“สมศักดิ์” ยํ้าพลังนักศึกษามีส่วนสำคัญ เพราะเป็นพลังที่บริสุทธิ์ รวมทั้งยังมีจำนวนมาก และไม่มีใครกล้าที่จะทำร้าย ชี้จับตา “เติ้ง” ยังไว้ใจไม่ได้แม้จะปฏิเสธเก้าอี้นายกฯ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
เมื่อเวลา 22.40 น. วันที่ 10 ก.ย. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศัยที่หน้าทำเนียบรัฐบาล กล่าวชมเชยนักศึกษาทุกคนจากสถาบันต่างๆ ที่มาร่วมต่อสู้ และกล่าวด้วยว่าเด็กเหล่านี้ยังโชคดีที่ได้ออกมากู้ชาติ ขับไล่รัฐบาลทรราช ซึ่งถือเป็นบุญของเยาวชนเหล่านี้ และจะเป็นที่จดจำด้วยว่าครั้งหนึ่งได้เคยออกมากู้ชาติ
นายสมศักดิ์ยังกล่าวว่า การเมืองที่มีระบบทุนนิยมเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นเป็นตัวที่ทำให้เกิดความเสียหาย และฟักตัวอยู่เรื่อยมาจนถึงรัฐบาลหุ่นเชิดในปัจจุบัน ซึ่งเราจะต้องต่อสู้ต่อไป โดยวันนี้ชัดเจนแล้วว่าคนที่เป็นกบฏต่อบ้านเมือง คือ นายสมัคร สุนทรเวช เห็นได้ชัดเจนจากกรณีที่ยกปราสาทเขาพระวิหารไปให้ประเทศกัมพูชา รวมทั้งคดีรายการชิมไปบ่นไป ที่ศาลตัดสินแล้วว่ามีความผิด และถ้ารัฐบาลหมดความชอบธรรมแล้วอำนาจการปกครองก็จะตกลงมาอยู่ที่ประชาชน ซึ่งรัฐบาลนี้หมดความชอบธรรมไปแล้ว
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงนายกฯ คนใหม่ที่จะเข้ามาแทนว่า ให้คอยดูนายบรรหาร ศิลปอาชา เอาไว้ เพราะยังเชื่อไม่ได้ทั้งๆ ที่ได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าจะไม่รับตำแหน่งนายกฯ ก็ตาม
นอกจากนั้นแล้ว เรายังเห็นการทำหน้าที่ของรัฐบาลที่ไม่ชอบ เช่น กรณีของนายจักรภพเพ็ญ ที่ตำรวจยังไม่สามารถดำเนินคดีได้จนถึงวันนี้ เพราะตำรวจไม่ดีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำให้ตำรวจดีได้รับความเสียหายไปด้วย โดยในวันนี้อำนาจการบริหารประเทศตกอยู่ในมือของโจร ถือเป็นการเมืองที่เลวระยำที่สุดแล้ว
ทั้งนี้ ท่านพุทธทาสได้เคยกล่าวไว้ว่า การเมืองเป็นเรื่องของการปฏิบัติธรรม แต่การทำงานของนักการเมืองในสภากลับเป็นเหมือนละครลิงเท่านั้น โดยที่นักการเมืองเหล่านั้นไม่ได้มีความรู้อะไรเลย
ฉะนั้น วันนี้ผู้ที่รักชาติต้องออกมาชุมนุมกันให้มากขึ้น เพราะรัฐบาลนี้ท้าทายไม่ยอมรับความผิดต่างๆ ที่ได้กระทำไป รวมทั้งนักวิชาการที่ไม่เคยรู้ถึงความผิดชอบชั่วดีที่ออกมากล่าวหาว่าศาลไปกลั่นแกล้งนายสมัคร ทั้งๆ ที่ความผิดนั้นมีหลักฐานยืนยันชัดเจน ซึ่งคนที่มีมลทินมัวหมองเพียงนิดเดียวก็ไม่สมควรที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่กลับออกมาบอกว่าให้ถอยหลังกันคนละก้าวทั้งๆ ที่คนที่ทำผิดควรจะได้รับการลงโทษ ซึ่งหากถอยกันคนละก้าวเท่ากับว่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในสังคมนี้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การต่อสู้ของพันธมิตรนั้นลูกหลานเป็นส่วนที่สำคัญ เพราะยังสะอาดบริสุทธิ์ รวมทั้งยังมีจำนวนมากกว่ากองทัพด้วย ซึ่งหากใครทำร้ายนักศึกษาจะมีความผิดอย่างมาก นอกจากนี้ หน้าที่ของประชาชนทั้งหลายยังมีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใด แต่เป็นรัฐบาลที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นกบฏอย่างชัดเจน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมของพันธมิตรฯ จนถึงวันนี้เราได้มีการควบคุมดูแลอย่างดีแล้ว ไม่มีใครกล้ามาทำร้ายประชาชนได้ เพราะได้มีการดูแลอย่างดี และกล่าวยํ้าว่า โจรนั้นดูได้ไม่ยาก
