xs
xsm
sm
md
lg

"นายกฯ ซาตาน-ตำรวจเลว"เข่นฆ่าประชาชน!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ผมจะยอมตายเพื่อปกป้องสถานที่ ไม่กลัวว่าจะต้องติดคุก หากต้องใช้ความรุนแรง เพราะผมได้ทำตามหน้าที่และขั้นตอนตามกฎหมายที่ได้วางไว้ทุกอย่าง"

คำประกาศของ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ที่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไว้เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2551 ต่อกรณีการจับกุมนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ โดย"บิ๊กเบื๊อก" พล.ต.ท.สุชาติ ยังระบุไว้ในครั้งนั้นด้วยว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯเดินทางไปกดดันตำรวจที่หน้า บช.น.อีก ตำรวจได้เตรียมพร้อมไว้ทุกอย่างชนิด "ฟูลออปชั่น" หากมีการมาชุมนุม และมีการบุกเข้ามา ตำรวจมีมาตรการจากเบาไปหาหนัก หรือหากมีความจำเป็นก็ต้องใช้แก๊สน้ำตา

7 ตุลาคม 2551 ถัดมาเพียง 4 วัน เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า "ฟูลออปชั่น" ของ พล.ต.ท.สุชาติ นั้นเป็นเช่นใด โดยช่วงเช้า ตำรวจใช้อาวุธหนักยิงใส่กลุ่มประชาชนที่ไปรวมตัวกันบริเวณหน้ารัฐสภา ฝั่งถนนราชวิถี เพื่อเคลียร์พื้นที่เปิดทางให้"นายกรัฐมนตรีซาตาน" กับพวกเข้าไปในรัฐสภา แถลง"นโยเมีย" โดยมีเป้าหมายหลักในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่ได้รับคำสั่งมา เหตุการณ์ในช่วงเช้าวันนี้ ได้แสดงถึงความโหดเหี้ยม และป่าเถื่อน โดยไม่คำนึงถึงชีวิตและเลือดเนื้อของประชาชน และประเทศชาติ แต่ทำเพียงเพื่อให้ตนเองได้บรรลุเป้าหมายตามที่ได้ถูกผู้กุมอำนาจตัวจริงกำหนดไว้เท่านั้น

แม้ตัวนายกรัฐมนตรีอย่างนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดูจะมีกริยาท่าทางที่นุ่มนิ่ม ราวผู้ดี แต่เมื่อเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้น ย่อมเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ตัวตนสมชายที่แท้จริง คือซาตานกระหายเลือดดีๆนี่เอง ความกระหายเลือดดังกล่าวทั้งหมด ถูกส่งผ่านไปยังนายตำรวจ 2 นาย ซึ่งย่อมต้องหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ ทั้ง พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ที่ดูเหมือนมีเลือดซาตานซ่อนเร้นอยู่ทุกอณูในร่างกายอยู่แล้ว รอเพียงวันให้มันปะทุขึ้นมาเท่านั้น และเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นก็เป็นจริงดังว่า

เหตุการณ์ครั้งนี้ มิใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลซาตานอมินี ทั้งชุดนายกฯ หอกหัก นายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลปัจจุบัน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ กระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่มาแสดงพลัง เพื่อต่อต้านรัฐบาลทรราช ทั้งที่ จ.อุดรธานี ที่ปล่อยให้พวกอันธพาลเข้าไปรุมตีทำร้ายร่างกายกลุ่มพันธมิตรฯ

เหตุการณ์ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก เมื่อคืนวันที่ 2 กันยายน 2551 ที่ปล่อยให้กลุ่มนปช. เข้าไปรังควานกลุ่มพันธมิตรฯถึงบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ และต้องสังเวยชีวิต แม้จะเป็นกลุ่มนปช.เองก็ตาม แต่นั่น ก็คือประชาชนคนไทยคนหนึ่งมิใช่หรือ แต่พวกคุณก็ไม่ได้ออกมาแสดงความผิดชอบต่อเหตุการณ์ใด ยังคงหน้าด้านเสวยสุขอยู่ในอำนาจต่อไปอย่างไม่ใยดี

หลังเกิดเหตุการณ์ตำรวจทำร้ายประชาชน ครั้งนี้ ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. ออกมาแถลงแบบโกหกหน้าตาย ในแนวขอความร่วมมือ หลังการแถลงเสร็จ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวตอนหนึ่งว่า "การใช้แก๊สน้ำตากับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นเป็นเครื่องมือควบคุมฝูงชนตามหลักสากลที่ใช้กันทั่วโลกในสลายการชุมนุม และปฏิเสธไม่ใช้กระสุนยาง หรือระเบิดแบบเศษแก้วแต่อย่างใด ส่วนผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บนั้นอาจจะเกิดจากการวิ่งแล้วเลื่อนหกล้ม เนื่องจากผู้ชุมมีการเทน้ำมันราดบนพื้นถนนและนำลวดหนามมาวางกั้นไว้จนทำให้ได้รับอันตราย"

อยากถามกลับไปว่า "แก๊สน้ำตา"ตามหลักสากลที่ใช้นั้น ถึงกับทำให้ขาขาดสะบั่นเชียวหรือ ภาพที่ตำรวจยิงอาวุธหนักเข้าใส่ฝูงชนนั้นเล่า จะตอบว่าอย่างไร

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2551 ตำรวจก็ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชนมาแล้วครั้งหนึ่ง ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนนครบาลเอง แต่ครั้งนั้นกลับปฏิเสธว่า ไม่ได้ยิง ทั้งที่มีภาพหลักฐานชัดเจน สุดท้ายเหตุการณ์ล่าสุด กลับบอกว่า แค่ยิงแก๊สน้ำตา ไม่ใช่อาวุธหนัก แล้วทำไมขาจึงขาด อย่างนี้จะไม่ให้เรียกว่า"สารเลว"แล้วจะเรียกว่าอะไร!?!

เมื่อซาตานในมาดผู้ดี กับตำรวจสารเลว มาสมคบคิดกันแล้ว เหตุการณ์การนองเลือดจึงไม่มีวันหลีกเลี่ยงพ้น ในอดีตที่ผ่านมา ตัวนายกรัฐมนตรีอย่างนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ย่อมมีประวัติที่สวยหรู น่ายกย่อง เริ่มจากผู้พิพากษา ปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายกรัฐมนตรี แต่ต่อจากนี้ไปในอนาคต เมื่อเอ่ยถึง"สมชาย วงศ์สวัสดิ์"ขึ้นมา ก็จะมีแต่เพียงนายกรัฐมนตรีซาตาน นายกรัฐมนตรีมือเปื้อนเลือด นายกรัฐมนตรีเลือดเย็น นายกรัฐมนตรีจอมโหด ฯลฯ ส่วนตำรวจนั้น ไม่ต้องพูดถึง เพราะรู้กันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่าเป็น"จอมสารเลว"ตัวจริง!!!
กำลังโหลดความคิดเห็น