“สามเกลอ” หน้าบาน “สมชาย” ได้เป็นนายกฯ - ปลุกระดม ปชช.ส่ง จม.โจมตี “จรัญ”

อดีตแกนนำ นปก.สุดปลื้ม “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ได้เก้าอี้นายกฯ มาครอง เชลียร์สุดชีวิต ชี้ “สมชาย” คือ คนแสนดี มีความสามารถ เชื่อจะบริหารบ้านเมืองดีให้ขึ้นแน่ เหน็บ “พันธมิตรฯ” ได้คนดีเป็นนายกฯแล้วยังไม่พอใจ เปรียบเสมือนคนช่างติ ที่ตำหนิได้กระทั่ง “พระพุทธรูป” - กัดไม่ปล่อย ปลุกระดม ปชช.ส่งจดหมาย จี้ ตุลาการศาล รธน.ออกรับผิดชอบกรณี “จรัญ ภักดีธนากุล” ไปรับจ้างสอนหนังสือ ว่า ควรมีความผิดเช่นเดียวกับ “หมัก” ที่ไปรับจ้างจัดรายการทีวี

วันนี้ (17 ก.ย.) รายการเพื่อนพ้องน้องพี่ พีทีวีภาคพิเศษ ออกอากาศทางโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5 ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี

ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มดำเนินรายการผู้ดำเนินรายการดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เห็นได้จากสีหน้าที่ค่อนข้างยิ้มแย้ม เมื่อกล่าวถึงการที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 โดยไม่มีอุปสรรค์ เหมือนครั้งโหวตเลือก นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงประวัติของนายสมชาย โดยสังเขป พร้อมกับกล่าว สรรเสริญเยินยอ ว่านายสมชาย เป็นคนดี มีความสามารถ เหมาะกับการดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงกล่าวแสดงความยินดีในฐานะที่พวกตนก็เป็นคนใต้ เช่นเดียวกับนายสมชาย ที่เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชโดยกำเนิด

นอกจากนี้ นายสมชาย ยังเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดของ พระครูพิสิทธิ์ อัทธการ หรือพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งจังหวัด นครศรีธรรมราชอีกด้วย และพ่อท่านคล้ายนี่เอง ที่เคยเป็นผู้ทำนายไว้ว่า ในอนาคตนายสมชาย จะได้ทำงานสำคัญระดับประเทศ เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ผู้ดำเนินรายาการทั้งสาม ก็กล่าวอย่างชื่นมื่นว่า พวกตนก็เป็นศิษย์ของพ่อท่านคล้าย เช่นเดียวกับนายสมชายด้วย

ผู้ดำเนินรายการกล่าวต่อไปว่า พวกตนเชื่อว่าจากนี้สถานการณ์ทางการเมืองคงจะลดความตึงเครียดลงไปได้มาก เพราะคนใต้ ซึ่งจากเดิมก็ไม่ค่อยชอบรัฐบาลชุดนี้นัก แต่ดูเหมือนว่าในขณะนี้เมื่อคนใต้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว พี่น้องในจังหวัดภาคใต้ก็ดูจะพอใจเป็นอย่างมาก ทำให้คาดการณ์ว่าสถานการณ์การเมืองจากนี้ คงมีแนวโน้มไปในทางที่ดีมากขึ้น

จากนั้นผู้ดำเนินรายการได้นำกล่าวถึงการออกมาแสดงทัศนะของ นายประสาท มีแต้ม อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลาราชนครินทร์ ที่ระบุว่า การที่นายสมชาย ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ จะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวายไปมากกว่าเดิม เพราะเป็นที่รู้ดีว่านายสมชายมีความใกล้ชิดอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงน่าจะมีแนวโน้มที่ปัญหาความแตกแยกทางการเมืองระหว่างกลุ่มคนที่รัก และต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะมีมากขึ้น ซึ่งผู้ดำเนินรายการได้กล่าวตำหนินายประสาท อย่างรุนแรงว่า นายประสาท เป็นนักวิชาการที่ไม่มีความเป็นคน ไม่มีจิตใจที่พร้อมแสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นประสบความสำเร็จ เห็นใครได้ดีก็เอาแต่ด่าทอ แทนที่จะให้กำลังใจ ดังนั้นนายประสาท และคนที่มีความคิดเช่นนี้ จึงใช้ไม่ได้

ทั้งนี้หลังจบเนื้อหา การสรรเสริญเยินยอ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แล้ว เนื้อหาในช่วงต่อมาของรายการ ก็คือกล่าวโจมตี การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และสำนักสันติอโศก เช่นเคย โดยได้กล่าวบิดเบือนว่า สำนักสันติอโศก หวังจะใช้ทางลัด โดยใช้การเมืองเป็นแรงผลักดัน เพราะเมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สำนักสันติอโศก สนับสนุนอยู่ประสบความสำเร็จในการขับไล่รัฐบาลชุดนี้ได้สำเร็จ จนสามารถกุมอำนาจในบ้านเมืองไว้ได้ เมื่อนั้นสำนักสันติอโศก ก็จะเจริญรุ่งเรืองไปด้วย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ศาสนาพุทธ ในประเทศไทยก็คงไม่สามารถดำรงอยู่ได้

นอกจากนี้ ผู้ดำเนินรายการก็ยังไม่ละความพยายามในการกล่าวโจมตีนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่พยายามมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยข้อกล่าวหาที่อ้างว่า นายจรัญ ได้ไปรับจ้างสอนหนังสือ ซึ่งก็น่าจะเข้าข่ายความผิดในกรณีไปเป็นลูกจ้างองค์กรอื่น ๆ ดังนั้นหากใช้บรรทัดฐานเดียวกันกับกรณี การไปเป็นลูกจ้างดำเนินรายการโทรทัศน์ “ชิมไปบ่นไป” ของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว นายจรัญ ก็ควรต้องออกจากตำแหน่ง ตุลาการ รธน. เช่นกัน

ทั้งนี้ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวอย่างเครียดแค้นว่า แม้พวกตนจะโจมตีในรายการเพื่อนพ้องน้องพี่ และรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที มาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ แต่นายจรัญ และตุลาการ รธน. คนอื่น ๆ ก็ไม่ออกมาตอบโต้ หรือแก้ข้อกล่าวหาเลย ดังนั้นพวกตนจึงอยากขอความร่วมมือประชาชนว่า ให้ช่วยกันส่งจดหมายไปทวงถามเรื่องดังกล่าว ยังสำนักงานตุลาการศาล รธน. เพื่อเป็นการแสดงพลังประชาชนให้คณะตุลาการ รธน. ได้เห็น

อนึ่งหลังจบรายการดังกล่าวแล้ว แก๊งค์สามเกลอ คือนายวีระ นายจตุพร และนายณัฐวุฒิ ก็ได้เดินสายไปดำเนินรายการ ความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เช่นเคย ซึ่งเมื่อเริ่มรายการผู้ดำเนินรายการได้ตั้งแง่โจมตี สำนักสันติอโศกอย่างต่อเนื่อง โดยเล่นลิ้นว่าขอให้ผู้ชมร่วมแสดงความผิดเห็นโดยส่งเอสเอ็มเอส เข้ามาในรายการว่า “ลัทธิสันติอโศก เป็นภัยหรือไม่” หากคิดว่าเป็นภัยต่อบ้านเมืองให้กด 1 หรือหากคิดว่าไม่เป็นภัยต่อบ้านเมืองให้กด 2

จากนั้นก็ดำเนินรายการในเนื้อหาคล้ายคลึงกับในรายการเพื่อนพ้องน้องพี่ นั่นคือ การกล่าวถึงประวัตินายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ พร้อมกับกล่าวชื่นชมต่าง ๆ นา ๆ ต่อด้วยการกล่าวว่าแม้นายสมชาย จะเป็นคนดีมีความสามารถแค่ไหน แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่ยอมรับอยู่ดี โดยหาข้อตำหนิต่าง ๆ มาอ้าง ราวกับกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นคนที่ช่างติ แม้แต่พระพุทธรูปที่สวยงาม ก็ยังหาข้อติจนได้

ช่วงต่อมาผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึงกรณีหนังสือพิมพ์บ้านเมือง ฉบับวันนี้ได้ตีพิมพ์ ข้อมูลว่าพวกตนมาจัดรายการ ความจริงวันนี้ แล้วได้รับเงินค่าจัดรายการตอนละ 5000 บาท โดยเป็นเงินที่มาจากงบประมาณของสถานีเอ็นบีทีนั้น นายวีระ ได้ปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง เพราะพวกตนเป็นเอกชนมาเช่าเวลาสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีจัดรายการ ดังนั้นจึงยืนยันได้ว่า พวกตนไม่เคยมีการนำเงินจากเอ็นบีที ซึ่งเป็นภาษีของประชาชนมาใช้เลย

นายวีระ กล่าวเล่นลิ้นด้วยว่ารายการความจริงวันนี้ และพวกตนเป็นรายการที่วิพากษ์วิจารณ์ได้ หากใครไม่เห็นด้วย ก็สามารถติชมได้ ต่างกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่พอใครหรือกลุ่มใดไม่เห็นด้วย แม้แต่สื่อมวลชนบางแขนงที่นำเสนอแล้วไม่ถูกใจ ก็ถูกกลุ่มพันธมิตรฯ ด่าทอ โจมตีไปหมด เห็นได้จากกระแสข่าวที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้มีการต่อว่า กระชากลากคอ ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เช่น มติชน และบางกอกโพสต์

จากนั้นผู้ดำเนินรายการจึงได้กล่าวซ้ำซาก ถึงเรื่องของการที่นายจรัญ ภักดีธนากุล และข้าราชการระดับสูงในองค์กรอิสระ เช่นนายวิชา มหาคุณ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป. ป.ช.) และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ไปรับสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ว่าควรจะมีความผิดเช่นเดียวกับ กรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช จากนั้นก็ได้สั่งการให้ทีมงาน ขึ้นที่อยู่ และเว็บไซด์ ของสำนักงานตุลาการศาล รธน. ที่หน้าจอทีวีเพื่อให้ประชาชนส่งข้อความไปสอบถามยัง สำนักงานตุลาการศาล รธน. ด้วย