อดีตแกนนำ นปก. เศร้าจนเพ้อ แจงผ่านจอ เหตุ “แม้ว” ต้องลี้ภัยไปอังกฤษ เพราะ กระบวนการศาลไม่ยุติธรรม แถมยังถูกอำนาจเผด็จการ และพันธมิตรฯ จ้องทำลาย แต่เชื่อ อีกไม่นาน “คนรักแม้ว” จะลุกขึ้นมาทวงคืนความยุติธรรมให้กลับมา - อ้างเฉย เผ่นหนีครั้งนี้ ถือเป็นการเสียสละ เพื่อให้ประเทศสงบสุข
วันนี้ (11 ส.ค.) รายการเพื่อนพ้องน้องพี่ พีทีวีภาคพิเศษ ออกอากาศทางโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5 ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี
ในช่วงต้นของรายการ ผู้ดำเนินรายการ ได้นำแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่เดินทางเข้ารายงานตัวต่อศาลฎีกาในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ในวันนี้ มาอ่านในรายการ กระทั่งอ่านจบ ผู้ดำเนินรายการจึงได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า พวกตนรู้สึกเห็นใจ และเข้าใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพราะเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเผชิญในประเทศไทยนั้น ช่างโหดร้ายเหลือเกิน ไหนจะถูกลอบสังหาร ไหนจะถูกรัฐประหาร มิหนำซ้ำหลังสิ้นสุดยุครัฐประหารแล้ว อำนาจรัฐประหารก็ยังถูกสืบทอดต่อไป จนทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับความยุติธรรมในวันนี้
ทั้งนี้พวกตนเชื่อว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เลือกในวันนี้ ถือว่าเป็นการเลือกให้ตัวเองเจ็บ ยอมที่จะถูกต่อว่าจากกลุ่มคนที่จ้องทำลาย และยอมถูกซ้ำเติมจากพรรคประชาธิปัตย์ที่คอยแต่จะเหยียบย่ำ นั่นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ คงคิดแล้วว่า สถานการบ้านเมืองในตอนนี้มีปัญหาอยู่มาก ทั้งอำนาจของรัฐประหารที่จ้องทำลาย การแก่งแย่งอำนาจทางการเมือง รวมไปถึงกลุ่มพันธมิตรฯ ที่นับวันก็จะเอาแต่สร้างปัญหาให้บ้านเมืองเพิ่มขึ้นอยู่ทุกวัน ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จึงคิดว่าหากตัวเองและครอบครัวออกไปจากประเทศไทยเสีย บ้านเมืองจะได้สงบสุข พวกตนจึงมองว่า การตัดสินใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในครั้งนี้เป็นการเสียสละทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า กำลังดำเนินการยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุด เพื่อนำทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ถูก คตส. อาญัติกว่า 6 หมื่นล้านบาท มาเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินในคดีร่ำรวยผิดปกติว่า ถือเป็นความไม่ชอบธรรมเป็นอย่างยิ่ง เพราะ ป.ป.ช. ยังพิสูจน์ไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่า เงินจำนวนดังกล่าวได้มาจากการทุจริต เพียงแค่สันนิษฐานเท่านั้นว่าได้มาอย่างไม่สุจริต ก็ไปยึดเอาเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณมาแล้ว จึงเป็นอีกเรื่องที่พวกตนรู้สึกเห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่สุด
ทั้งนี้พวกตนมองว่า หากเรื่องคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงไม่ต้องหนีไปอย่างนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันนี้คือไม่มีความยุติธรรมเอาเสียเลย ต้องยอมรับว่าหากใครเจอแบบที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เจออย่าว่าแต่ยืนเลย แค่ดำรงชีวิตอยู่ได้ในสภาพจิตใจที่เป็นปกติก็ยากมากแล้ว
ผู้ดำเนินรายการกล่าวด้วยว่า พวกตนมองว่า จากนี้ประเทศไทยคงจะผลสรุปได้อยู่ 2 ประการคือ บ้านเมืองอาจจะสงบสุขไปเลย เพราะกลุ่มที่จ้องทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ สมใจแล้ว ที่กำจัดเสี้ยนหนามทางการเมืองไปได้ หรือไม่ประเทศชาติก็อาจจะวุ่นวายมากกว่านี้ เพราะบางทีกลุ่มคนที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณ และคนที่รักในความยุติธรรม ซึ่งเป็นพลังเงียบอยู่ในขณะนี้ อาจจะทนไม่ไหวที่เห็นความอยุติธรรมเกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ จนลุกขึ้นมาต่อสู้กับอำนาจเผด็จการทั้งหลายก็เป็นได้
ทั้งนี้ตลอดช่วงเวลาที่ดำเนินรายการนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้ดำเนินรายการทั้ง 4 มีสีหน้าเศร้าหมอง และเนื้อหาส่วนใหญ่ที่พูดก็ออกไปทางที่ตัดพ้อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับความยุติธรรม รวมไปถึงกล่าวโทษกลุ่ม หรือองค์กรต่าง ๆ ทั้งกระบวนการยุติธรรม คณะรัฐประหาร และกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหนีออกนอกประเทศ โดยไม่ได้กล่าวถึงความผิดในคดีต่าง ๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยกระทำไว้ รวมถึงไม่กล่าวเลยว่า หากไม่มีมูลความผิด หรือหลักฐานที่ปรากฎชัดแล้ว กระบวนการทางศาลจะเอาผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อย่างไร