ผู้จัดการออนไลน์ – “ณัฐวุฒิ-จตุพร” ชวน นปก.รุ่น 2 ข้ามวิกจาก PTV มาจ้อหน้าจอ NBT อ้อนแกมขู่คนใต้ขับไล่ “ชัย ชิดชอบ” ไม่ช่วยสร้างบรรยากาศสมานฉันท์ ลั่นเดี๋ยวจังหวัดอื่นในภาคเหนือ-อีสาน อาจเกิดบ้าง แต่ปิดปากกรณี “ทักษิณ” พูดแบ่งแยกประชาชน-ม็อบเชียงใหม่ไล่ตี ปชป.-ถ่อยอุดรฯ รุมทำร้ายพันธมิตรฯ น้ำลายสมานฉันท์ยังไม่ทันแห้ง มั่วข้อมูลให้ร้าย “คุณหญิงจารุวรรณ” เป็นชุด
วานนี้ (25 ก.ย.) รายการความจริงวันนี้ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งปกติดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ทว่า วานนี้ นายวีระ ไม่มาดำเนินรายการ แต่ก็มีการดึงตัว นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวีและหนึ่งในแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ รุ่น 2 (นปก.2) มาแทน ทำให้รายการความจริงวันนี้เหมือนกับเป็นรายการเพื่อนพ้องน้องพี่ พีทีวีภาคพิเศษ ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5
ตอนต้นของรายการ นายวีระ และ นายณัฐวุฒิ ได้กล่าวถึงการเดินทางลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ในโครงการรัฐสภาพบประชาชนของ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีกลุ่มพันธมิตรฯ หลายร้อยคนเดินทางมาต่อต้าน ณ บริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช และ บริเวณโรงแรมทวินโลตัสที่พัก ว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจของคนใต้
“ปรากฎการณ์ ณ วันนี้ความขัดแย้งทางการเมืองได้ไปปลุกจนกระทั่งการใช้วิธีการปิดล้อมประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ ปิดแม้กระทั่งวัดมหาธาตุฯ เราในความรู้สึกที่เป็นคนใต้ก็ถือว่าเกินไป สถานที่จะพักก็ไปปิดล้อม ผมบอกว่าเวลาที่นักการเมืองของภาคใต้เอง หรือแม้กระทั่ง คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือแม้กระทั่งคนในกลุ่มพันธมิตรฯ ถ้าเดินทางไปในภาคอื่นๆ แล้วถูกปฏิบัติอย่างเดียวกัน ถามว่าความสงบสุขจะอยู่อย่างไร” นายจตุพร ซึ่งระบุว่า บิดาตนเองก็เป็นคนนครศรีธรรมราชกล่าว พร้อมว่า
“ความรู้สึกอันนี้ที่เราเรียกร้องว่าความสมานฉันท์ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของคนในชาติที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ แต่การแสดงความแตกแยกอย่างนี้ไม่ควรที่จะกระทำ แล้วไม่อยากให้กระทบต่อภาคอื่นๆ ถ้าวันนี้นครศรีธรรมราชทำ พรุ่งนี้เชียงใหม่อาจจะมี ขอนแก่นอาจจะมี บุรีรัมย์อาจจะมี แล้วถามว่าจะมีประโยชน์อะไรกับใคร ก็อยากจะให้สติ ...”
ต่อมา นายก่อแก้ว ได้กล่าวเสริมว่า “ผมไม่คิดว่าจะมีคนบางกลุ่มยอมให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นที่นครฯ หรือที่ภูเก็ต หรือเกิดขึ้นที่ไหนก็แล้วแต่ เพราะเรื่องนี้เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ คนที่เสียหายคือตัวจังหวัดของท่านเอง อย่าลืมว่าถ้าท่านทำอย่างนี้ ต่อไปใครอยากจะไปเที่ยวจังหวัดของท่าน ถ้าไม่มีใครไปเที่ยวก็จะไม่มีรายได้เข้าจังหวัด ท่านก็จะเสียหายเอง”
อนึ่ง ผู้ดำเนินรายการทั้งสามไม่ได้กล่าวถึงเลยว่า ความพยายามแบ่งแยกและแบ่งภาคประชาชนนั้นเกิดขึ้นเป็น ครั้งแรก ในสมัยปี 2548 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 31 ต.ค.เวลา 13.00 น.พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวระหว่างเป็นประธานมอบหนังสือแสดงสิทธิสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับประชาชนตามโครงการรัฐเอื้อราษฎร์ ที่หอประชุมโรงเรียนบรรพตพิทยาคม อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ว่า จังหวัดนครสวรรค์ มีพื้นที่ 900 กว่าตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าสิงคโปร์ 2 เท่า แต่พัฒนายังไม่ทั่วถึง จากการที่รัฐมนตรีไปลงพื้นที่ในแต่ละอำเภอคงจะได้ข้อมูลมาช่วยกันพัฒนาจังหว ัดนครสวรรค์ให้ดีขึ้น ต้องถือว่า จ.นครสวรรค์ได้มอบความไว้วางใจให้กับรัฐบาล โดยเลือก ส.ส.รัฐบาลทั้งจังหวัด แน่นอน อันนี้ตรงไปตรงมา ต้องได้สิทธิดูแลเป็นพิเศษ
“ผมตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม จังหวัดไหนมอบความไว้วางใจให้เราต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่เราต้องดูแลคนทั้งประเทศด้วย แต่เวลาจำกัด ต้องเอาเวลาไปจังหวัดที่เราได้รับความไว้วางใจมากเป็นพิเศษ จังหวัดที่ไว้วางใจเราน้อยต้องเอาไว้ทีหลัง ไม่ใช่ไม่ไป คิวต้องเรียงอย่างนี้ ผมเป็นคนพูดตรงไปตรงมา เปิดเผย สื่อมวลชนอยู่ต้องเปิดเผย ไม่มีความลับสำหรับผม วันนี้คิดกับประชาชนอย่างไร ก็อยากเห็นคนทั้งประเทศไม่ว่าอยู่ที่ไหน เลือกหรือไม่เลือกผม ก็อยากให้ทุกคนหายจน แต่เนื่องจากเวลาจำกัดก็ต้องไล่ลำดับกันไป แต่เจ้าหน้าที่ก็ทำเหมือนกันหมดทั่วประเทศ” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
นอกจากนี้ ในเวลาต่อมาเมื่อวันศุกร์ ที่ 31 มีนาคม 2549 ระหว่างที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นำลูกพรรคไปเปิดปราศรัยที่หอศิลป์ จ.เชียงใหม่ กลับปรากฏว่า ได้มีกลุ่มประชาชนจำนวนหลายร้อยคน ที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคไทยรักไทยในขณะนั้น ยืนจับกลุ่มถือป้ายขับไล่และด่าทอพรรคประชาธิปัตย์นอกจากนี้ในเวลาต่อมาระหว่างที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัย กลุ่มผู้ชุมนุมที่สนับสนุนพรรคไทยรักไทย ก็นำรถติดเครื่องขยายเสียงพูดด่าทอพรรคประชาธิปัตย์แทรกเสียงปราศรัย พร้อมปาไข่เน่าข้ามรั้วประตูหอศิลป์ไปยังหน้าเวที นอกจากนี้ ในเวลา 19.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังพังประตูเข้าไปหวังทำร้าย นายอภิสิทธิ์ และ นายชวน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้รุกเข้าไปยังบริเวณเวทีใช้เก้าอี้และป้ายฟาดขอบเวที จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันนายอภิสิทธิ์ และนายชวนลงไปทางด้านหลังเพื่อขึ้นรถเดินทางกลับ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงวิ่งตามไปทุบกระจกและตัวรถ ขณะที่บางส่วนได้เดินทางขึ้นไปยึดเวทีไม่ให้ทางพรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการปราศรัยอีกด้วย
ขณะที่ล่าสุดในช่วงบ่ายของวันที่ 24 ก.ค.2551 ได้เกิดเหตุการทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ ขึ้นที่ จ.อุดรธานี โดยกลุ่มม็อบถ่อยราว 500 คน ภายใต้การควบคุมของ นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักทักษิณ ใน จ.อุดรธานี และนายอุทัย แสนแก้ว น้องชายนายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรฯ และ ส.ส.พลังประชาชน จ.อุดรธานี กรูเข้ารุมทำร้าย พร้อมรื้อเผาเวทีปราศรัยของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เข้าไปห้ามปราม เป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมของพันธมิตรฯ ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คน ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 13 คน มีอาการสาหัสต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู 1 คน มากกว่านั้น หลังจากนั้น สตรีคนหนึ่งผู้ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสยังถูกแจ้งข้อหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย (เพิ่มเติม : ชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ม็อบถ่อยไล่ทำร้ายประชาชนที่ จ.อุดรธานี)
จากนั้นผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ ทั้งสามได้เปิดวีซีดีที่มีเนื้อหาให้ร้าย คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งมีความยาวประมาณ 5 นาที โดยเนื้อหาในวีซีดีระบุว่า คุณหญิงจารุวรรณดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ สตง.โดยไม่ถูกต้อง ทั้งยังได้รับการต่ออายุโดยรัฐบาลเผด็จการ ในสมัยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นอกจากนี้ ยังพยายามโจมตีเกี่ยวกับเรื่องการสร้างบ้านของ คุณหญิงจารุวรรณอีกด้วยว่าสร้างราคาถูกเกินจริง กล่าวหามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ ผู้บริหารองค์กรส่วนท้องถิ่นจังหวัดนนทบุรี สถานที่ตั้งบ้านที่กำลังปลูกสร้างอยู่
ด้าน นายณัฐวุฒิ ได้กล่าวต่อว่า ตนเองมีรายชื่อสถาปนิกที่ออกแบบบ้านหลังนี้ว่าเป็น ผู้อำนวยการสำนักเทศบาลปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว และชื่อวิศวกรที่จะทราบว่าผู้รับเหมาคือใคร พร้อมอ้างว่ามีข้อมูลลับที่มีชาวบ้านส่งมาให้เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
“ข้อมูลมันลึกมาก ผมยืนยันว่า ลึกจนน่าตกใจ เขาอธิบายพร้อมตั้งคำถามมาเสร็จสรรพว่า คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา มีความสัมพันธ์ชนิดที่เป็นกันเองอย่างยิ่ง กับบางคนที่เป็นผู้นำท้องถิ่นในจ.นนทบุรี หรือไม่ เหตุผลก็เพราะมีข้อมูลว่า องค์กรท้องถิ่นบางแห่งเป็นคนอำนวยความสะดวกให้” อดีตรองโฆษกสำนักนายกฯ กล่าวขึ้นลอยๆ จากนั้น นายจตุพรได้พยายามให้ร้ายว่า อาจมีกรณีร้องเรียนกรณีหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่ง สตง.ต้องเข้าไปสอบ จนทำให้ คุณหญิงจารุวรรณสามารถสร้างบ้านได้ในราคาถูก
สำหรับบ้านหลังดังกล่าว คุณหญิงจารุวรรณ เคยชี้แจงว่าถ้ามีราคาสูงถึง 50 ล้านบาทดังที่นายณัฐวุฒิและจตุพรกล่าวหาจริงก็พร้อมที่จะขายเลหลังในราคา 35 ล้านบาท นอกจากนี้บางหลังดังกล่าวยังเคยถูกวางเพลิงโดยคนร้าย 4 คน ในช่วงคืนวันที่ 12 ต่อ วันที่ 13 ส.ค.2551 ที่ผ่านมาอีกด้วย ทว่าถูกหัวหน้าคนงานซึ่งนอนพักอยู่ในไซต์งานก่อสร้างพบเห็นเสียก่อน