“สมเกียรติ” ซัดนโยบายเดรัจฉาน! ทำประโยชน์เพื่อตัวเอง-พวกพ้อง

“สมเกียรติ” อัดยับ นโยบายลด-แลก-แจก-แถม ของ “รัฐบาลขายชาติ” ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น พร้อมให้ “หมัก” หุบปากเข้าพรรษา 3 เดือน สวดซ้ำ “สมุนทรราช” บังอาจกล่าวหา "ศาล" เท่ากับเป็นการเร่งวันตายให้เร็วมากยิ่งขึ้น

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

วานนี้ (18 ก.ค.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่เชิงสะพานมัฆวานฯ โดยกล่าวถึงกรณีการเสียสละขั้นสูง เพื่อชาติบ้านเมือง ว่า ขณะนี้แกนนำฯ ได้ลงความเห็นกันว่า การบริจาคเงินส่วนตัวนั้นสามารถบริจาคให้ใครก็ได้ โดยขณะนี้มีเงินที่ให้บริจาคอยู่ 4 กอง โดยกองแรก คือ 1.กองเงินช่วยเหลือเอเอสทีวี 2.กองบริจาคเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของกลุ่มพันธมิตรฯ 3.เงินบริจาคให้กองทัพธรรม และ 4.กองเงินบริจาคให้กับการช่วยเหลือการดำเนินคดี ซึ่งถือเป็นการทำบุญโดยแท้จริง

“ส่วนตัวผมของดรับบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น เพราะมีหน้าที่การงาน เงินเดือนที่ได้รับมากเพียงพอแล้ว ดังนั้น ถ้าใครจะบริจาคเงินขอให้บริจาคเข้ากองทุนรวม ที่สำคัญนักดนตรีของเรากลายเป็นผู้เสียสละ เพราะประกาศไม่รับเงินแล้วยังจะเอาเงินที่ได้จากการแสดงในต่างจังหวัด มาบริจาคช่วยเหลือพันธมิตรฯ อีกด้วย” นายสมเกียรติ กล่าว

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า เราไม่รู้ว่าเกมการเมืองเรื่องการโค่นล้มระบอบทักษิณ หลังจากเขายึดพื้นที่ และยึดอำนาจได้ทั้งหมดแล้ว ยกเว้นอำนาจศาลซึ่งออกมาพูดมากขึ้นเป็นกรณีพิเศษ จึงขอขอบคุณ และค้ำจุนจากพันธมิตรฯ ส่วนการที่สมุนระบอบทรราช ได้กล่าวหาศาล เท่ากับเป็นการเร่งวันตายของพวกเขา เพราะมีคดีอยู่ในศาลมากมาย ดังนั้นขอให้พุทธศาสนิกชนโปรดรอเวลาอีกไม่นาน เพราะเวรย่อมระงับด้วยการติดคุก และการประหารชีวิต ซึ่งจะได้เห็นอย่างแน่นอน

ส่วนวันเข้าพรรษานี้นั้น นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ เข้าพรรษา ก็คือ ขอให้หุบปากเป็นเวลา 3 เดือน และสิ่งที่อยากจะกราบเรียนก็คือ เรื่องพุทโธ เนื่องจากพระพุทธเจ้าได้ตรัสคำว่าพุทโธ มีความหมายว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน นั่นก็คือ การที่เรารู้เรื่องเขาพระวิหาร ซึ่งกำลังถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยขณะนี้แม่ทัพภาค 2 ปวดหัวมากกรณีที่ไทยถือแผนที่คนละฉบับกับประเทศกัมพูชา โดยกัมพูชาได้เพียงแค่ปราสาทพระวิหาร แต่ของไทยครอบครองรวมประเทศเขมรทั้งหมด ฉะนั้นขอให้รออีกครั้ง เพราะเราจะไปเป่านกหวีดที่กรุงพนมเปญ

“การบริจาคทานที่ดีที่สุด คือ วัตถุทาน อภัยทาน และอภัยทาน แต่วัตถุทานที่ดีที่สุด ก็คือจานดาวเทียม เอเอสทีวี เพราะทำให้ประชาชนทั่วประเทศ ตื่นจากการหลับใหล ซึ่งเป็นอาการเบื้องต้น โดยอาการขั้นที่สองก็คือ การตื่นขึ้นจากความโง่เขลา เบาปัญญา ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าคนไทย และคนต่างสัญชาติ ได้รับรู้เรื่องความเลวร้ายของรัฐบาลหุ่นเชิด และกรณีเขาพระวิหาร รวมทั้งทหารขอบไปตีกอล์ฟ ส่วนข้อที่ 3 คือ รู้เท่าทันแล้วเอาไปปฏิบัติจัดการ ซึ่งเรารู้เท่าทันนโยบายลด แลก แจก แถม ของรัฐบาล” นายสมเกียรติ ระบุ

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า พันธมิตรฯ ไม่เพียงรู้ทันนโยบายประชานิยม แต่ยังอ่านเกมออกเรื่องการตั้งกองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้าน จำนวน 8 หมื่นหมู่บ้าน ประชาชนก็จะเอาเงินเหล่านั้นไปซื้อมอเตอร์ไซค์ หรือโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งประชาชนยังกระจายความรู้ดังกล่าวไปอีก 8 หมื่นหมู่บ้าน ซึ่งตื่นขึ้นมากันหมดแล้ว เพื่อร่วมกันกู้ชาติ

“ที่สำคัญ ท่านปอเพชร อริยปริญญาโน ภิกขุ และท่าน ดร.สมบัติ วิอังสุทร ได้ร่วมกันจารฯ ธรรมาธิปไตย 9 อารยะธรรมใหม่ของแผ่นดิน ขจัดสิ้นวิกฤตชาจิ โดยเฉพาะท่านปอ เป็นอารยะที่ชาญฉลาด เพราะเสนอให้ทำเพื่อชาติทุกข์ และพ้นวิกฤตทั้งมวล โดยมีความบางตอน ระบุว่า ถ้าจะขจัดสิ้นวิกฤตชาติ ต้องขจัดพรรคการเมืองที่มีลักษณะที่ไม่ดี นั่นคือ 1.พรรคการเมืองที่ประกอบไปด้วยนายทาส 2.หัวหน้าทาส หรือรัฐมนตรี และ 3.ทาสทางการเมือง ซึ่งเป็นผู้แทนของนายทุน ฉะนั้นผมจึงเข้าใจว่า การที่พวกเขายกมือประเคนเขาพระวิหารให้กับกัมพูชา เพราะทำให้กับหัวหน้าทาสเพียงเท่านั้น” นายสมเกียรติ กล่าว

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ในหนังสือเล่มนี้ ได้อัญเชิญกระแสพระราชดำรัชของพระพุทธเจ้าหลวง หรือพระปิยมหาราช ว่าขณะนั้นประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงพร้อมๆ กัน และการการที่ประเทศสยามได้เปลี่ยนแปลงวิธีการปกครองนั้น นับว่าเป็นความมหัศจรรย์ และเป็นโชคดีของประเทศสยามทั้งสิ้น เพราะอย่างน้อย 116 ปี ที่พระเจ้าหลวงได้เปลี่ยนแปลงการปกครองโดยสงบ โดยในยามนั้นไม่มีคำว่าอหิงสา หรือปราศจากอาวุธเหมืนในสมัยนี้ ซึ่งก็คือ พันธมิตรฯ อาจจะถูกบันทึกลงกินเนสบุ๊ค ว่า ไม่มีการเสียเลือดเนื้อเลยแม้แต่นิดเดียว

“วันนี้ตั้งใจมาเสนอธรรมะเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด เพราะธรรมะจะกำจัดสิ่งเหลื่อมล้ำของสังคมได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะสามารถจัดระเบียบสังคม และจัดระเบียบเศรษฐกิจได้ ขณะเดียวกัน นโยบายการลดค่าน้ำ ค่าไฟ ของรัฐบาลชุดนี้นั้นเป็นนโยบายของสัตว์เดรัจฉาน โดยเอาเงินภาษีของประชาชนไปแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตัวเอง และพวกพ้อง” นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย