xs
xsm
sm
md
lg

“สามเกลอ”ฟูมฟาย“หมัก”ตกเก้าอี้นายกฯ-ไร้ยางป้ายผิด“พันธมิตรฯ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


น้ำตาท่วมจอ NBT หลัง “สามเกลอ” รู้แน่ “หมัก” อดเป็นนายกต่อ คลั่งจัด โบ้ยมั่วซั่ว เป็นเพราะมีนายทหารปล่อยข่าว ล็อบบี้ไม่ให้ ส.ส.เลือก “หอกหัก” เป็นนายกต่อ เหน็บ ประชาธิปัตย์ หวังให้ “อภิสิทธิ์” เป็นนายกโดยใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย ป้ายสี “พันธมิตรฯ” ต้นเหตุปัญหาบ้านเมือง ฟาดฟันจน “หมัก” ตกเก้าอี้นายก

วานนี้ (12 ก.ย.) รายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงษ์ อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย โดยมีผู้ร่วมดำเนินรายการขาประจำคือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน

ทั้งนี้เมื่อเริ่มรายการ ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึงกรณีนายสมัคร ได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแล้ว ดังนั้นจึงเป็นที่แน่นอนว่านายสมัคร จะไม่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก พวกตนจึงอยากสอบถามความคิดเห็นของประชาชนว่า 7 “เดือนกับการบริหารงานของรัฐบาลนายสมัครนั้นท่านพอใจหรือไม่” ซึ่งหากพอใจให้พิมพ์ 1 ไม่พอใจให้พิมพ์ 2 นอกจากนี้ข้อความที่จะส่งมาแสดงความคิดเห็นในวันนี้ ก็อยากจะให้เป็นเพียงข้อความที่ต้องการฝากถึงนายสมัคร เท่านั้น เพื่อเป็นการแสดงความรู้สึก หรือให้กำลังใจนายสมัคร

ต่อมาผู้ดำเนินรายการได้กล่าวย้ำถึงกรณีที่ 2 วันที่ผ่านมาพวกตนได้กล่าวโจมตีนาย จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาล รธน. และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ที่ไปรับจ้างสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยว่า ทั้งสองทำผิด รธน. เช่นเดียวกับการที่นายสมัคร ไปเป็นลูกจ้าง จัดรายการชิมไปบ่นไป ดังนั้นทั้ง 2 คนจึงไม่มีคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งตุลาการ รธน. และ ผู้ว่า สตง.อีกต่อไป

ผู้ดำเนินรายการระบุด้วยว่า แม้พวกตนจะพยายามเรียกร้องอยู่ 2 วันแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ยอมออกมาตอบคำถามของพวกตน โดยผู้ดำเนินรายการไม่ได้อธิบายว่า เพราะเหตุใดจึงไม่ยอมนำเรื่องดังกล่าวไปยื่นตรวจสอบ หรือล่ารายชื่อเพื่อให้ศาลพิจารณา แทนที่จะเอามากล่าวโจมตีผ่านรายการเท่านั้น

ช่วงต่อมานายจตุพร ในฐานะของ ส.ส. พรรคพลังประชาชน ได้กล่าวถึงกรณีการประชุมสภาในวันนี้ว่า ไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ เพราะองค์ประชุมไม่ครบ แต่กระนั้นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ก็หวังจะฉวยโอกาสเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าองค์ประชุมไม่ครบ เหมือนกับต้องการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเสียเอง โดยหวังจะใช่ช่องโหว่ของกฎหมายที่ว่า หากเกินกำหนด 30 วันแล้วองค์ประชุมในสภาที่โหวตเลือกนายกยังไม่ครบกึ่งหนึ่ง ผู้ที่เคยได้รับการเสนอชื่อไว้ก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ทันที ซึ่งตนก็ไม่คิดมาก่อนว่าพรรคประชาธิปัตย์ อยากจะให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกขนาดนี้ ถึงขนาดกระทำการราวกับเป็นการวิ่งราวชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่องค์ประชุมไม่ครบจนนายสมัคร ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้นเป็นเพราะ มีกระแสข่าว ว่ามีนายทหารระดับสูง ได้แจ้งมายัง ส.ส. ในพรรคร่วมรัฐบาลว่าหากยังดึงดันเลือกนายสมัคร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีจะเกิดเรื่องใหญ่ในบ้านเมือง ซึ่ง ส.ส. บางส่วนก็อาจจะเชื่อกับกระแสข่าวดังกล่าว จึงทำให้ไม่ยอมมาโหวตลงมติให้นายสมัคร ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้ทหารใช้นักการเมืองเป็นเครื่องมือ หรือไม่ก็เป็นการที่นักการเมืองบางคนกุข่าวโดยใช้ทหารเป็นเครื่องมือ แต่ท้ายที่สุดก็เพื่อต้องการทำลายนายสมัครนั่นเอง

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวแล้ว ตนรู้สึกเห็นใจนายสมัครเป็นอย่างยิ่ง เพราะวันนี้เมื่อนายสมัครรู้ว่าองค์ประชุมไม่ครบ ไม่สามารถเป็นนายรัฐมนตรีต่อไปได้ ตนได้เข้าไปถามนายสมัคร ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไ นายสมัครได้กล่าวว่า “ผมไม่เอาแล้ว มันน่าอาย” ซึ่งตนก็ไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับนายสมัคร ทั้งที่นายสมัครเป็นผู้นำที่ดีมาตลอด เหตุใดจึงต้องถูกกลั่นแกล้งเช่นนี้

ด้านณัฐวุฒิได้กล่าวเสริมว่าในวันที่ประเทศชาติ ต้องประสบกับคลื่นลม นายสมัครผู้นี้ก็คอยถือหางเสือให้เรามาตลอด ดังนั้นไม่ว่าจากนี้นายสมัคร จะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร พรรคพลังประชาชนก็มีหน้าที่ต้องรักษาและปกป้องเกียรติของนายสมัครเอาไว้ เพราะนายสมัคร ได้เคยถือหางเสือพาบ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤติจนถึงวันนี้

ขณะที่นายวีระ ได้กล่าวเปรียบเทียบนายสมัคร ว่าเหมือนกับ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่เป็นคนดีมาโดยตลอด แต่พอมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว กลับกลายเป็นเหยื่อ เจอแต่ข้อกล่าวหาที่เลวร้าย เหมือนเป็นคนดวงดีมาตลอด แต่มาดวงตกตอนเป็นนายกนี่เอง ซึ่งตนเชื่อว่าหลังจากวันนี้ที่นายสมัครออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว สังคมจะชื่นชม ว่านายสมัครเป็นคนดี มีความสามารถ เช่นเดียวกับ มรว.คึกฤทธิ์ ที่กลับมาได้รับคำชื่นชมอีกครั้งหลังออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายวีระ กล่าวสรรเสริญ นายสมัครต่อไปว่า ตั้งแต่บริหารงานมา 7 เดือนตนไม่เคยเห็นว่านายสมัคร ทำผิดต่อชาติบ้านเมือง และกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ แม้แต่น้อย เพราะนายสมัคร สามารถรักษาประชาธิปไตยไว้ได้ โดยไม่เคยสั่งสลายม็อบให้คนบาดเจ็บล้มตาย ซ้ำยังสั่งถอยกำลังตำรวจไม่ให้ทำร้ายประชาชน แต่ปัญหาที่แท้จริงของประเทศในวันนี้คือ กลุ่มกบฎพันธมิตรฯ ทั้ง 9 และแนวร่วมอีกไม่เกิน 20,000 ที่ชุมนุมอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งคนเหล่านี้เอง ที่เป็นผู้ระราน ฟาดฟันจนนายสมัคร ไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้

ในช่วงท้ายรายการ ผู้ดำเนินรายการทั้งสามได้ทำหน้าซึ้ง พร้อมกับกล่าวว่า วันนี้พวกตนก็คงไม่สามารถพูดอะไรกับนายสมัครได้อีก นอกจากจะกล่าวว่า ขอบคุณที่ท่านสมัครรักษาระบอบประชาธิปไตยไว้ได้ แม้จะต้องเผชิญกับกลุ่มที่ชุมนุมเรียกร้องอย่างเกินขอบเขตของกฎหมาย แต่ท่านก็แก้ไขปัญหาด้วยความละมุนละม่อม ดังนั้นจากนี้ขอให้ท่านสมัครและครอบครัวมีความสุข และจะไม่มีใครไปรุกรานท่านและครอบครัวได้อีกแล้ว
นายวีระ มุสิกพงษ์
นายวีระ มุสิกพงษ์
นายจตุพร พรหมพันธุ์
กำลังโหลดความคิดเห็น