ผู้จัดการออนไลน์ – “สมศักดิ์” ชี้รัฐบาลเร่งหาผลประโยชน์ในโค้งสุดท้าย บี้บอร์ดแบงก์ชาติผลักดันตั้งกองทุนเพื่อไปลงทุนต่างประเทศ จี้ “สมัคร” รับผิดชอบคำพูด กรณีนอมินีทักษิณ หลัง “แม้ว” โดดร่มเที่ยวบินกลับ พร้อมปัดร่วมรัฐบาลแห่งชาติของบิ๊กจิ๋ว ชี้เลอะเทอะจะเอาคนเลวมารวมกับคนดีได้อย่างไร
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
เมื่อวันที่ 10 ส.ค.เวลา 22.00 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยบนเวทีสะพานมัฆวานฯ โดยกล่าวว่า เรามายืนหยัดเพื่อชาติ เพื่อประโยชน์ของประชาชนและเพื่อจัดการรัฐบาลโกงกินให้ออกไป วันนี้พวกเขายังพยายามใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อหาประโยชน์ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งบอร์ดแบงก์ชาติ และพยามให้าบอร์ดนี้ไปผลักดันตั้งกองทุนไปลงทุน ซึ่งในนี้มีเงินและทองคำที่หลวงตามหาบัวที่รับบริจาคมารวมอยู่ด้วย
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงรายการของช่องเอ็นบีทีว่า เป็นรายการที่นำคนไม่มีสภาพ คนล้มละลายไปพูด เรื่องนี้น่าเบื่อมากไม่มีอะไร เช่นเดียวกับที่รัฐสภาจะไปตั้งสถานีวิทยุครอบครองสื่อ และด้าน มท.3 ก็จะเอาที่ดินไปขายต่างชาติ แบบนี้ใช้ไม่ได้ ขณะเดียวกันยังมีการเตรียมการแอบจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยกลุ่มนายเนวิน จะใช้ชื่อว่า “เพื่อไทย” เพื่อเป็นทางถอย เพราะเขารู้ว่าพรรคพลังประชาชนใกล้ยุติแล้ว
“พวกเขายังดำเนินการในทุกเรื่อง ในทุกมิติ โดยเตรียมดำเนินการต่างๆ ไว้มากมาย ดังนั้นการปรับ ครม.จะมากน้อยแค่ไหนก็ไม่เกิดประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนเลย”
สำหรับกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่บินกลับไทยนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตามกฎหมายอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลก็จะออกหมายจับทันที ส่วนที่มีข่าวว่านั่งเครื่องบินส่วนตัวมาก่อนแล้ว จากการตรวจสอบสหภาพแรงงานการท่าอากาศยานก็ไม่พบว่า พ.ต.ท.ทักษิณนั่งเครื่องบินส่วนตัวเข้าประเทศแต่อย่างใด ดังนั้น เมื่อเขาไม่มาก็แน่นอนว่าได้เตรียมลี้ภัยทางการเมือง โดยอ้างความคิดทางการเมืองไม่ตรงกัน ถ้าประเทศนั้นไม่ให้ รัฐบาลไทยออกหมายจับเมื่อไร เขาก็คือผู้ร้ายข้ามแดน
“เขาเคยเป็นผู้ร้ายมาแล้ว สมัยรัฐบาลขิงแก่ แต่ก็อ้างรัฐบาลไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ตอนนี้เป็นรัฐบาลหุ่นเชิด เขาคุมได้ทุกอย่างยังไม่มา เพราะเขากลัวพลังของพี่น้องประชาชน ที่เป็นพลังอันยิ่งใหญ่นี้ ดังนั้นจึงเป็นความภาคภูมิใจของพวกเรา สิ่งที่ทำมา เราพูดด้วยความเป็นธรรม เราพูดอย่างสุจริต และคนเหล่านี้เป็นคนสาธารณะ ซึ่งประชาชนมีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้ ไม่ใช่นักการเมืองที่อ้างมาจากการเลือกตั้ง แต่ทำผิดมาแล้ว 10 กว่าคดี แต่ยังหน้าด้านอยู่ ถ้าเป็นนักการเมืองประชาธิปไตยจริง ไม่หน้าด้านอยู่ต่อนานขนาดนี้ ฉะนั้นการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองอย่างสุจริตครั้งนี้จะต้องถูกบันทึกในกินเนสบุ๊ค แน่ เพราะพวกเราทุกคนเป็นผู้เจริญ เป็นอารยชน ตรงข้ามกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งดันเป็นเผด็จการ ซึ่งแย่มากกว่ารัฐบาลที่มาจากรัฐประหารเสียอีก”
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช กล่าวหาว่าเพราะกลุ่มพันธมิตรฯ จึงทำให้คนไม่มาร่วมงานที่รัฐบาลจัดที่ลานพระบรมรูปทรงม้า แต่ความจริงเป็นธรรมชาติคนเข้ารู้อะไรดี ไม่ดี เขาก็ไม่เอาด้วย ไม่เชื่อดูจากโพลสำรวจ ไม่มีใครเขาเอารัฐบาลนี้แล้ว
“การที่บ้านเมืองเราเดินหน้ามาถึงทุกวันนี้ มาจากความสามัคคี แต่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ถ้ามีคุณสมัครเป็นนายก เพราะเขาเป็นคนสร้างความแตกแยก แต่เมื่อรัฐบาลประกาศมาแต่ต้นโดยยืนยันว่าตัวเป็นนอมินี แล้วเมื่อทักษิณหนีแล้ว นายสมัครว่าอย่างไร เพราะโดยปกติรัฐต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน ไม่ใช่มายืนปกป้องคนโกง และเมื่อปกป้องไม่ได้ ก็พูดว่าให้เป็นไปตามสถานการณ์แทน แสดงว่ารู้ชะตาตนเองว่าไปไม่รอด”
นายสมศักดิ์ กล่าวย้ำว่า ภารกิจอของเรายังไม่สิ้นสุด เราต้องขับไล่พวกนี้ออกไปให้หมด และต้องชมเชย พล.อ.ชวลิต เมื่อปี 2540 แค่คนประท้วงไม่กี่ร้อยคนก็ลาออก อย่างไรก็ตามการเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติและเอาคนพวกนี้มารวมกัน ก็ไม่ได้ประโยชน์ เพราะการแก้ปัญหาไอ้พวกโกง ต้องไม่มีอยู่ในรัฐบาล สภาต้องมาจากประชาชน ไม่ใช่มาแต่หาผลประโยชน์ รัฐมนตรีต้องทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง จึงจะมีความสุขอย่างนิรันดร์
“เอาคนชั่วกับคนดีมาอยู่ร่วมกันไม่ได้ เหมือนตำรวจกับโจร ดังนั้น พล.อ.ชวลิตอย่ามาคิดเลอะเทอะเลย รัฐบาลใหม่ต้องไม่มีคนโสมม โกงกินอย่างนี้รวมอยู่ด้วย เราต้องกวาดให้เกลี้ยง ถึงจะทำให้ประเทศชาติเจริญได้ ปัญหาของประเทศ ตั้งแต่ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ที่มีมากเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย ต้องแก้ให้ได้ เพราะต่างชาติเขาต้องการเรื่องนี้ ไม่ใช่ต้องการให้พันธมิตรยุติการชุมนุม เช่นเดียวกับข่าวเมียของเขาโกง ข่าวนี้ก็ถูกตีพิมพ์ไปทั่วโลกแล้ว”
สุดท้าย นายสมศักดิ์ กล่าวย้ำถึงความสามัคคี และเน้นย้ำเป้าหมายยิ่งใหญ่ นั่นคือการขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด เอาทรัพย์สินแผ่นดินคืนมา รวมทั้งปกป้องทรัพย์สมบัติชาติที่นักการเมืองจะโกงกิน รวมทั้งรำลึกถึงคุณ และต่อสู้เพื่อประเทศชาติต่อไป