“สมเกียรติ” เหน็บรัฐบาล “หมัก” เลือก “เกียกกาย” สร้างสภาใหม่ เพราะใช้งบฯ ชดเชยเยอะ พื้นที่อื่นที่เคยเลือกไว้ก่อนแต่งบฯ รื้อถอนน้อยถูกตีตกหมด เผย “หมัก” กุมอำนาจไว้ในมือเบ็ดเสร็จ หลัง “แม้ว” หนีจนอ่อนกำลัง ขณะนายกฯ มีอำนาจยุบสภาในมือ ขณะ “ทักษิณ” ทั้งเสียหน้าและเสียเงิน ทั้งเสียความรู้สึกที่ “นอมินี” เมินแก้รัฐธรรมนูญช่วย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วานนี้ (20 ส.ค.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานฯ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้มอบหมายให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรฯ ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารหมายจับว่า คนนี้ไม่ใช่หรือที่ไม่บอกว่าไม่เชื่อมั่นในกระบวนการศาลและกระบวนการยุติธรรมไทย แล้วมาแจ้งความทำไม เพิ่งออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมว่า ศาลไทยพิพากษาโดยตั้งธงไว้ก่อนว่าจะให้ผลออกมาเป็นอย่างไร วันนี้กลับมาแจ้งความเพื่อพึงบารมีศาลที่เขาบอกว่าไม่เชื่อถือเลย
นายสมเกียรติ ได้กล่าวถึงการประชุมสภาในวันนี้ว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชน ได้มีการกล่าวโจมตีการทำหน้าที่ของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน แต่คุณหญิงจารุวรรณก็ได้ชี้แจงตอบโต้กลับเช่นกัน และยังกล่าวด้วยว่าในวันนี้ตนเองได้ไปพบกับ ส.ส.กลุ่มหนึ่งในฝ่ายรัฐบาลเพื่อสอบถามเรื่องการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ว่าใชงบประมาณเท่าไร แต่ปรากฎว่า ส.ส.กลุ่มนั้นไม่ทราบว่าใช้งบเท่าไหร่ เพราะเรื่องนี้ไม่มีอยู่ในโครงการแต่อย่างใด ซึ่งก็ตั้งข้อสังเกตได้ว่าเป็นการจงใจที่จะเร่งรีบหาผลประโยชน์ของคนในรัฐบาลเอง ทั้งนี่ค่าใช้จ่ายเฉพาะ ในการรื้อถอนพื้นที่นั้นได้ตั้งไว้ถึง 4,008 ล้านบาท เฉพาะค่ารื้อตัวอาคารออกไปและจ่ายค่าชดเชย ไม่รวมค่าปรับที่ดิน ส่วนงบประมาณค่าสร้างทั้งหมดยังไม่มีมีความชัดเจนว่าจะใช้เท่าใด แต่คาดว่าจะใช้เงินไม่ตํ่ากว่า 19,000 ล้านบาท โดยงบประมาณที่จะใช้นั้นจะนำมาจากการแปรญัตติคือการตัดจากงบประมาณของหน่วยงานอื่นๆ ที่เสนอเข้ามาในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2552
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ในช่วงก่อนหน้านี้มีการหาพื้นที่ที่จะสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ โดยในสมัยที่นายอุทัย พิมพ์ใจชน เป็นประธานรัฐสภานั้น มีการเสนอพื้นที่บริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แต่รัฐบาลไม่เอา อ้างว่าอยู่ไกล นอกจากนี้อาจเป้นเพราะต้องเสียค่าเวนคืนน้อย ต่อมาในยุค สนช.สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ตกลงจะเอาที่ปากเกร็ด แต่มาถึงรัฐบาลนี้ ก็ไม่เอา อาจเป็นเพราะว่าไม่ค่อยมีอาคารให้รื้อมากนัก งบประมาณที่จะใช้น้อยเกินไป จึงมาเลือกพื้นที่ ชุมชนเกียกาย ที่ต้องรื้ออาคาร รื้อชุมนุมชนออกไป ต้องใช้งบประมาณ มีโอกาสคอร์รัปชั่นได้มาก
นอกจากนี้ นายสมเกียรติยังกล่าวถึงกระแสการต่อสู้ของรัฐบาลกับพันธมิตรว่า ในขณะนี้นายสมัคร สุทรเวช สามารถควบคุมเกมในรัฐบาลไว้ได้แล้ว ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณนั้น กลับอ่อนกำลังลงไป โดยนายสมัครได้ใช้อำนาจในการยุบสภาเพื่อต่อรอง ส.ส.ในพรรครัฐบาลด้วย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงการมีอำนาจอย่างมากในขณะนี้ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ในขณะนี้เสียหน้าอย่างมาก รวมทั้งเสียเงินเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเสียความรู้สึกในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญแต่ ส.ส.ในรัฐบาลก็ไม่ได้มีการดำเนินการแต่อย่างใด ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่นายสมัคร ไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่องนี้ และสุดท้ายคือ พ.ต.ท.ทักษิณเสียสติไปแล้ว คือกรณีที่ไปฟ้องพันธมิตรฯว่าปลอมแปลงหมายจับ
ทั้งนี้ ก่อนที่นายสมเกียรติจะขึ้นปราศัย ได้มีพันธมิตรฯ จากประเทศแคนาดาขึ้นกล่าวกับผู้มาชุมนุมด้วย
