“ไข่แม้ว” อ้างคดี “หวยบนดิน” จงใจกลั่นแกล้ง “แม้ว”

อดีตแกนนำ นปก.จัดรายการแก้ต่างให้ “พลังแม้ว” ผ่าน PTV เหมือนเคย อ้าง “หวยบนดิน” เป็นเรื่องที่ดี มีแต่สร้างประโยชน์ให้ชาติ แต่ที่ต้องถูกดำเนินคดี เพราะอคติของ คตส. – อ้างเฉย หากไทยจะเสียดินแดน ต้องโทษรัฐบาลประชาธิปัตย์ในอดีต ที่เคยไปลงนามให้เขมรใช้แผนที่ฝรั่งเศส ในการปักปันเขตแดน และพันธมิตรฯ ที่ปลุกระดม ให้คนคลั่งชาติ จนรัฐบาลแก้ปัญหาลำบาก

วานนี้ (28 ก.ค.) รายการเพื่อนพ้องน้องพี่ พีทีวีภาคพิเศษ ออกอากาศทางโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5 ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี

เนื้อหาหลักในรายการ ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึงกรณี ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับฟ้องคดีสลากพิเศษ 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน ซึ่งอาจส่งผลให้รัฐมนตรี 3 คน ในรัฐบาลปัจจุบันต้องยุติหน้าที่ ว่าพวกตนคิดว่าปัญหาของคดีที่เกิดขึ้น ก็เนื่องมาจากอคติของ คณะกรรมการตรวจสอบการกระที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่มีต่ออดีตรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงทำให้หาเรื่องกลั่นแกล้งได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องหวยบนดิน ที่เป็นนโยบายที่ดีงามของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จัดทำขึ้น เนื่องจากเห็นว่าอย่างไรเสียคนไทยก็เลิกเล่นหวยใต้ดินไม่ได้ จึงนำเรื่องดังกล่าวมาอยู่ในความควบคุมของรัฐบาล เพื่อให้รายได้เข้าสู่รัฐ เพราะหากไม่ทำเช่นนี้รายได้จากหวยใต้ดินก็ไปอยู่ที่เจ้ามือหวยใต้ดินเหมือนเดิม

ดังนั้น เรื่องดังกล่าวจึงไม่มีผลเสียต่อใครเลย นอกจากเจ้ามือหวยใต้ดินที่สูญเสียรายได้ไป แต่ภาพรวมของสังคมถือว่าได้ประโยชน์เป็นอย่างยิ่งซึ่งทุกคนก็อนุโมทนากันหมด เนื่องจากรายได้จากการจำหน่ายหวยบนดิน ได้ถูกนำไปช่วยเหลือทางด้านการศึกษาของเยาวชน และช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ โดยที่รัฐบาลหรือนักการเมืองไม่เคยมีส่วนได้รับเงินเหล่านั้นเลย เป็นเรื่องที่ทำเพื่อประชาชนล้วนๆ

ผู้ดำเนินรายการกล่าวต่อไปว่า พวกตนอยากจะเรียกร้องไปยัง ผู้พิพากษา อัยการ และตำรวจ ที่ทำหน้าที่ในปัจจุบันว่า ควรสำเหนียกเอาไว้ด้วยว่า ปัจจุบันบ้านเมืองเราอยู่ในยุคสมัยของประชาธิปไตยแล้ว ไม่ใช่ยุคเผด็จการทหารเหมือนอย่าง 19 ก.ย.ดังนั้น การทำหน้าที่หรือตัดสินอะไรก็ควรตัดสินอย่างเป็นประชาธิปไตย อย่าตัดสินตามอำนาจหรือคำสั่งของยุคเผด็จการที่เคยวางรากฐานไว้

ทั้งนี้ การแก้ตัวข้างเดียวให้กับรัฐบาลของอดีตแกนนำ นปก.ทั้ง 4 คน ไมได้พูดถึงประเด็นข้อกฎหมายในการออกหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว ซึ่งทำผิด พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะไม่ได้มีการกำหนดสัดส่วนระหว่างเงินที่ต้องจ่ายเป้นรางวัลกับเงินที่ต้องส่งเข้ารัฐ นอกจากนี้ รายได้จากการขายหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว ยังไม่มีการนำเข้าสู่ระบบงบประมาณทำให้ไม่สามารถตรวจสอบการใช้จ่ายได้ และกลายเป้นเงินที่พรรคไทยรักไทยนำไปใช้หาคะแนนเสียงให้กับพรรคตัวเอง นอกจากนี้ยังมีประเด้นเรื่องศีลธรรม ที่ทำให้ประชาชนถูกมอมเมาด้วยการพนันมากขึ้น

ส่วนกรณีที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวว่าจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ผู้ดำเนินรายการอ้างว่า เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในด้านกฎหมายจึงต้องการยื่นให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความก่อนนั้น พวกตนก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะเมื่อข้อกฎหมายยังไม่ชัดเจนว่าเมื่อศาลรับฟ้องแล้ว แต่ตัว นพ.สุรพงษ์ พ้นจากตำแหน่งขณะที่ถูกกล่าวหาแล้ว ดังนั้นตำแหน่ง รมว.คลังซึ่งตนดำรงตำแหน่งอยู่ตอนนี้ก็ไม่เกี่ยวกัน จึงไม่น่าจะต้องยุติการทำหน้าที่ไปด้วย ดังนั้น จึงต้องมีการหาคำตอบที่แน่ชัดเสียก่อนเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ คตส.ได้ระบุในคำฟ้องไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นการฟ้องที่ตัวบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติหวยบนดินในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับว่าในปัจจุบันคนๆ นั้นจะอยู่ในตำแหน่งอะไร

นอกจากนี้ ผู้ดำเนินรายการยังได้กล่าวถึง การแต่งตั้งนายเตช บุนนาค เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศคนใหม่เพื่อไปเจรจาเรื่องเขาพระวิหารด้วยว่า ถือว่าเป็นการเลือกคนได้อย่างดีเยี่ยมของนายกรัฐมนตรี เพราะ นายเตช เป็นผู้มีความรู้ความสามารถมาก ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่ดีต่อการแก้ปัญหา

แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 คนได้โยนผิดให้พันธมิตรฯ ล่วงหน้าว่า จะทำให้เสียเรื่อง หรือทำให้กระบวนการแก้ปัญหา ไทย-กัมพูชา เป็นไปยากเย็นยิ่งขึ้น เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ จะกระทำการพูดจายั่วยุปลุกระดมให้คนคลั่งชาติมุ่งแต่ใช้ความความรุนแรงตัดสินปัญหา และมีการใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลอยู่ตลอดเวลา

อย่างกรณี นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ก็ถูกฝ่ายพันธมิตรฯ โจมตีว่า เป็นพวกขายชาติ ทำให้ไทยเสียดินแดน ทั้งที่จริงแล้ว นายนพดล เป็นผู้รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติต่างหาก และหากพันธมิตรฯ จะโทษใครสักคนว่าทำให้เสียดินแดน ก็น่าจะโทษ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีต รมช.ต่างประเทศ สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า ที่ในอดีตเคยไปลงนามกับกัมพูชาเอาไว้ ว่า ทางไทยยินยอมให้ใช้แผนที่ของฝรั่งเศสในการปักปันเขตแดน

นอกจากนี้ อดีตแกนนำ นปก.ทั้ง 4 คน ยังพูดเองเออเอง ว่า การกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ในตอนนี้นอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจ และสังคมแล้ว ยังอาจสร้างความเสียหายถึงขนาดทำให้เสียดินแดนด้วย ตราบใดที่พันธมิตรฯ ยังไม่เลิกยั่วยุให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดอย่างนี้