ่มบทบาทภาคประชาชน และเพิ่มบทบาทช่องทางสาธารณะ ขณะที่ 3 เน้น คือ เน้นปราบในส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑลบางพื้นที่ เน้นพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเน้นพื้นที่นำเข้า
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับว่านโยบายปราบปรามต้องทำอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการใช้งบประมาณต้องพิจารณาจากแผนงบประมาณของรัฐบาลเป็นหลัก แต่หากมีโครงการเร่งด่วนก็จะอนุมัติให้ และที่สำคัญจะเน้นการปฏิบัติที่เฉียบคม หวังผลได้ภายในเวลาอันสั้นภายใต้กฎหมาย
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เยาวชนอายุ 15 - 24 ปี เป็นกลุ่มที่น่าห่วงและต้องเฝ้าระวัง พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลและเปลี่ยนนโยบาย ทำให้จำนวนผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพิ่มขึ้น