อดีตแกนนำ นปก. เหิมหนัก ด่า กกต. – ป.ป.ช. เป็นพวกหน้าด้าน ชี้ ตราบใดที่ไม่ยอมลาออก ก็จะด่าผ่านจอทุกวัน – สุดบิดเบือน อ้าง เหตุปะทะกันที่ จ.อุดรฯ เป็นเพราะประชาชน ทนไม่ไหวที่ พันธมิตรฯ ไปด่ารัฐบาลอันเป็นที่รักของชาวอุดรฯ เลยต้องออกมาขับไล่ บังอาจ สั่งศาลปกครอง ถ้าไม่อยากเห็นบ้านเมืองลุกเป็นไฟ ต้องยุติการคุ้มครอง ASTV
วันนี้ (25 ก.ค.) รายการเพื่อนพ้องน้องพี่ พีทีวีภาคพิเศษ ออกอากาศทางโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5 ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี
เนื้อหาในรายการช่วงแรก ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวเรียกร้องให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ออกมาดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ต่อกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ไปกล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ เมื่อคืนวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ทางตำรวจได้ยื่นเงื่อนไขว่า ถ้ายอมยุติการชุมนุมแล้วจะอนุญาตให้นายสนธิได้ประกันตัวว่า หากตำรวจไม่ได้มีการยื่นข้อเสนอต่อรองยุติการชุมนุมจริง อย่างที่นายสนธิพูด ก็ต้องเร่งดำเนินการเอาผิดกับนายสนธิโดยเร็ว เนื่องจากสิ่งที่นายสนธิพูดได้ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ
นอกจากนี้ยังกล่าวซ้ำถึงเรื่อง ป.ป.ช. และ กกต.เช่นเดียวกับวันก่อนๆ ว่ามีที่มาอย่างไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ จึงต้องยุติบทบาทการทำหน้าที่ในทันที
ผู้ดำเนินรายการได้ตีสำนวนว่า โดยส่วนตัวพวกตนมองว่า ป.ป.ช. และ กกต. ก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่กันแล้ว น่าจะมีสำนึกและรู้จักอายบ้าง หรือถ้าหากไม่อายตัวเองก็น่าจะอายแทนลูกหลานของตนที่กำลังศึกษาอยู่บ้าง เพราะการศึกษาเขาก็สอนอยู่ตลอดว่า เผด็จการคือสิ่งที่น่ารังเกียจต้องต่อต้าน แล้วบรรดา ป.ป.ช. และ กกต.เองก็มาจากอำนาจเผด็จการยังไม่รู้จักอายอีกก็ถือว่าหน้าด้านเกินไปแล้ว “ตราบใดที่พวกท่านยังไม่ออก พวกผมก็จะไล่อยู่อย่างนี้ เผื่อว่าความหน้าด้านมันจะบางลงมาบ้าง”
ส่วนกรณีที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.บางคน ออกมากล่าวว่า หากยังสงสัยที่มาของ ป.ป.ช. และ กกต. ก็ให้ไปยื่นเรื่องให้ศาล รธน. ตรวจสอบได้นั้น พวกตนมองว่า คงเป็นไปได้ยากเพราะในตอนนี้ กกต. , ป.ป.ช. , ศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ตรวจการแผ่นดิน ต่างเป็นองค์กรที่พึ่งพิงกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่ เปรียบเหมือนองค์กรที่ผลัดกันเกาหลัง องค์กรไหนคัน ก็ให้อีกองค์กรหนึ่งเกาให้ ดังนั้นการที่คนนอกจะไปร้องเรียนต่อองค์กรใด ใน 4 องค์กรนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะสัมฤทธิ์ผล
ในช่วงท้ายรายการ ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึง กรณีกลุ่มพันธมิตรฯ อุดรธานีถูกกลุ่มชมรมคนรักอุดร ฯ รุมทำร้าย จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากนั้น มีสาเหตุมาจากกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กระทำการตามยุทธวิธีดาวกระจาย เกณฑ์คนไปตามจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะจังหวัดฐานเสียงของพรรคพลังประชาชน ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ รู้ดี ว่าจังหวัดเหล่านั้นมีประชาชนที่ชื่นชอบรัฐบาลอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังบุกไปถึงถิ่น แล้วไปกล่าวโจมตีรัฐบาลซึ่งเป็นที่รักของพวกเขา ทำให้ชาวบ้านทนไม่ไหว จึงรวมตัวกันไปต่อต้าน จนเกิดการปะทะกันในที่สุด
จึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่า แท้จริงแล้ว สิ่งที่พันธมิตรฯ กระทำอยู่ในตอนนี้ ก็คือต้องการยั่วยุให้ประชาชน คนไทยปะทะกันเอง เพื่อกดดันให้ทหารออกมากระทำการรัฐประหาร ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหา หรือป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงอีก พันธมิตรฯ ก็ต้องหยุดยุทธการดาวกระจายเสีย เพราะถ้าพันธมิตรฯ ไม่ไปท้าทาย ปัญหาดังกล่าวก็คงไม่เกิด
นอกจากนี้พวกตนยัง อยากให้ประชาชนร่วมกันตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เหตุใดสถานีโทรทัศน์ASTV จึงได้รับการคุ้มครองจากศาลปกครอง จึงต้องตั้งข้อสังเกตว่าศาลปกครองอยากเห็นบ้านเมืองลุกเป็นไปหรือ หากไม่อยากก็ต้องยกเลิกคำสั่งคุ้มครอง ASTV เสีย เพราะเมื่อทำอย่างนั้นแล้วพันธมิตรฯ จะได้ไม่สามารถแพร่ภาพปลุกระดมประชาชนทั่วประเทศได้อีกต่อไป
ทั้งนี้ เห็นได้ว่า การจัดรายการของพีทีวีวันนี้ ยังคงบิดเบือนอย่างเช่นทุกวันที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้รัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นจากความผิด ที่องค์กรอิสระต่างๆ กำลังตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่จะถูกถอดถอน เพราะทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 กรณ๊เขาพระวิหาร หรือการจะถูกยุบพรรคเพราะนายยงยุทธ ติยะไพรัช ได้รับใบแดง ซึ่งการที่พีทีวีพูดตอกย้ำเรื่องความไม่ชอบธรรมขององค์กรอิสระทุกวัน ก็เพื่อตอกย้ำให้ประชาชนบางส่วนที่ได้รับข้เอมูลไม่ทั่วถึงหลงเชื่อ และจะกลายเป็นมวลที่ออกมาต่อต้านองค์กรอิสระเหล่านั้น หากผลการวินิจฉัยออกมาไม่เป้นประโยชน์ต่อพรรคพลังประชาชน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ส่วนกรณีม็อบทำร้ายพันธมิตรฯ จ.อุดรธานีนั้น เป็นเรื่องที่ผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 รู้อยู่แก่ใจว่า ฝ่ายคนรักอุดรได้กระทำผิด เพราะใช้จงใจใช้อาวุธ เช่น มีด ไม้หน้าสาม ไล่ทำร้ายฝ่ายพันธมิตรฯ ตามที่มีภาพปรากฏอย่างชัดเจน แต่ด้วสยหน้าที่ของพิธีกรทั้งสามที่ต้องการปกปิดความผิดของคนที่สนับสนุนรัฐบาล จึงบิดเบือนอย่างจงใจว่า ความรุนแรงเกิดจากพันธมิตรฯ โดยอ้างว่า เพราะกลุ่มคนรักอุดรทนไม่ได้ที่พันธมิตรฯ ไปด่าทอรัฐบาลถึงที่ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพระถึงแม้จะทนได้หรือไม่ได้อย่างไร ก็ไม่มีสิทธิที่จะทำผิดกฎหมายด้วยการใช้อาวุธไล่รุมทำร้ายคนที่ด่ารัฐบาล ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ มีแต่พวกป่าเถื่อนเท่านั้นที่ทำ
นอกจากนี้ โดยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นยังสวนทางกับที่พิธีกรทั้งสามกล่าวอ้าง เนื่องจากเห็นได้ชัดว่า กลุ่มคนรักอุดรจงใจเคลื่อนขบวนจากทุ่งศรีเมืองมายังเวทีของพันธมิตรที่หนองประจักษ์ศิลปาคม เพื่อทำร้ายพันธมิตรฯ โดยเฉพาะ โดยเริ่มแหกด่านตำรวจเข้าไปไล่ตี แทง พันธมิตร ตั้งแต่เพิ่งจะเริ่มเปิดเวทีได้เพียง 10 นาทีเท่านั้น โดยที่ยังอยู่ระหว่างการแสดงดนตรีเท่านั้น ยังไม่มีการปราศรัยเลย จึงไม่ทราบว่าเหตุใดคนรักอุดรจึงทนไม่ได้
ที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น พิธีกรทั้ง 4 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองที่ต้องให้ความสำคัญกับทุกข์ร้อนของประชาชน แต่ก็ไม่ได้กล่าวแสดงความเสียใจหรือกล่าวคำขอโทษต่อผู้ได้รับบาดเจ็บจากกากระทำของคนที่อยู่ในฝ่ายของตนแม้แต่น้อย
ม็อบลิ่วล้อ “สัตว์นรก” ไล่รุมทำร้ายพันธมิตรอุดรธานี (ชุดที่2)
ดาวน์โหลด โดยใช้ FlashGet (56K) | (256K)
คลิก! ชม ม็อบลิ่วล้อ “สัตว์นรก” ไล่รุมทำร้ายพันธมิตรอุดรธานี (ชุดที่1) (56K) |(256K)
ดาวน์โหลด โดยใช้ FlashGet (56K) | (256K)
คลิก! ชม ม็อบลิ่วล้อ “สัตว์นรก” ไล่รุมทำร้ายพันธมิตรอุดรธานี (ชุดที่3) (56K) |(256K)
ดาวน์โหลด โดยใช้ FlashGet (56K) | (256K)
คลิก! ชม ม็อบลิ่วล้อ “สัตว์นรก” ไล่รุมทำร้ายพันธมิตรอุดรธานี (ชุดที่4) (56K) |(256K)
ดาวน์โหลด โดยใช้ FlashGet (56K) | (256K)
**พลิกปูมถ่อย! “ขวัญชัย ไพรพนา” เกณฑ์คนไล่ฆ่าพันธมิตรฯ อุดร**