“พิภพ” ตอกกลับแถลงการณ์ “ทักษิณ” แสดงออกถึงความก้าวร้าว แถมทำลายกระบวนการยุติธรรมของประเทศ จวกอย่ายกตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะถ้าบริสุทธิ์จริงต้องไม่หนี ระบุชัดวันนี้พิสูจน์แล้ว ทักษิณไม่มีอุดมการณ์ทางการเมือง แต่เป็นเพียงนักธุรกิจการเมืองเท่านั้น
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
เวลาประมาณ 22.05 น.วันที่ 11 ส.ค. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศัยบนเวทีสะพานมัฆวานถึงพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า รู้สึกดีใจที่พระองค์ทรงตรัสเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องป่าไม้ การใช้ควายไถนาแทนรถไถ ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมไทยพูดกันมานาน เพราะถ้าปล่อยไว้ควายในประเทศก็จะไม่เหลืออยู่ ซึ่งทุกสิ่งที่พระองค์ทรงตรัสในวันนี้ ประชาชนทุกคนสามารถขยายความและนำไปปฏิบัติได้อีกมาก โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่กลุ่มเอ็นจีโอได้ฟังแล้วน่าจะชื่นใจเพราะได้ต่อสู้มาโดยตลอด
“พระราชดำรัสวันนี้ โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ทรงดำรัสมาเป็นระยะ เราในฐานะพสกนิกร สามารถนำไปปฏิบัติได้ ผมในฐานะที่สู้เพื่อสิ่งแวดล้อมมานาน ปลื้มในสายพระเนตรของพระองค์ที่ทรงเห็นถึงปัญหาเรื่องนี้ และสมกับที่ท่านเป็นแม่ของแผ่นดิน” นายพิภพกล่าว
นายพิภพ กล่าวถึงออกแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลังจากหนีไปประเทศอังกฤษว่า วันนี้รู้สึกแปลกใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาแถลงอย่างก้าวร้าวและไม่ยินยอมในกระบวนการยุติธรรม โดยกล่าวหาว่ากระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง ซึ่งก็อยากจะถามว่า ถ้ากระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง แล้วทำไม พ.ต.ท.ทักษิณใช้กระบวนการยุติธรรมเดียวกันฟ้อง 5 แกนนำพันธมิตรฯ นอกจากนั้น ยังได้กล่าวหาว่า คมช. แต่งตั้ง คตส. เป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ทำให้กระบวนการยุติธรรมได้รับเสียหาย
“แต่เรื่องนี้ผมกลับมองว่า การแต่งตั้ง คตส. ของ คมช.เป็นเรื่องเดียวที่น่าชื่นชมที่สุด เพราะบุคคลที่เข้ามาเป็นคณะกรรมการ คตส. ล้วนแล้วแต่ได้รับความน่าเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคุณนาม ยิ้มแย้ม คุณสัก กอแสงเรือง ซึ่ง คตส. เปรียบเสมือนอัยการพิเศษ ในประเทศต่างๆ ที่มีบุคคลที่มีอำนาจมากๆ อย่างประธานาธิบดี เขาจะต้องมีอัยการพิเศษ ที่ทำหน้าที่คนรวมรวบหลักฐานพิจารณาคดีคนที่ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นคนที่มีอิทธิพลมากๆ ต้องอาศัยความเป็นอิสระ ตรงไปตรงมา และกล้าหาญทางจริยธรรม ซึ่งคดีความของทักษิณ ข้อมูลต่างๆ คตส.ประมวลหาหลักฐานอย่างยากเย็นมาก เพราะคุณทักษิณทำอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อนมาก ย้ายตรงนี้ไปตรงนั้น ดังนั้น ถ้าไม่ใช้อัยการพิเศษก็ตามไม่ได้
“ผมสงสัยอยู่ในใจว่า ถ้าสังคมไทยไม่มีคนที่มีอำนาจอย่าง คมช. อัยการพิเศษแบบ คตส. จะเกิดได้ไหม ถ้าเกิดไม่ได้ ใครจะรวบรวมหลักฐาน ซึ่งคำกล่าวหาทุกอย่าง เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงที่ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีสมัย 2 ที่ได้มา 19 ล้านเสียง มีพันธมิตรฯ ก่อนหน้านั้นมีรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ของคุณสนธิ และก่อนหน้านั้นอีกมีองค์กรเอกชนก็ตั้งประเด็นตรวจสอบหลายเรื่อง เพราะฉะนั้นความพยายามตรวจสอบคุณทักษิณ มีมาตั้งแต่ตอนคุณทักษิณเป็นนายกฯ ปีที่ 2- ปีที่ 3 ข้อกล่าวหาเหล่านี้ คุณทักษิณได้ยินเต็มหู แต่เราไม่มีอำนาจตามกฏหมาย ไม่สามารถใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อดึงข้อมูลต่างๆ ออกมาได้ มีการยื่น ป.ป.ช.บ้าง มีการยื่นองค์กรอิสระบ้าง แต่ไม่เป็นผล นอกจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ รู้อยู่ว่ากระบวนการตรวจสอบของประชาชนไม่ได้เป็นศัตรูกับ พ.ต.ท.ทักษิณ” นายพิภพกล่าว
นายพิภพ กล่าวต่อว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณแถลงว่า พวกนี้ทำตัวเป็นศัตรูทางการเมือง และกล่าวหาต่างๆ นานาที่ไม่เป็นความจริงนั้น ขอถามหน่อยว่าประชาชน 10-20 ล้านที่กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่มีมูลความจริงอยู่บ้างเลยหรือ และเมื่อเกิด คตส.ขึ้นมารวบรวมหลักฐานอย่างเป็นระบบ แล้วนำไปสู่ตุลาการในที่สุด ถามหน่อยว่าคดีคุณหญิงอ้อเลี่ยงภาษีนี่ มีคนแกล้งคุณทักษิณ แกล้งคุณหญิงอ้อหรือ เรื่องการเลี่ยงภาษีนี่ มันเป็นไปไม่ได้ หลักฐานการเลี่ยงภาษีมันต้องเป็นหลักฐานที่ปรากฏมาแล้ว มันไม่ใช่เป็นการสร้างหลักฐานใหม่ พ.ต.ท.ทักษิณจะพูดได้อย่างไรว่าตัวเองบริสุทธิ์ ถ้าตัวเองบริสุทธิ์ทำไมไม่กล้าเผชิญหน้ากับกระบวนการยุติธรรม เพราะตัว พ.ต.ท.ทักษิณเองก็ใช้กระบวนการนี้กล่าวหาคนที่เล่นงานเขาว่าหมิ่นประมาท แกนนำพันธมิตรฯ โดนคนละ 5 คดีโดนพื้นฐาน พวกตนยังไม่มีใครหนีเลย
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ในการสู้คดี พ.ต.ท.ทักษิณก็สามารถใช้ทนายความขอเลื่อนคดีไปได้เรื่อยๆ จนกระทั่งถึงขั้นตอนที่ต้องเอาหลักฐานมาดูกัน และในที่สุดก็ตัดสินตามหลักฐาน ซึ่งเรื่องการเลี่ยงภาษีนั้นไม่สามารถยกเมฆตัวเลขลอยๆ ขึ้นมาได้ คดีเลี่ยงภาษีนี่เองที่ทำให่ พ.ต.ท.ทักษิณกลัวจะโดนคดีที่ 2 คือ คดีที่ดินรัชดาฯ ใครๆ ก็รู้ว่า มีการกดราคาที่ดินให้ถูกลงเพื่อให้คุณหญิงอ้อซื้อได้ จึงขอถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดได้อย่างไรว่าถูกใส่ความ และสะท้อนว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดไม่จริง รู้แก่ใจว่าทำผิดและไปไม่รอด จึงได้หนี ทั้งที่เคยบอกว่าจะต่อสู้เพื่อประชาชน แล้วยังมีหน้าเขียนในแถลงการณ์ว่าจะกลับมาอีก จะกลับมาเพื่ออะไร จะมาล้างแค้น หรือมาปกครองประเทศใหม่ ซึ่งประชาชนไม่ยอมอย่างแน่นอน
เมื่อวิเคราะห์กันต่อไป ก็จะเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณไมได้เป็นวีรบุรุษแล้ว เพราะวีรบุรุษในแต่ละประเทศส่วนใหย่มักจะถูกคดีความ บางประเทศถูกจับติดคุก อย่างเนลสัน แมนเดลลา ติดคุก 20 กว่าปี พอออกมากลายเป็นวีรบุรุษเลย เพราะเขาต่อสู้เพื่อคนผิวดำจริงๆ และไม่มีเรื่องทุจริต แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณที่เคยบอกว่าจะทำให้คนจนหมดไปนั้น วันนี้ก็ยังมีคนจนอยู่ แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณหนีพวกเขาไปทำไม ทำไมไม่สู้
นายพิภพ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ตามข้อกล่าวหาต่างๆ มีมาตั้งแต่ก่อนการปฏิวัติ 19 ก.ย. ซึ่งหลังจากนั้นก็มี คตส.ขึ้นมารวบรวมข้อมูลส่งขึ้นสู่ศาล ซึ่งเป้นองค์กรคณะผู้พิพากษาเดิมๆ ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่ แล้วจะไประแวงได้อย่างไร ตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณชนะคดีซุกหุ้น ก็สรรเสริญยกย่องกระบวนการยุติธรรมไทยเหลือเกิน แต่มาวันนี้บอกไม่เป็นธรรมแก่ตัวเอง
นายพิภพ กล่าวว่า การออกแถลงของทักษิณในวันนี้ ถือเป็นการทำลายประเทศไทย โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรม ทำลายระบบนิติรัฐ ซึ่งเรื่องนี้ถ้าต่างชาติเขาไม่รู้ความเป็ฯมาของกระบวนการยุติธรรมไทย เขาก็จะสงสัยว่าอำนาจตุลาการมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ คุณหนีแล้วยังทิ้งปัญหาให้ประเทศ กล่าวหากระบวนการยุติธรรม แล้วทำตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ ถามหน่อยว่าจะให้ศาลใดในโลกตัดสินคดีคุณ ซึ่งศาลที่ใช้อยู่นี้ คุณเองก็ชื่นชมว่าศาลยุติธรรมในสมัยที่ชนะคดีซุกหุ้น ซึ่งวันนี้ ถ้าทักษิณมีอุดการณ์ทางการการเมืองเขาจะไม่หนี แต่วันนี้พิสูจน์แล้วว่า เขาไม่มีอุดมการณ์ทางการเมือง เป็นเพียงนักธุรกิจการเมืองเท่านั้น พะวงอยู่ 2-3 เรื่องว่าจะถูกยึดทรัพย์ ที่อาศัยอำนาจรัฐและนดยบายรัฐที่ตัวเองครองอยู่ทำให้ตัวเองร่ำรวยจนผิดปกติ คนแบบไหนกันอยู่ 4-5 ปี รวยขึ้นเป็นแสนล้าน เรื่องนี้ต้องบอกให้ชาวต่างประเทศรู้ว่าผู้นำของประเทศพวกเขามีไหมแบบนี้ โทนี่ แบลร์ ,แธตเชอร์เป็นนายก 8 ปี รวยขึ้นเท่าไหร่ แต่ทักษิณอยู่ 5 ปี รวยขึ้นแสนล้านเพราะอะไร คุณต้องมาพิสูจน์กันในศาลว่าไม่ใช่เพราะการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์โดยไม่มีจริยธรรม
นอกจากนี้ แถลงของ พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวหาบ้านเมืองว่าไม่ปลอดภัย จึงขอถามว่าแล้วที่ พ.ต.ท.ทักษิณตระเวนทำบุญ 99 วัด มีใครไปทำอะไรหรือไม่ เรายังมีเรื่องที่ต้องพูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณอีกหลายครั้ง เพราะนอกจากเขาจะถีบหัวส่งหนีไปอยู่อังกฤษแล้ว ยังกล่าวหาใส่ร้ายบ้านเมืองนี้อีก ว่าไม่มีความปลอดภัย กระบวนการยุติธรรมไม่ยุติธรรม ซึ่งทำให้บ้านเมืองเสียหาย