“อดีตทูต” เตือนอังฤกษ ปล่อย “แม้ว-พจมาน” ลี้ภัยกระทบความสัมพันธ์ 2 ประเทศ จี้ ส่งตัวผู้ต้องหากลับมารับโทษตามกรรมที่ก่อไว้ พร้อมปลุกประชาชนเรือนแสนร่วมแสดงพลังกดดันหน้าสถานทูตอังกฤษ ให้ต่างชาติรับรู้ความรู้สึกของคนไทย ระบุ สื่อต่างชาติเริ่มนำเสนอความจริงของนักการเมืองโกงชาติมากขึ้นเพราะระบอบทักษิณหมดประโยชน์แล้ว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุรพงษ์ ชัยนาม ปราศรัย
วันนี้ (15 ส.ค.) เวลาประมาณ 18.50 น.นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า การออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ซึ่งหนีไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษไม่ได้เป็นแค่เรื่องการเมืองภายในประเทศเท่านั้น แต่เป็นมติเกี่ยวข้องกับต่างประเทศที่จะมีผลต่อการเมืองในประเทศว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
สำหรับที่มาของผลกระทบในเรื่องนี้ มีมาตั้งแต่ในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยในสมัยนั้นข่าวที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ในต่างประเทศ จะให้การยกย่องระบอบทักษิณ ว่า เป็นผลดีต่อประเทศไทย และเมื่อมีการรัฐประหารเกิดขึ้นในวันที่ 19 กันยายน 2549 สื่อต่างประเทศก็โจมตีในเรื่องนี้และเข้าข้างระบอบทักษิณว่ามาจากการเลือกตั้ง โดยมิได้คำนึงถึงเงื่อนไขอันเป็นที่มาของการรัฐประหาร ทั้งการคอร์รัปชัน การแทรกแซงองค์กรอิสระ แทรกแซงสื่อมวลชน แทรกแซงศาล และการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่อย่างใด
ทั้งนี้ การที่สื่อต่างประเทศเหล่านี้ไม่นำเสนอข่าว เพราะเห็นว่าระบอบทักษิณในตอนนั้นสามารถให้ประโยชน์แก่ระบบทุนนิยามสามานย์ต่างชาติได้เป็นอย่างดี โดยในปัจจุบันเมื่อมีหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวเกิดขึ้น สื่อต่างประเทศต่างเริ่มหันมาเสนอข่าวให้ความจริงกับประชาคมโลกมากขึ้นว่า ระบอบทักษิณทำร้ายประเทศไทยอย่างไร
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า การที่ต่างชาติทำแบบนี้ มีความสำคัญอยู่ 2 อย่างที่เขาคำนึง คือ 1.อำนาจ 2.ผลประโยชน์ โดยทั้ง 2 อย่างนี้เป็นตัวชี้ขาดว่าอะไรจะให้ประโยชน์แก่เขาได้ และยิ่งทราบว่ารัฐบาลของพรรคพลังประชาชนใกล้ถึงอวสานแล้ว เขาจะยิ่งหันมานำเสนอข่าวมากขึ้น
“ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ เยอรมนี หรือ ฝรั่งเศส และกลัวว่าคนอื่นจะเข้ามาหาผลประโยชน์แทนทั้งนั้น ในช่วงรัฐประหารครั้งที่แล้วคนที่ขู่ว่าต่างชาติจะไม่มาลงทุน ไม่ใช่ต่างชาติ แต่เป็นนักการเมืองในพรรคไทยรักไทย ซึ่งเราต้องไม่สนใจ ไม่ใช่ต่างชาติไม่เข้ามาลงทุนแล้วประเทศจะเป็นอะไรไป ยังมีอีกหลายประเทศที่ให้ความสนใจมาลงทุนบ้านเราอยู่” นายสุรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ การหลบหนีคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว ขณะนี้เป็นเพียงการหนีคดีเท่านั้น ไม่ได้มีการขอลี้ภัย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งดำเนินการยึดหนังสือเดินทางทั้ง 3 ประเภทที่เขาถืออยู่ เพื่อไม่ให้เดินทางไปไหนได้ โดยไม่อยากให้เข้าใจผิดว่าเป็นการยึดสถานภาพการเป็นคนไทย แต่เพียงไม่ต้องการให้ผู้ต้องหาเดินทางโดยหนังสือเดินทางไทยเท่านั้น
สำหรับการนำเสนอข่าวของสื่อต่างประเทศที่เปลี่ยนท่าทีไปนั้น เชื่อว่า เกิดจากที่เขาเริ่มรู้ว่าประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว และกำลังจะมีรัฐบาลใหม่ซึ่งเป็นที่ยอมรับของประชาชน โดยการเปลี่ยนท่าทีนี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของเขาที่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า เรื่องเร่งด่วนที่สุดที่ประชาชนไทยต้องทำขณะนี้ คือ ต้องพิสูจน์ให้ประชาคมโลก และประเทศอังกฤษได้เห็นว่า เราไม่พอใจที่ทักษิณหนีออกนอกประเทศ โดยเราต้องแสดพลังว่าคนไทยมีความเป็นประชาธิปไตย และรับผิดชอบ ซึ่งประชาชนต้องมารวมตัวกันให้มากที่สุด เป็นหมื่นหรือแสนคน เพื่อแสดงพลังที่หน้าสถานทูตอังกฤษ เพื่อให้รู้ถึงเรื่องนี้
“การชุมนุมหน้าสถานทูตอังกฤษ เพื่อให้เขารู้ว่าเราไม่พอใจ และให้รู้ว่าทักษิณ อยู่ในอังกฤษ แม้จะยังไม่ลี้ภัย ซึ่งเขาเป็นคนโกง โดยเราต้องการให้รัฐบาล และประชาชนอังกฤษตระหนักถึงเรื่องนี้ ให้คำนึงถึงความรู้สึกของคนไทย และความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งจะมีผลกระทบแน่นอนหากอังกฤษให้ทักษิณลี้ภัย และเราจะไปชุมนุมให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ต้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ รู้ด้วยว่า เราไม่ได้ต้องการแค่ไม่ให้ทักษิณ ลี้ภัยเท่านั้น แต่อังกฤษต้องส่งตัวคนๆ นี้ กลับมารับโทษที่ประเทศไทยด้วย” นายสุรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในอดีต ประเทศตะวันตก ต้องการยัดเยียดประชาธิปไตยให้เรา และบอกแค่ว่าประชาธิปไตยต้องมาจากการเลือกตั้ง ซึ่งระบอบทักษิณจะยึดเรื่องนี้มาตลอด แต่ความจริงแล้วประชาธิปไตยเป็นค่านิยมสากล ซึ่งมีเนื้อหามากกว่านี้แต่สิ่งที่ตะวันตกยัดเยียดให้เรานั้นมีเพียงแค่รูปแบบเท่านั้น โดยเราไม่ต้องการทำให้ระหว่างที่พวกเรารอ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กลับมารับคำพิพากษาเราจะทำาการเคลื่อนไหว โดยที่เอกราชของประเทศประชาชนไทยจะต้องเป็นผู้ดูแล ไม่ใช่ให้ต่างชาติมาสั่ง ประชาชนไทยต้องตัดสินอนาคตการเมืองของเราเอง