"พิภพ"ปลุกคนไทย หนุนตุลาการภิวัตน์ เร่งกำจัดหน่วยงานไร้สำนึก ตำรวจ-อัยการ-รัฐสภา เพื่อให้เกิดการเมืองใหม่ พร้อมจวกลิ่วล้อ"แม้ว"มั่วนิ่ม ยกนายใหญ่ เทียบชั้น “ปรีดี-ป๋วย” ทั้งที่ตัวเองหนีคดีโกงชาติ มีหมายจับล่าตัวเข้าคุก เทียบไม่ได้กับรัฐบุรุษอาวุโส ที่เคยช่วยชาติพ้นสภาพแพ้สงคราม และไม่เคยทุจริตแม้แต่บาทเดียว เผยสื่อต่างชาติเริ่มรู้ทัน“แม้ว” แถลงการณ์ใส่ร้ายศาลไทยส่อไร้ผล
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วันนี้(15 ส.ค.51) เวลาประมาณ 20.20 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีสะพานมัฆวานว่า ขณะนี้ประชาชนกำลังต่อสู้ทำสงครามกับระบอบทักษิณเป็นยกที่ 3 ซึ่งก่อนการปฏิวัติ 19 ก.ย.เราต่อสู้จนสำเร็จมาครั้งหนึ่งแล้ว จนนำมาถึงการเกิด คตส. นำข้อมูลที่เราวิพากษ์วิจารณ์ตามเวทีต่างๆ มาสู่กระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ เวลาที่พูดถึงตุลาการภิวัตน์ ส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักไปที่ศาล แต่เมื่อถามว่าตุลาการภิวัตน์จะทำได้สำเร็จจริงหรือไม่นั้น ประชาชนยังมีสิ่งที่ต้องจัดการอยู่คือ หน่วยงานต้นน้ำอย่างตำรวจ ซึ่งตอนนี้ ตำรวจยังอยู่ในมือทักษิณ และควบคุมโดยรัฐบาลหุ่นเชิดขณะนี้
สำหรับการจะจัดการตำรวจได้นั้น จะต้องจัดการรัฐบาลพรรคพลังประชาชนก่อน เพื่อสร้างความเป็นธรรมต่อกฎหมายในการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น โดยเมื่อทำได้ขั้นต่อไปที่ประชาชนจะต้องจัดการคือ อัยการ เนื่องจากยังมีบางส่วนที่ยังโลเลว่าจะอยู่ในตุลาการภิวัตน์ ซึ่งที่ผ่านมาอัยการมักอ้างว่าตนเองอิสระแต่ไม่เคยใช้ความอิสระของตนแต่อย่างใด และยังยอมไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆ และยอมรับคำสั่ง ครม.ในการรับเป็นทนายให้คนโกงชาติ ซึ่งอย่างนี้ไม่เท่ากับว่าเป็นอิสระ
การสร้างสังคมใหม่ต้องสร้างระบบตำรวจใหม่ โดยให้มีการทำงานที่เทียบเท่าสากล ในฐานะที่เป็นต้นน้ำของตุลาการภิวัตน์ รวมถึงอัยการที่จะต้องทำให้ได้หากตำรวจไม่ทำ ซึ่งการทำอย่างนี้ได้ต้องทำให้เกิดการเมืองใหม่ จึงจะเกิดสังคมใหม่ ศาลในกระบวนการยุติธรรมก็ยังไม่เต็มร้อย แต่ดีกว่าทั้ง 2 หน่วยงานนี้ โดยศาลเองยังมีทีท่าจะนำตุลาการภิวัตน์เต็มรูปแบบ ซึ่งมีความหวังมากว่า 70-80% นายพิภพกล่าว
นายพิภพ กล่าวอีกว่า งานต่อไปของประชาชนคือการทำให้สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นคนตรวจสอบการทำงานของรัฐ และเป็นผู้ออกกฎหมาย เป็นสภาที่ดีก่อน โดยถ้าไม่ดี ตำรวจ และอัยการ ก็ไม่สามารถทำงานได้ดี โดยการจัดการนั้นต้องจัดการพรรคการเมืองทุกพรรคที่หวังใช้การเลือกตั้งเขามาโกงชาติ โดยเราจะหวังพึ่งบารมีศาลอย่างเดียวไม่พอ มิฉะนั้นศาลหรือตุลาการภิวัตน์ก็จะไม่เกิดขึ้น
"จุดอ่อนกระบวนอยู่ที่ศาลชั้นต้น แม้จะมีศาลใหม่ออกมาก็ตาม แต่มีอีกหลายกระบวนการที่ต้องปฏิรูป ถึงแม้จะมีคนดีมากในศาลฎีกา แต่เราต้องปฏิรูปตั้งแต่ 3 ศาล เพื่อไม่ให้คนทำผิดลอยหน้าลอยตาอยู่ได้"นายพิภพกล่าว
นายพิภพ กล่าวอีกว่า การที่ฝ่ายผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่หนีคดีไปประเทศอังกฤษ นำกรณีดังกล่าว ไปเปรียบกับกรณีนายปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ไปอยู่ต่างประเทศนั้น ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ เพราะนายปรีดีนั้นได้รับยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษอาวุโส โดยพระบาทสมาเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 เคยเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และมีความดีความชอบในการตั้งขวนการเสรีไทยจนประเทศไม่ต้องตกเป็นประเทศแพ้สงครามหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นายปรีดีไม่เคยคิดต้องการล้มล้างสถาบัน เพียงแต่ต้องการประชาธิปไตย ซึ่งแตกต่างจากคนในระบอบทักษิณ ที่คอยจาบจ้วงและวิจารณ์สถาบัน จึงนำมาเปรียบเทียบกันไม่ ถึงแม้มีคนใส่ร้ายว่านายปรีดี เกี่ยวข้องกับการสวรรคตของรัชกาลที่ 8 แต่ก็ฟ้องคนที่พูดจนชนะทุกคน แม้แต่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ยังต้องมาขอโทษในภายหลังเมื่อทราบว่าท่านบริสุทธิ์
"ความรักในสถาบันพระมาหากษัตริย์ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้เลย อาจารย์ปรีดีปกป้องสถาบันจนพวกผมบอกว่าท่านเป็น Royalist ส่วนทักษิณอ้างอย่างเดียว แต่ปล่อยให้ลูกน้องเปิดเว็บไซต์จาบจวงสถาบัน โดยที่รัฐบาลไม่ดำเนินการใดๆ เลย ซึ่งอาจารย์ปรีดี เมื่อไปอยู่ต่างประเทศไม่เคยให้ร้ายประเทศไทยเลย แต่ทักษิณ กลับเป็นพวกหนีคดี แล้วบอกว่าศาลมีความลำเอียง"นายพิภพกล่าว
ทั้งนี้ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่ากำลังปกป้องชาติ ความจริงกำลังขายชาติ ซึ่งทำให้เรากำลังจะเสียดินแดน และแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในทะเลไปแล้ว ขณะที่นายปรีดี และภรรยาไม่เคยทำแบบนี้ ซึ่งแตกต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานนั้น เทียบไม่ได้กับเศษเสี้ยวของท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์แม้แต่น้อย
การที่เว็บไซต์ของพวก พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าเขาจะไม่ตายในต่างแดนแบบนายปรีดีนั้น ต้องอธิบายว่า ในอดีตนั้นนายปรีดีสามารถเดินทางกลับประเทศได้ แต่ไม่ทำ เพราะมีเหตุผลส่วนตัว และที่สำคัญคือนายปรีดีไม่มีหมายจับ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานมีหมายจับ ถ้ากลับเข้ามาจะต้องถูกจับติดคุกทันที
"มีการนำทักษิณ ไม่เปรียบกับ ดร.ป๋วย (อึ๊งภากรณ์) อีก ซึ่งท่านไม่เคยทุจริตแม้แต่บาทเดียว นอจกากท่านถูกใส่ร้ายและพยายามต่อสู้ และต้องหนีออกนอกประเทศเพราเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ เพราะฉะนั้นจึงอยากจะบอกว่าอย่าทำให้คนดีๆ ต้องเสียหาย โดยการนำไปเปรียบเทียบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ"นายพิภพกล่าว
นายพิภพ กล่าวอีกว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ ฟ้องแกนนำพันธมิตรฯ แต่ไม่ยอมมาให้การในฐานะโจทก์ ถือเป็นการเอาเปรียบ จึงอยากถามว่า กรณีที่โจทก์อยู่ต่างประเทศ และมีหมายจับเป็นอาชญากร จะถือว่าเป็นธรรมกับจำเลยหรือไม่
นายพิภพ เปิดเผยว่า นักการทูตของประเทศยุโรปท่านหนึ่งในไทย ได้บอกกับตนว่า กรณีที่ศาลจัดการคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณอย่างนี้ ทำให้เขามีความหวังกับศาลเมืองไทยในการพยุงความยุติธรรม ที่ไม่สามารถทำได้ในอดีต โดยเฉพาะกรณีของผู้มีอำนาจ และอิทธิพล การที่ศาลสามารถออกหมายจับทักษิณได้ถือเป็นมติใหม่ของไทย ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติพร้อมจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยถ้าเป็นนิติรัฐ
สิ่งเหล่านี้ขัดแย้งกับที่ ดร.โกร่งพูด และที่ผ่านมาคนๆ นี้ไม่เคยพูดถึงเรื่องการทุจริตในอดีตเลย นอกจากนี้รัฐบาลสมัครเองก็ไม่เคยดำเนินการใดๆ กลับปล่อยให้ลูกน้องไปบ่อนทำลาย เหมือนกับเป็นการแยกตนเองออกจากตุลาการภิวัตน์ แม้แต่เรื่องเขาพระวิหารก็ไม่ปกป้อง ซึ่งดูเหมือนว่าเขาปกป้องตนเองและทักษิณเท่านั้น
ในช่วงท้ายนายพิภพ ได้นำบทความจากหนังสือพิมพ์ เฮรัลด์ ทรีบูน ซึ่งเป็นสื่อต่างชาติที่เขียนถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณหลบหนีคดีออกไปต่างประเทศ ในหัวข้อที่ว่า ทักษิณได้ฉีดวัคซีนให้เมืองไทยกันโรค “คนเดียวครองอำนาจ" ซึ่งที่ผ่านมา ประเทศไทยกำลังมาถึงจุดที่เรียกว่า เรามีคนเดียวครองอำนาจจนทำให้เกิดความเสียงหายอย่างมากมายในอดีต โดยถ้าเราปล่อยระบอบทักษิโณมิกครองประเทศไทยต่อไปก็จะทำให้ประเทศแตก โดยจะต้องนำ พ.ต.ท.ทักษิณ มารับโทษ เพราะศาลจะเป็นคนพิจารณา ซึ่งขณะนี้รูปแบบเกิดขึ้นเท่ากับเป็นการฉีดวัคซีนให้ไทยได้ และเพื่อนบ้านไปในตัว เกี่ยวกับเรื่องคนเดียวครองอำนาจได้
"ความเห็นของสื่อมวลชนข้างต้น แสดงว่าการแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณในวันนั้นเพื่อให้ต่างชาติเห็นด้วย ไม่สามารถทำได้แล้ว เพราะต่างชาติเขาเข้าใจ แต่ยังไงเราต้องไปที่หน้าสถานทูตอังกฤษ เพื่อถามว่าจะวางตัวในเรื่องนี้อย่างไร กับคนที่ทุจริตคอร์รัปชั่น และละเมิดสิทธิมนุษยชน"นายพิภพกล่าว