“จำลอง” เผย “บิ๊กจิ๊ว” ต่อสายคุยสองต่อสองแล้ว แต่ยังไม่ลงรายละเอียด ปัดเงื่อนไขเจรจาไม่ตรงกัน แถมผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนอื่นยังต่อสายคุยมาตลอด “พิภพ” เชื่อ “หมอประเวศ” ไม่รับ ปธ.กก.อิสระปฏิรูปการเมือง เหตุต้องการให้ ปชช.เป็นเจ้าภาพมากกว่านักการเมือง
วันนี้ (29 ก.ย.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่รัฐบาลได้มอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เข้ามาเจรจากับทางแกนนำพันธมิตรฯ นั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า อย่างที่เคยบอกไว้ พันธมิตรฯ ไม่ได้ปิดประตูตายเรื่องการเจรจา พล.อ.ชวลิต เป็นผู้ใหญ่ เคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ทางการเมือง ซึ่งก็มีการเริ่มพูดคุยกันบางแล้ว
“เป็นการพูดคุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้นเอง ท่านเป็นคนสุภาพมาก พูดจาก็เพราะ ใครเห็นก็ชอบ ท่านใช้คนสนิทติดต่อมา ท่านพูดเองบ้างนิดหน่อย คือเรื่องนี้ต้องบอกว่าการพูดจากันเป็นเรื่องที่ดี ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้จักกันทั้งนั้น ไม่ใช่คนแปลกหน้า การคุยกันดีกว่าสมัยที่แล้วที่ใช้กำลังใช้ความรุนแรง ใช้ไปแล้วก่อให้เกิดข่าวใหญ่โตไปทั่วโลก อย่างนั้นมันไม่ดี แต่การคุยกันยังไม่มีอะไรเป็นมั่นเป็นเหมาะ เพราะยังไม่ได้ลงในรายละเอียด ที่ประชุมพันธมิตรฯ มีข้อตกลงกันว่า ใครก็ตามได้รับติดต่อมาต้องมาหารือกันก่อน”
ถามว่ามีโอกาสเปิดโต๊ะเจรจาหรือไม่ นายพิภพ กล่าวว่า มีโอกาสเป็นไปได้ พันธมิตรฯ ไม่ได้ปิดกั้นการเจรจา แต่ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันทางรายละเอียด ขึ้นอยู่ที่เนื้อหารายละเอียดว่าเป็นอย่างไร ถามอีกว่าสิ่งที่ทำให้การเจรจาไม่คืบ เพราะมีเงื่อนไขบางอย่างไม่ตรงกันหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่มีเงื่อนไขอะไร เพราะยังไม่ได้พูดกันถึงเรื่องนั้น พล.อ.ชวลิต เห็นว่าความมุ่งหมายของพันธมิตรฯ มีช่องทางในหารือกันได้ จึงติดต่อมาพันธมิตรฯ จะไปติดต่อไม่ได้ เพราะไม่ได้ใหญ่โต
เมื่อถามว่า เงื่อนไขอะไรที่จะทำให้เราเจรจาเดินหน้าต่อได้ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบ เพราะตอนนี้เป็นขั้นตอนการเจรจากัน ส่วนเงื่อนไขที่จะทำให้พันธมิตรฯ ยุติการชุมนุมนั้นยังไม่มีเพราะต้องฟัง พล.อ.ชวลิต ก่อนว่าจะมีคำแนะนำอะไร แล้วพันธมิตรฯ จะมาหารือกันว่าทำได้หรือไม่ ซึ่งต้องคำถึงถึงผู้ชุมนุมด้วย เมื่อซักว่าเป็นเพราะตัวแทนของรัฐบาลเป็น พล.อ.ชวลิต หรือไม่จึงทำให้การเจรจาส่งสัญญาณที่ดี นายพิภพ กล่าวว่า ไม่ใช่ตัว พล.อ.ชวลิต คนเดียว เพราะพันธมิตรฯ รับการติดต่อจากผู้ใหญ่ทุกคน
สำหรับมีแนวโน้มที่ พล.อ.ชวลิต ที่จะขอให้พันธมิตรฯ ย้ายออกจากทำเนียบรัฐบาลนั้น พล.ต.จำลอง ยืนยันว่ายังไม่มีการหารือในเรื่องนี้ เป็นเพียงการถามเรื่องสารทุกข์สุกดิบ เป็นห่วงใย ในฐานะที่ พล.อ.ชวลิต เป็นผู้ใหญ่ที่พูดกับคนอายุน้อยกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีนักวิชาการบางท่านเห็นด้วยกับการหารือเรื่องการเมืองใหม่แต่บรรยากาศที่ทำเนียบฯ ไม่เอื้ออำนวย เป็นไปได้หรือไม่ที่จะออกไปร่วมเวทีสาธารณะร่วมกันด้านนอกทำเนียบฯ นายพิภพ กล่าว่า บรรยากาศการหารือเป็นไปด้วยดี มีการแสดงความอิสระในความคิดเห็น การหารือในที่สาธารณะพันธมิตรฯ ไม่ได้ผูกขาดว่าจะต้องเป็นเจ้าภาพ พันธมิตรฯ ให้สถาบันอาชีพ กลุ่มต่างๆ มีสิทธิที่จะทำ เพราะเป็นกระแสการตอบสนองเรื่องการเมืองใหม่ เป็นสมบัติของสาธารณะที่จะต้องช่วยกันคิด
ส่วนที่อธิการบดี 24 สถาบันเสนอให้ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เป็นประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการเมืองนั้น นายพิภพ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่า นพ.ประเวศ คงไม่เข้ามารับตำแหน่งนี้ เนื่องจากบทความที่ นพ.ประเวศ เขียนผ่านหน้าหนังสือพิมพ์นั้น ต้องการเห็นประชาชนเป็นผู้ริเริ่มในการทำการเมืองใหม่ มากกว่าที่จะให้รัฐ หรือนักการเมืองเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ เพราะหากให้รัฐเป็นผู้ดำเนินการจะทำให้กระบวนการของภาคประชาชนถูกลดทอนลง นอกจากนี้ เห็นว่า นพ.ประเวศ คงไม่อยากถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเหมือนครั้งที่เคยเป็นคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (คอส.)
นายพิภพ ยังปฏิเสธการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการยุบสภา โดยให้เหตุผลว่าทุกอย่างขึ้นอยู่ที่สถานการณ์ การยุบสภายังไม่เกิด จึงไม่สามารถกำหนดท่าทีได้ ขณะที่ พล.ต.จำลอง กล่าว่า เรื่องนี้พันธมิตรฯ จะไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างจริงจังไม่ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่หรือบทบาทของพันธมิตรฯ การยุบสภาเป็นการพิจารณาของนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้มีอำนาจเพียงผู้เดียว ซึ่งต้องทำตามรัฐธรรมนูญว่าจะพิจารณายุบสภาเมื่อไร และจะเป็นผู้หารือร่วมกับบรรดานักการเมือง ซึ่งเกินบทบาทหน้าที่ของพันธมิตรฯ