“สุริยะใส” ฉุน “หมัก” แว้งกัด แนะตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาก่อนด่าพันธมิตรฯ

ผู้ประสานพันธมิตรฯ ตอกย้ำแถลงการณ์เดินหน้านำตัวผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดินกลับมาขึ้นศาล เผยเตรียมสำเนาหนังสือที่จะชี้แจงต่อสถานทูตอังกฤษ ให้สถานทูตต่างๆ ทั่วโลกได้รับรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในในเมืองไทย จวกนายกฯ จ้องด่าพันธมิตรฯ ป้ายสีชุมนุมก้าวร้าว แนะ “ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา” ก่อนจะมาสอนคนอื่น ขณะเดียวกัน แนะจับตา 3 รมต.หวย ลุ้นคุณสมบัติทำหน้าที่ต่อไปได้หรือไม่วันนี้

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุริยะใส กตะศิลา ปราศรัย 

วันนี้ (18 ส.ค.) เวลา 01.30 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยโดยช่วงแรกได้ย้ำถึงวัตถุประสงค์ของการออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 18 เรื่อง “ผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดิน” ซึ่งถือเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมกันนี้จะแสวงหาหาช่องทางทั้งในระดับสากล และภายในประเทศ นำตัวผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดินกลับมาขึ้นศาลได้อย่างไร

นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังสรุปชัดเจนว่า ตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่วางมือทางการเมือง เมื่อไม่หยุด พันธมิตรฯก็ไม่อาจหยุดการชุมนุมได้เช่นกัน เพราะภารกิจของพันธมิตรฯ เกิดขึ้นพร้อมกับการกำเนิดเกิดขึ้นของระบอบทักษิณเช่นกัน ดังนั้น เมื่อระบอบทักษิณยังอยู่ เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังพยายามชักใย เข้ามาครอบงำการเมืองไทย พันะมิตรฯก็มิอาจจะสลายตัวลงได้

แถลงการณ์ยังชี้ให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ลี้ภัยทางการเมือง เป็นการหนีคดี เป็นผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดิน และนี่จะเป็นเหตุผลสำคัญที่พันธมิตรฯ ต้องไปอธิบายให้สถานทูตอังกฤษได้เข้าใจ พร้อมแจกแจงข้อเท็จจริงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นบิดเบือนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่ประเทศอย่างใด เป็นหน้าที่ที่พันธมิตรฯ ต้องทำ เพราะรัฐบาลไม่ได้ทำหน้าที่ที่ควรจะทำ จริงๆ ภารกิจในการปกป้องอำนาจตุลาการ หรือกระบวนการยุติธรรม ต้องถือเป็นภาระของรัฐบาล แต่รัฐบาลไม่นำพา เห็นดีเห็นงามกับการหนีคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผสมโรงดจมตีกระบวนการยุติธรรมหนักเข้าไปอีก พฤติการณ์แบบนี้ พันธมิตรฯ ไม่อาจปล่อยให้รัฐบาลทำหน้าที่ได้อีกต่อไป

“เรากำลังทำหน้าที่ในนามคนไทย เพื่อที่จะฟ้องร้องต่อประชาคมโลก คงไม่ใช่แค่รัฐบาลอังกฤษเท่านั้น แต่มีความจำเป็นที่เราจะต้องสำเนาหนังสือที่จะชี้แจงต่อสถานทูตอังกฤษ ให้สถานทูตต่างๆ ทั่วโลกได้รับรู้ความจริงว่า เกิดอะไรขึ้นในในเมืองไทย ถือว่าเราทำหน้าที่ที่มีเกียรติ ในนามคนไทย 63 ล้านคน” ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าว

จากนั้น นายสุริยะใส ได้กล่าวถึงกรณีศาลปกครองนัดไต่สวนฉุกเฉินเพื่อชี้มูลคุณสมบัติ 3 รัฐมนตรีคดีหวยบนดิน เวลา 13.00 น.วันนี้ (18 ส.ค.)โดยวิเคราะห์ผลการไต่สวนที่จะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งจำแนกออกได้หลายแนวทาง โดยเฉพาะแนวทางที่จะเป็นผลประโยชน์กับพันธมิตรฯ สูงสุด คือ แนวทางที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะ รวมทั้ง 3 รัฐมนตรีมีพฤติการณ์จงใจขัดต่อบทบาทกฎหมาย อาจจะถูกสั่งพักงานทั้งคณะ

ส่วนแนวทางสถานเบารองลงมา ศาลอาจเห็นว่า ครม.ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของ 3 รัฐมนตรี ที่ไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็อาจจะปล่อยให้ ครม.ทำหน้าที่ต่อไป แต่ 3 รัฐมนตรีต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันศาลอาจจะเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องออกมาตรการฉุกเฉิน 3 รัฐมนตรีปฏิหน้าที่ต่อไป ครม.ก็มีความชอบธรรม ซึ่งก็จะมีปัญหาตามมาอีกว่า พันธมิตรฯ จะหยุดอยู่เพียงแค่นี้ หรือจะหาช่องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เป็นปัญหาที่ทีมทนายจะปรึกษาหากันอีกครั้ง วันนี้ (18 ส.ค.) จึงเป็นวันประวัติศาสตร์ที่ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

ขณะเดียวกัน ในช่วงท้าย นายสุริยะใส ยังกล่าวตำหนิท่าทีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ฉวยโอกาสเหน็บแหนมกลุ่มพันธมิตรฯ พูดจาก้าวร้าว ผ่านรายการ “สนทนาประสาสมัคร” โดยระบุว่า บางทีเส้นแบ่งระหว่างการพูดก้าวร้าวกับความตรงไปตรงมามันบางนิดเดียว เช่น หากบอกว่ารัฐบาลขายชาติ เป็นการพูดแบบตรงไปตรงมามากกว่าก้าวร้าว จุดอ่อนของสังคมไทยมักกลัวคำพูดที่ตรงไปตรงมา ดังนั้นเมื่อพูดตรงไปตรงมามันกระแทกกระทบจิตใจ เวทีพันะมิตรฯ ไม่มีก้าวร้าว มีแต่ตรงไปตรงมา

“พันธมิตรฯ ยอมรับ หากมันจะต้องเกิดหรือหลุดกันไปบ้าง เพราะบนเวทีมีความรู้สึกและอารมณ์ ไม่ใช่พระอิฐพระปูน แต่ต้องถามแบบอย่างของความก้าวร้าวหยาบคาบในบ้านนี้เมืองนี้ ใครเป็นต้นแบบ นายสมัครใช่หรือไม่ ถ้าไม่อยากให้เวทีนี้หลุดคำหยาบ หรือก้าวร้าว นายสมัคร ก็ควรแสดงกิริยาหยุดหยาบ ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด คือ ปิดปาก หรือลาออกไป หวังว่านายสมัคร จะกลับไปตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองบ้าง ใครกันแน่ที่เป็นแม่แบบของความหยาบในประเทศนี้” ผู้ประสานพันธมิตรฯ กล่าวทิ้งท้าย