อดีตแกนนำ “ม็อบไข่แม้ว” มั่วนิ่ม อ้าง “สนธิ” เอาคำพูดของ “ดา ตอปิโด” ไปพูดต่อ แล้วมีคนฟังเยอะกว่า ดังนั้น จึงถือเป็นความผิดที่มากกว่า จี้ ตร.ดำเนินการในบรรทัดฐานเดียวกัน คือ ห้ามให้ประกันตัว-ขู่ฟ้อง “แนวหน้า” ฐานตีข่าวบิดเบือนกล่าวหา PTV เป็นพวกเดียวกับ “ดา ตอร์ปิโด” ปัดสวะไม่เคยรู้จัก หรือร่วมปราศรัยบนเวทีเดียวกันแม้แต่ครั้งเดียว
วันนี้ (20 ก.ค.) รายการเพื่อนพ้องน้องพี่ พีทีวีภาคพิเศษ ออกอากาศทางโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5 ดำเนินรายการโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน และนายก่อแก้ว พิกุลทอง หนึ่งในผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี
ผู้ดำเนินรายการทั้งสี่ ได้กล่าวถึงกรณี น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ “ดา ตอร์ปิโด” สมาชิกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว และคัดค้านการประกันตัวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการได้อย่างถูกต้องแล้ว เพราะเมื่อมีการกระทำผิดก็ต้องนำตัวมาดำเนินคดี และทางรัฐบาลเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยกับเรื่องดังกล่าว เห็นได้จากปฏิกิริยาของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่เมื่อได้รับรายงานเรื่อง น.ส.ดารณี ว่ากระทำความผิด ก็รีบแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างเด็ดขาดในทันที
นอกจากนี้ พวกตนยังอยากจะชี้แจงข้อมูล ที่มีสื่อบางฉบับให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน หรือกล่าวหาว่า น.ส.ดารณี คือ กลุ่มเดียวกับพวกตนนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะพวกตนเพียงแต่เคยพบกับ นส.ดารณี เมื่อครั้งไปเคลื่อนไหวในนาม พีทีวี ที่เวทีท้องสนามหลวง เท่านั้น และครั้งนั้นก็ขึ้นปราศรัยกันคนละเวที ไม่เคยมีการร่วมงานกับ น.ส.ดารณี เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ทั้งนี้ หากใครหรือกลุ่มใดมีหลักฐานว่า น.ส.ดารณี มีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ก็ควรนำหลักฐานนั้นไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดเลย อย่ามัวแต่พูด เพราะพวกตนก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
ด้าน นายวีระ กล่าวเสริมว่า แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีสื่ออย่างหนังสือพิมพ์ แนวหน้า ไปตีข่าวว่า น.ส.ดารณี เคยขึ้นเวทีของ พีทีวี ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง อันจะส่งผลกระทบต่อตนและพรรคพวกใน พีทีวี เป็นอย่างมาก ตนจึงตัดสินใจว่า จะทำการแจ้งความให้มีการดำเนินคดี กับหนังสือพิมพ์แนวหน้า อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ถึงแม้ว่า อดีตแกนนำ นปก.ทุกคนจะปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับ ดา ตอร์ปิโด แต่จากข่าวที่ปรากฏนั้น ดา ตอร์ปิโด ได้ร่วมเคลื่อนไหว กับ นปก.มาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2550 โดยเฉพาะ การชุมนุมคัดค้านคำตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญที่ให้ยุบพรรคไทยรักไทย เมื่อวันที่ 31 พ.ค.50 ซึ่งเมื่อจบจากการประท้วงที่แยกวังแดง กลุ่มของดา ตอร์ปิโด ได้แยกย้ายไปก่อกวนเอเอสทีวีที่ถนนพระอาทิตย์ หลังจากนั้น เมื่อพีทีวีเปลี่ยนชื่อมาเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ดา ตอร์ปิโด ก็ยังคงร่วมเคลื่อนไหวกับ นปก.แม้จะไมได้ขึ้นเวทีใหญ่ แต่ก็ได้เปิดเวทีย่อยอยู่ข้างๆ และร่วมกิจกรรมกับ นปก.มาโดยตลอด โดยประเด็นที่ปราศรัยก็เป็นประเด็นเดียวกัน กับ นปก.นั่นคือ โจมตี คมช. ด่าทอ พล.เปรม ติณสูลานนท์ และสรรเสริญยกย่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โจมตีสื่อมวลชนที่ไม่เข้าข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กรณีที่ ดา ตอร์ปิโด ถูกแม่ค้าปาหน้าด้วยอุจจาระ ก็เกิดขึ้นขณะเปิดปราศรัยย่อยร่วมกับ นปก.ที่ท้องสนามหลวงนั่นเอง
นอกจากนี้ ดา ตอร์ปิโด ยังได้ทำงานในพีทีวี ต่อมา เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช มีการปรับเปลี่ยนช่อง 11 เป็นเอ็นบีที ดา ตอร์ปิโด ก็เข้าไปทำงานด้านประสานงานด้วย และเมื่อพันธมิตรฯ กลับมาชุมนุมอีกครั้ง กลุ่มอดีต นปก.ได้เปิดเวทีต่อต้านพันธมิตรฯ ที่ท้องสนามหลวง โดยมี ดา ตอร์ปิโด เป็นผู้ปราศรัยหลัก สลับกับอดีตแกนนำ นปก.จนกระทั่งถูกจับกุมในที่สุด นอกจากนี้ ยังพบว่า เว็บไซต์ของ ดา ตอร์ปิโด มีลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของกลุ่มผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกือบทุกเว็บ
ส่วนกรณีที่วันนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันนี้ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ กรณีที่นำคำพูดของ น.ส.ดารณี ไปเผยแพร่บนเวทีพันธมิตรฯ นั้น ผู้ดำเนินรายการของพีทีวี กล่าวว่า ก็ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะเมื่อนายสนธิ รู้ว่า น.ส.ดารณี กระทำผิด ก็ต้องไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ ไม่ใช่นำไปพูดต่อบนเวทีพันธมิตรฯ ดังนั้น พวกตนจึงอยากให้ประชาชนช่วยกันจับตามองด้วยว่า ตำรวจจะดำเนินคดีในบรรทัดฐานเดียวกับ น.ส.ดารณี หรือไม่ เพราะเป็นความผิดแบบเดียวกัน
แต่อย่างไรก็ตาม พวกตนมองว่า ถึงจะเป็นความผิดแบบเดียวกัน แต่การกระทำของนายสนธิ น่าจะถูกดำเนินการในข้อหาที่หนักกว่า น.ส.ดารณี ด้วยซ้ำ เพราะเมื่อครั้งที่ น.ส.ดารณี กล่าวพาดพิงสถาบันนั้น กล่าวที่สนามหลวง ซึ่งมีคนฟังแค่ 100-200 คนเท่านั้น แต่พอ นายสนธิ เอามาพูดต่อที่เวทีพันธมิตรฯ มีคนฟังนับพันคน ซ้ำยังถ่ายทอดสดผ่าน เอเอสทีวี ด้วย จึงน่าจะถือเป็นการกระทำความผิดในขั้นที่รุนแรงกว่า
ผู้ดำเนินรายการกล่าวด้วยว่า พวกตนทราบข่าวมาว่า ในวันพรุ่งนี้ นายสนธิ จะเดินทางไปมอบตัวที่สถานีตำรวจนครบาล เวลา 09.00 น.ซึ่งก็คาดการณ์ได้เลยว่า พันธมิตรฯ จะเกณฑ์คนไปที่หน้าสถานีตำรวจนครบาลกว่าพันคน เพื่อไปให้กำลังใจ นายสนธิ และถือเป็นการกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ดังนั้น พวกตนจึงอยากจะกล่าวด้วยความเคารพ พวกตนเคารพในดุลพินิจของศาล แต่ก็จะรอดูว่าศาลจะดำเนินการกับ นายสนธิ โดยใช้บรรทัดฐานเดียวกับคดีของ น.ส.ดารณี คือ ไม่อนุญาตให้ประกันตัว หรือไม่
ทั้งนี้ อดีตแกนนำ นปก.ทั้ง 4 คน เรียกร้องให้ตำรวจดำเนินคดีกับ นายสนธิ ในมาตรฐานเดียวกันกับ ดา ตอร์ปิโด และให้รับโทษหนักกว่าโดยอ้างว่ามีคนฟังมากกว่านั้น ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าสิ่งที่ นายสนธิ พูดได้แสดงการอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ เพราะในข้อเท็จจริง นายสนธิ เพียงแต่เรียกร้องให้ตำรวจเร่งดำเนินคดีดับ ดา ตอร์ปิโด และพูดสรุปสั้นๆ ว่า ดา ตอร์ปิโด หมิ่นเบื้องสูง ทั้งยังได้บอกกับผู้ชุมนุมว่าไม่สามารถที่จะนำข้อความทั้งหมดมาเผยแพร่ได้ แต่ได้เตรียมการที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ ดา ตอร์ปิโด ในสัปดาห์ถัดไป
นอกจากนี้ การกล่าวอ้างว่า มีคนฟังนายสนธิพูดมากกว่า ดา ตอร์ปิโด นั้น เป็นเรื่องที่วัดได้ยาก เพราะหลังจากที่ ดา ตอร์ปิโด พูดที่สนามหลวง เมื่อวันที่ 18 ก.ค.แล้ว ได้มีการนำคลิปเสียงเผยแพร่ในเว็บไซต์เครือข่ายของ นปก.ด้วย ซึ่งสามารถเปิดเข้าไปฟังได้จากทั่วโลก