“สุริยะใส” แฉ “ส.ส.ร.3” ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อต่ออายุทางการเมืองให้กับ “รัฐบาลหุ่นเชิด” ยัน “พันธมิตรฯ” ไม่รับอย่างแน่นอน ก่อนฉีกหน้ากากอัดซ้ำ “สมชาย” โอ่พบ “ป๋าเปรม” แค่สมาฉันท์จอมปลอม ชี้เหตุเพราะหนีบ “ณัฐวุฒิ” ลงใต้ไปเป็นโฆษก ทั้งๆ ที่เคยเป็นแกนนำ นปก. พามวลชนบุกถล่ม “บ้านสี่เสาเทเวศร์”
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุริยะใส กตะศิลา ปราศรัย
วันนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 00.35 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ซึ่งลาออกจากพรรคพลังประชาชน โดยอ้างเหตุผลว่าไม่มีตำแหน่งนั้น ฟังไม่ขึ้น แต่เหตุผลที่แท้จริง คือ ถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตัดหางปล่อยวัดโดยสิ้นเชิง ฉะนั้น 6 เดือนที่ศาลพิพากษา เราจะไม่เห็นสมาชิกพรรคพลังประชาชนไปเยี่ยมเยือนนายสมัคร เลยแม้แต่คนเดียว ดังนั้นนายสมัคร จึงเจ็บปวดที่สุดในเวลานี้ และตนถือสุภาษิตว่า คนล้มอย่าข้าม และควรให้อภัย เพราะที่เราเรียกร้องนายสมัคร มาโดยตลอด คือ ขอให้ทำหน้าที่เพื่อแผ่นดิน
ส่วนกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ได้นัดหมายเพื่อเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี แต่ยังกำหนดวันไม่ได้นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า พล.อ.เปรม อาจจะไม่ได้คิดเหมือนเรา แต่คนทั่วไปรู้สึกเช่นนั้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของสังคม แต่ถ้าย้อนกลับไปตรวจสอบนายสมชาย มีอย่างที่ไหนลงไปภาคใต้ กลับเอาแกนนำ นปก.ไปเป็นโฆษกบนเวทีที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งคนคนนั้นก็คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และข่าวล่าสุดว่ากันว่า เจ๊แดง เตรียมเป็นเจ๊ดันนายณัฐวุฒิให้เป็นโฆษกรัฐบาลอย่างแน่นอน
“นายณัฐวุฒิ ในอดีตนำมวลชน นปก.ไปถล่มบ้าน พล.อ.เปรม ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ แต่ขณะนี้แกนนำ นปก.กำลังจะได้ดีทุกคน แล้วอย่างนี้ พล.อ.เปรม จะให้เข้าพบได้หรือไม่ ส่วนผมถือว่าใช้ไม่ได้ โดยเฉพาะรายการความจริงวันนี้ ซึ่ง 3 เกลอโจมตีองค์มนตรี ผู้พิพากษา และผู้หลังผู้ใหญ่ในบ้านเมือง แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าสมานฉันท์อย่างนั้นหรือ อีกทั้งยังมีการวางแผนที่จะจับแกนนำไปวันๆ แต่พันธมิตรฯ เคลื่อนไหวด้วยพลังมวลชน โดยเฉพาะพลังมือตบนั้น ไม่มีใครมาชี้นำ เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพของพวกเราในอีกด้านหนึ่ง โดยเรามีจริยธรรมว่าอะไรถูก อะไรผิด และตนเชื่อว่าพลังมือตบจะระบาดไปทั่วบ้านทั่วเมือง” นายสุริยะใส กล่าว
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า สัญลักษณ์ของพันธมิตรฯ คือ ผ้าโพกหัวกู้ชาติ แต่ที่มาแรงกว่า คือ มือตบ โดยพวกเราได้ผลิตอาวุธออกมาต่อสู้จนมีบางห้างร้านไม่อนุญาตให้มือตบเข้าไปขาย ที่สำคัญขณะนี้มือตบผลิตแทบไม่ทัน เพราะเปรียบเสมือนอาวุธที่เอาไว้ฆ่าพวกศัตรูในเวลาที่เราขยับมือตบ จนกลายเป็นอาวุธทางการเมืองที่ทรงคุณภาพ
ส่วนกรณีที่จะมีการตั้ง ส.ส.ร.3 นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า จุดยืนของพันธมิตรฯ คือ เราคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2540 ไม่ว่าจะมาตราใดก็ตาม แต่ถ้าเป้าหมายเพื่อฟอกผิดระบอบทักษิณ เราจะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นที่มาของการชุมนุม นอกจากนี้เราต้องอ่านให้ออกว่าพรรคพลังประชาชนอยากจะแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 โดยจะริเริ่มร่วมกับพรรคการเมืองอีก 5 พรรค ซึ่งมติ ครม.รับนโยบายทันควัน ทั้งๆ ที่ยังไม่แถลงนโยบายต่อสภา เนื่องจากเขาต้องการเปลี่ยนจากผู้ตั้งรับเป็นฝ่ายรุกกลับ จึงชิงเป็นผู้เสนอให้มีการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 ซึ่งเรายอมยากกับทัศนะที่ไม่บริสุทธิ์อย่างนี้ ที่สำคัญ เขาควรรับมติจาก 24 อธิการบดี โดยสรุปคือ ส.ส.ร.3 คือการต่ออายุทางการเมืองของรัฐบาลหุ่นเชิดเท่านั้น
“ทำไมเราถึงคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากเรากำลังจะมอบอำนาจการออกแบบการเมืองใหม่ให้กับรัฐบาลหุ่นเชิด จึงทำให้เรายอมไม่ได้ เพราะสังคมเท่านั้นที่จะเป็นเจ้าภาพ ไม่ใช่นักเลือกตั้ง ฉะนั้นเราต้องยึดมั่นในเนื้อหา และโอกาสที่จะมี ส.ส.ร.3 เป็นไปได้สูงมาก และแรงกดดันจะกลับมาอยู่ที่พันธมิตรฯ ทั้งนี้จะเขียนอย่างไรก็เขียนไป แต่ถ้าเขียนเพื่อฟอกผิดให้กับระบอบทักษิณ เรายอมไม่ได้อย่าเด็ดขาด ดังนั้น ส.ส.ร.3 จึงไม่มีความหมาย หากยังมีรัฐบาลหุ่นเชิดอยู่อย่างนี้ และเราจะต้องโค่นล้มเพื่อสร้างการเมืองใหม่ จึงถือเป็นภาระ และเป้าหมายทางการเมืองสูงสุด โดยให้โจทย์นี้กับทุกมหาวิทยาลัยให้ไปช่วยกันออกแบบ” ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ระบุ
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า การปฏิรูปการเมือง ต้องไม่ให้นักการเมืองเป็นผู้ออกแบบ หมายความว่าเราต้องไม่ให้นักการเมืองเขียนกติกาเอง เพราะเขาจะลักไก่สอดไส้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ส่วนหน้าตาของกฎหมายที่ ส.ส.ร.ร่างออกมาจะเป็นอย่างไรนั้น คนละเป้าหมายกับพวกเรา ดังนั้นเราต้องชักธงใหม่เพื่อโค่นล้มรัฐบาลหุ่นเชิดต้องมาก่อน เพราะถ้าสังคมไทยไม่ช่วยกัน ระบอบทักษิณ ก็จะกลับมาอีก ดังจะเห็นได้จากคำวินิจฉัยคดีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นเราจึงอยากออกแบบระบบใหม่ เพราะหน้าที่ของเรา คือ ต้องสร้างนักการเมืองที่ดีให้เข้าไปสู่สภา ก็ได้แต่หวังว่าพวกเราจะไม่หลงประเด็น
“หากย้อนกลับเมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว ไปดูการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชน ก็จะพบว่าไม่มีมาตราไหนเลยที่จะเพิ่มอำนาจให้กับประชาชน มีแต่จะลดอำนาจขององค์กรอิสระ โดยพยามลดบทบาทของ กกต. ตัดทอนวาระ ป.ป.ช. และ คตส. เล่นงานคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา และพยายามที่จะแทรกแซงศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกล่าวหาว่าเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการ สุดท้ายก็จะแก้ปัญหาเรื่องยุบพรรค และยุบ คตส. ฉะนั้นวันนี้ พรรคพลังประชาชนจึงฉวยโอกาสฟื้นความคิดที่จะฟอกผิด พ.ต.ท.ทักษิณ โดยใช้โอกาสจากกระแสรัฐธรรมนูญซึ่งกำลังจุดติดอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น หากนักวิชาการ หรือสื่อหลงประเด็นก็จะตกหลุมพรางระบอบทักษิณอย่างแน่นอน” นายสุริยะใส กล่าว