xs
xsm
sm
md
lg

“ไข่แม้ว” เพี้ยนจัด อ้าง ส.ส.ย้ายเข้า “เพื่อไทย” - เป็นไปตามคำสอน “พุทธองค์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อดีตแกนนำ นปก.เพี้ยนหนัก อ้างเฉย ส.ส.“พลังแม้ว” เตรียมย้ายไปสังกัด “เพื่อไทย” เป็นเรื่องดี ไม่ประมาทตามคำสอนของพระพุทธเจ้า - ป้ายสีพันธมิตรฯ หลอกใช้ นร.โยธินบูรณะ ให้คัดค้านรัฐสภาใหม่ เพระกล้ว รบ.มีผลงาน อ้างงบกว่า 2 หมื่นล้านไม่สูง เพราะต้องวสร้างให้ตระการตาเท่าพระบรมมหาราชวัง

วันนี้ (18 ส.ค.) รายการเพื่อนพ้องน้องพี่ พีทีวีภาคพิเศษ ออกอากาศทางโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5 ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี

เนื้อหาช่วงแรกในรายการ ผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 ได้กล่าวถึงภารกิจของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปตรวจพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า การเดินทางไปครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะสามารถสร้างขวัญและกำลังใจให้ทหารชายแดนได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากนายกรัฐมนตรีจะไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแล้ว ยังรับปากจะพิจารณาเพิ่มเงินเบี้ยเลี้ยงให้กับทหารที่ดูแลรักษาอธิปไตยตามชายแดนของชาติอีกด้วย จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า นายสมัคร คือ ผู้บริหารประเทศ ที่เอาใจใส่ประชาชนอย่างแท้จริง

ในช่วงต่อมา ก็เช่นเคยหลังมีการกล่าวชมเชยการทำงานของรัฐบาลแล้ว ก็จะต้องโจมตีองค์กรอิสระต่างๆ และกลุ่มที่มีความเห็นต่างจากรัฐบาลตามมา โดยในวันนี้เนื้อหาหลักเป็นการกล่าวโจมตี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ให้ออกมาชี้แจงเรื่องการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกิน และให้เร่งดำเนินคดีกับ นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในกรณีทุจริตการเลือกตั้งโดยด่วน เนื่องจากพวกตนเชื่อว่า การทำคดีของ นายวิฑูรย์ เชื่องช้ามาก เมื่อเทียบกับการดำเนินคดีของผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ เรียกได้ว่า คดีความของพรรคอื่นๆ จะถูกตัดสินให้ยุบพรรคอยู่แล้ว แต่คดีของ นายวิฑูรย์ กลับยังไม่มีการให้ใบแดงด้วยซ้ำ ทั้งที่เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน

อย่างไรก็ตาม ผู้ดำเนินรายการไม่ได้พูดถึงข้อมูลที่ว่า กรณีที่อุบลราชธานีนั้น กกต.กลางเคยมีมติยกคำร้องไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนได้ยื่นคำร้องใหม่ โดยอ้างว่ามีหลักฐานเพิ่ม ดังนั้น กกต.จึงได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้ใหม่ และจะสรุปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ผู้ดำเนินรายการกล่าวต่อว่า ใจหนึ่งพวกตนก็อยากให้ กกต.มีคำตัดสินออกมาว่า นายวิฑูรย์ ไม่ผิด และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องถูกยุบพรรคอยู่เหมือนกัน เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็จะได้รู้ไปเลยว่า ถึงแม้พรรคอื่นๆ ทั้ง พลังประชาชน มัชฌิมาธิปไตย และ ชาติไทย จะถูกยุบพรรคไป แต่การเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคประชาธิปัตย์ ก็จะไม่สามารถชนะการเลือกตั้งจนได้เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้อยู่ดี เพราะอย่างไรเสียประชาชนก็ยังคงยึดติด และเลือกคนของพรรคไทยรักไทยเดิม อยู่วันยังค่ำ

ผู้ดำเนินรายการยังกล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคพลังประชาชน เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย หากพรรคพลังประชาชนถูกยุบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ ส.ส.จะเตรียมย้ายพรรค เพราะในเมื่อเดาได้อยู่แล้วว่า อย่างไรเสียพรรคพลังประชาชนก็จะต้องถูกยุบแน่นอนตามธงที่ตั้งไว้ จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่จะตัดสินใจทำเช่นนี้ เพราะบรรดา ส.ส.คงไม่นั่งรอให้คนเอามีดมาเชือดคอ โดยไม่คิดจะเอามือปัดป้องหรอก การกระทำเช่นนี้ จึงเป็นการเตรียมตัวให้พร้อม และใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นเอง

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกรณีที่นักเรียนโยธินบูรณะ รวมตัวกันประท้วงไม่ให้มีการย้ายโรงเรียนโยธินบูรณะ เพื่อนำไปสร้างอาคารรัฐสภาว่า ขณะนี้กำลังจะกลายเป็นเหตุการณ์บานปลาย เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯ พยายามเอามือเข้ามาสอดแทรก และพูดจาปลุกระดมให้กลุ่มนักเรียน ร.ร.โยธินบูรณะ ออกมาต่อต้านการทำงานของรัฐบาล จึงน่าเป็นห่วงที่เด็กนักเรียน ร.ร.โยธินบูรณะ ซึ่งเปรียบเสมือนผ้าขาวที่บริสุทธิ์ จะต้องกลายมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรฯ

ดังนั้น พวกตนจึงอยากจะเตือนเด็กนักเรียน ร.ร.โยธินบูรณะ เอาไว้ด้วยว่า อย่าได้หลงเชื่อไปตามคำพูดที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปลุกระดม เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ กำลังจะหลอกใช้เด็กนักเรียน ร.ร.โยธินบูรณะ หาผลประโยชน์ทางการเมืองให้กลุ่มตัวเองเท่านั้น และหากตรึกตรองด้วยเหตุและผลแล้ว จะรู้เลยว่า การย้าย ร.ร.โยธินบูรณะ ไปที่ใหม่ ซึ่งไกลจากเดิมเพียง 1.7 กม.แล้วได้อาคารใหม่ รวมไปถึงได้พื้นที่ที่กว้างขวางขึ้น มันดีกว่าเดิมแค่ไหน นอกจากนี้ ยังเป็นการเสียสละเล็กๆ น้อยๆ เพื่อสร้างอาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นสมบัติของคนทั้งประเทศอีกด้วย เมื่อมีแต่ประโยชน์เช่นนี้แล้ว เหตุจึงจะต้องมาประท้วงหรือคัดค้านกัน ตามคำปลุกระดมของพันธมิตรฯ อีก

อย่างไรก็ตาม ผู้ดำเนินรายการไม่ยอมพูดถึงข้อเท็จจริงที่ว่า กรณีที่พันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องโรงเรียนโยธินบูรณะนั้น มีขึ้นหลังจากที่นักเรียนโรงเรียนโยธินบูรณะได้ไปยื่นคัดค้านการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่สำเร็จ และมีนักเรียนจำนวนได้เดินทางมาพบกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ หลังจากนั้น พล.ต.จำลองจึงได้หารือกับแกนนำเพื่อเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ โดยมีกำหนดจะไปให้กำลังใจนักเรียนที่โรงเรียนโยธินบูรณะ ในวันที่ 22 ส.ค.นี้

ผู้ดำเนินรายการกล่าวต่อว่า เรื่องงบประมาณที่ใช้สร้างอาคารรัฐสภา ที่ถูกกล่าวหาว่าสูงเกินไปนั้น ไม่เป็นความจริงเลย การก่อสร้างให้ยิ่งใหญ่ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ ก็ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมแล้ว ทั้งนี้ เพราะเป้าหมายของการสร้างรัฐสภา ก็เพื่อให้เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ ซึ่งจะต้องยิ่งใหญ่ ตระการตา เมื่อมองจากริมแม่น้ำเจ้าพระยามายังรัฐสภาแห่งใหม่แล้ว จะต้องได้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับการมองพระบรมมหาราชวัง

ดังนั้น การที่ฝ่ายพันธมิตรฯ ออกมาทักท้วงว่าใช้งบประมาณมากเกินไป หรือกล่าวหาว่า สาเหตุที่รัฐบาลต้องเร่งการก่อสร้างอาคารรัฐสภา ก็เพราะต้องการหัวคิวค่าก่อสร้างนั้น จึงเป็นการกระทำที่ไร้สาระมาก และมีจุดประสงค์เพื่อต้องการใส่ร้ายป้ายสี และขัดขวางการสร้างผลงานของรัฐบาลเท่านั้น

อนึ่ง งบประมาณในการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ เบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 19,000 ล้านบาท และค่าชดเชยการโย้ยหน่วยงานเดิมและชุมชนออกนอกพื้นที่ประมาณ 4,500 ล้านบาท
นายวีระ มุสิกพงษ์
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
นายก่อแก้ว พิกุลทอง
กำลังโหลดความคิดเห็น