แกนนำพันธมิตรฯ ยอมรับ “ชวลิต” ต่อสายโทรศัพท์พูดคุยจริง แต่จะไม่นำความสัมพันธ์ส่วนตัวเพื่อต่อรองหรือสร้างเงื่อนไขใหม่ ยืนยันการเจรจาจะต้องนำเข้าหารือในที่ประชุม 5 แกนนำทุกครั้ง
วันนี้ (2 ต.ค.) ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต. จำลอง ศรีเมือง และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมแถลงถึงกรณีที่ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจาก นาย สมชาย วงค์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีให้เป็นตัวแทนของรัฐบาลเจรจากับแกนนำพันธมิตรฯถึงการแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศชาติ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ขณะนี้การเจรจาระหว่างรัฐบาลโดย พล.อ.ชวลิต เป็นตัวแทนมีความคืบหน้าไปมาก โดยมีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์กันสองครั้งแล้ว ซึ่งท่านมีความเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเป็นกันเอง มีอะไรก็จะโทรศัพท์มา โดยทาง พล.อ.ชวลิต ได้บอกว่าหากตนมีเรื่องอะไรก็สามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ทันที และถ้าพล.อ.ชวลิต มีอะไรก็โทรมาทันทีเช่นกัน
“ในการพบปะหารือกับแกนนำทั้ง 5 คน ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดเวลาแน่นอน รอให้ท่านว่างเมื่อไหร่ก็สามารถมาหารือกันได้ ผมว่าคุยกันทางโทรศัพท์สะดวกรวดเร็วกว่าการมาพบกัน แต่มีข้อแม้ที่ผมได้เรียน พล.อ.ชวลิต ไปว่าเมื่อท่านแนะนำอะไรมาต้องนำไปแจ้ง 4 แกนนำรับทราบพร้อมกัน เพื่อหารือ จะได้นำไปตัดสินใจอีกครั้ง” พล.ต.จำลอง กล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ในระดับการเจรจาก็มี พล.อ.ชวลิต ติดต่อมาพูดคุยด้วย โดยติดต่อมาทางตนโดยตรง ท่านเสนอความคิดเห็นด้วยตนเอง ไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่ฝ่ายรัฐบาลพูดแทน ขณะนี้ยังไม่ได้ลงไปในรายละเอียดเพราะตอนนี้ท่านไม่ได้มีเฉพาะเรื่องพูดคุยกับพันธมิตรฯอย่างเดียว แต่มีเรื่องอื่นๆให้ดำเนินการอีกหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องนโยบายที่จะมีการแถลงต่อรัฐสภา วันที่ 6-8 ต.ค.นี้ ถ้า พล.อ.ชวลิต คิดอะไรได้บอกมาเลย เราเปิดเผยทุกอย่างเพราะสุดท้ายจะต้องบอกผู้ชุมนุมด้วยว่าจะตัดสินใจอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.จำลอง รู้สึกพอใจที่ พล.อ.ชวลิต โทรสายตรงมาเจรจาอย่างมากหรือไม่ พล.ต. จำลอง กล่าวว่า พล.อ.ชวลิต เป็นรุ่นพี่เตรียมทหารที่ตนนับถือมาก และตนเคยเป็นลูกน้องท่านมาก่อน แต่จะไม่เอาความสัมพันธ์ส่วนตัวมาทำให้ส่วนรวมเสียหาย การพูดคุยกันเป็นเรื่องดีที่คนสนิทกันมาคุยกันเพราะรู้จักกันมาก่อนแล้ว ตนเชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้ พล.อ.ชวลิต จะยังไม่พบกับแกนนำพันธมิตรฯแน่นอน น่าจะเป็นสัปดาห์หน้าจะเหมาะสมเพราะเป็นช่วงที่รัฐบาลแถลงนโยบายไปแล้ว
เมื่อถามว่า การเจรจาจะลงรายละเอียดในเรื่องใดบ้าง พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พันธมิตรฯยังไม่ได้มีการจำกัดประเด็น แต่พร้อมที่จะหารือทุกหัวข้อที่เป็นปัญหาของบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองใหม่ การแก้ไขวิกฤติของชาติ การปฏิรูปการเมือง การตั้ง สสร.3 แม้แต่การยุติการชุมนุมของพันธมิตรฯ เพราะพันธมิตรฯมีเหตุผลที่ต้องบอกประชาชนทุกปัญหาให้สาธารณะชนได้รับทราบอย่างกว้างขวางเพราะพันธมิตรฯไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงหรือหวังผลตำแหน่งทางการเมืองหรือการเข้าสู่อำนาจใดๆทางการเมือง
ส่วนเรื่องการเมืองใหม่ไม่ใช่ของพันธมิตรฯ จะต้องเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศที่ร่วมกันแสดงความคิดเห็น พันธมิตรฯเองก็ได้มีการร่างแนวคิดและคืบหน้าไปมาก ขณะที่ สสร.3 ยังไม่รู้ทิศทางว่ามาจากไหนบ้าง เท่าที่เห็นข่าวรัฐบาลเองยังหลงทางอยู่ว่าการเมืองใหม่มีหน้าตาเป็นอย่างไร ทำให้เห็นว่าเป็นความคิดของการเมืองแบบเก่า นักการเมืองเก่าที่ยึดติดอำนาจ ซึ่งแนวทางของพันธมิตรฯต้องการให้นักการเมืองมีการเกษียณอายุเหมือนอาชีพอื่นๆเพราะจะแก้ปัญหาการผูกขาดได้ของเจ้าพ่อ เจ้าแม่ในท้องถิ่น ซึ่งจะต้องกำหนดให้เกษียณอายุทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
นอกจากนี้ในส่วนนักการเมืองที่โดนตัดสิทธิ 5 ปีเพราะโดนใบแดงคดีซื้อเสียง สมควรตัดสิทธิตลอดชีวิตไปเลย เพราะเมื่อพ้น 5 ปีก็กลับมาซื้อเสียงอีกเมื่อคิดซื้อเสียงแล้วจะต้องลงโทษให้ถึงที่สุดด้วย ซึ่งได้มีแนวคิดการใช้มาตราฐานทางสังคมในการตรวจสอบการทุจริต คือให้รางวัลนำจับผู้แจ้งเบาะแสการทุจริตการเลือกตั้งด้วย เรื่องนี้อาจจะมีปัญหาในหลายๆด้านเพราะอาจจะมีการกลั่นแกล้งต้องมาคิดอีกว่าจะใช้มาตราการอย่างไรที่จะให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบนักการเมืองให้มากที่สุด
นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสมชาย วงสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูญลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อเย็นวันที่ 1 ต.ค.ที่บ้านสี่เสาเทเวศน์ ว่า ตนขอแนะนำ นายกรัฐมนตรี หากเข้าพบกับ พล.อ.เปรม แล้ว ยังมีการแต่งตั้งคนที่เคยนำผู้คนไปถล่มยืนด่าเป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมงที่บริเวณหน้าบ้านของพล.อ.เปรม มามีตำแหน่งโฆษกรัฐบาล พล.อ.เปรม จะว่าอย่างไร เพราะนายสมชายไปขอคำแนะนำในฐานะที่ พล.อ.เปรมเป็นอดีตนายกฯ แต่หากออกมาตั้งคนที่ใส่ร้ายป้ายสีทำให้ พล.อ .เปรม เสียหาย ท่านคงไม่ว่าหรือโทรศัพท์ไปต่อว่านายสมชาย แต่ท่านคงจะบ่นกับคนสนิทเท่านั้น ซึ่งตนเคยอยู่กับ พล.อ.เปรม มานาน ท่านเป็นคนจำแม่นมากว่าใครเคยทำให้ท่านเสื่อมเสีย ท่านจะจำได้แต่ท่านอาจจะไม่พูดว่า ชั่วหรือเลว แต่ท่านจะพูดอย่างมากก็เพียงว่า แย่มากเท่านั้น และรู้สึกเป็นห่วงเรื่องนี้