xs
xsm
sm
md
lg

“ภูวดล” ลากไส้ “ผู้นำไทย” กร้าวหลัง “วันแม่” ลุยเช็กบิล “คนพันธุ์ชั่ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
“ภูวดล” สาวไส้ “ผู้นำ-นักการเมืองไทย” ตักตวงผลประโยชนใส่ตัวโดยไม่คำนึงถึงประเทศชาติ พร้อมเปรียบ “แก๊งออฟโฟว์” ของไทยแค่ “คนพันธุ์ชั่ว” ไม่ติดฝุ่นต้นตำรับจีนที่ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อสังคม ก่อนฉีกแผน “รบ.โจร” จัดงาน “วันแม่” โดยใช้โอทอปบังหน้า หวังผลสลายการชุมนุมของ “พันธมิตรฯ”

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ ปราศรัย 

วันนี้ (10 ส.ค.) ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยกล่าวถึงกรณีที่ประเทศจีนซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกว่า ประเทศจีนได้ประกาศศักดิ์ศรีความยิ่งใหญ่ให้ชาวโลกได้รู้ว่า ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ประเทศจีนจะเป็นผู้นำของโลกแล้ว โดยมีนัยยะซึ่งมีความหมายเกี่ยวเนื่องกับประเทศไทย เพราะมีนักการเมืองบัดซบ และอ้างว่าเป็นนักการเมืองระบอบประชาธิปไตย แต่โกงกินมากกว่าระบอบใดๆ ในโลกนี้

“ในอดีตประเทศจีนเป็นประเทศที่น่าสงสารที่สุดในโลก เพราะถูกข่มขืนมาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19 และกว่าจะมาประสบความสำเร็จในศตวรรษที่ 21 ซึ่งประเทศจีนมีอะไรหลายๆ อย่าง ที่ประเทศไทยน่าจะเอาแบบอย่าง เพื่อให้คนไทยหันกลับมามองตัวเอง และก่อนที่จีนจะได้จัดโอลิมปิกในครั้งนี้ จะต้องต่อสู้กับชาติมหาอำนาจตะวันตก โดยเปิดโอกาสให้มีการจัดโอลิมปิกที่ซิดนีย์ก่อน ทั้งๆ ที่จีนเตรียมความพร้อมมานานแล้ว แต่มหาอำนาจตะวันตกไดทำการขัดขวาง โดยการล็อบบี้คณะกรรมการโอลิมปิกสากลตลอดเวลาว่า ประเทศจีนมาปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน” ดร.ภูวดล กล่าว

ดร.ภูวดล กล่าวอีกว่า ประเทศจีนประกาศใช้นโยบาย 4 ทันสมัยในปี 1978 โดยขณะนั้นคนทั้งโลกดูถูกเหยียดหยามว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะจีนเพิ่งผ่านปัญหาระส่ำระสายภายหลังเหมา เจ๋อ ตุง ตาย โดยก่อนหน้านั้นก็เปิดการปฏิวัติวัฒนธรรม แล้ววันนี้มีการนำเอาผู้นำจีนมาเปรียบเทียบกับแก๊งออฟโฟว์ หรือผู้นำในการปฏิวัติของวัฒนธรรมจีน 4 คน ซึ่งไม่สามารถเปรียบเทียบกันไม่ได้กับแก๊งออฟโฟว์บัดซบที่ประเทศไทยกำลังพัฒนาขึ้นมาขณะนี้ เช่น ห้อยร้อยยี่สิบ หรือเลขาฯ ส่วนตัวของผู้นำคนนี้ ซึ่งนักการเมืองพันธ์ชั่วเหล่านี้เทียบไม่ได้กับแก๊งออฟโฟว์ของจีน เพราะเขาต่อสู้กับกลุ่มสังคมจีน หรือเรียกว่าการเคลื่อนไหวแบบแนวทางลินเปียว และแนวทางการเคลื่อนไหวแบบหลิวเส้าฉี ซึ่งเป็นบรมครูของโจเอินไหล และเติ้งเสี่ยวผิง อีกทีหนึ่ง

“อย่างไรก็ตาม การเมืองจีนนำไปสู่ปัญหาความระส่ำระสาย ซึ่งถึงที่สุดแล้ว คนที่เดือนร้อนนอกจากชาวจีนนอกจากซึ่งเป็นกระดุมพี อีกพวกหนึ่งก็คือ คนที่ไปเรียนแล้วติดอยู่ประเทศจีน และวันนี้คนเหล่านั้นกลับมาประเทศไทย แล้วมาเป็นคนใหญ่คนโตในบ้านเรา สาเหตุที่เราต้องพูดถึงประเทศจีน เพราะเรามีพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนอยู่มากมาย ซึ่งเป็นฐานที่มาของความเจริญของประเทศจีนจนทุกวันนี้ เนื่องจากเขารู้คุณของประเทศจีนโพ้นทะเล จนกระทั่งผู้นำการปฏิวัติในประเทศจีนมาปลุกระดมในประเทศไทย โดยระดมเงินมหาศาลจากประเทศไทย ไปต่อสู้กับญี่ปุ่น และต่อสู้กับเผด็จการเจียงไคเช็ค ซึ่งถึงที่แล้ว สุดคนไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทยขณะนี้กลายเป็นเศรษฐีรักชาติ ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ มีส่วนสร้างประวัติศาสตร์อย่างมหาศาล เพราะในอดีตทหารจนจีนโพ้นทะเลตายกว่า 2 แสนคน เพราะถูกชาวญี่ปุ่นบังคับให้เข้ามาสร้างทางรถไฟที่ จ.กาญจนบุรี” ดร.ภูวดล กล่าว

ดร.ภูวดล กล่าวอีกว่า พอประเทศจีนประกาศนโยบาย 4 ทันสมัย จีนก็มาเอาเงินในทวีปเอเชีย จนวันนี้กลับกลายเป็นมหาอำนาจโลก เพราะคนจีนถูกสอนว่า ต้องชนะมหาอำนาจยุโรปให้ได้ โดยศตวรรษที่ 21 จะไม่ใช่ศตวรรษของคนตะวันตกอีกต่อไป ซึ่งผู้นำไทยก็รู้ แต่กลับแต่กลับตักตวงผลประโยชน์เข้าสู่ตัวเอง ไม่ได้ตักตวงผลประโยชน์เข้าสู่ประเทศชาติ รวมทั้งนายทหารบางคนที่หากินกับประเทศจีน โดยผู้นำจีนในอีก 5 ปีข้างหน้า จะพูด และอ่านภาษาต่างประเทศได้ และชาวจีนในอีก 5 ปีข้างหน้า มีแนวโน้มว่าจะทำตัวเป็นลูกจิ๋นซี ฮ่องเต้

“ขณะเดียวกัน คนไทยบางคนก็อ้างว่าเป็นลูกพ่อหลวงบ้าง แม่หลวงบ้าง แล้วทำอะไรบ้างหรือไม่ คุณจงรักภักดีแต่ปาก เพราะแม้แต่จัดงานตรงนี้ ก็ยังเล่นการเมือง บอกได้อย่างไรว่าจะมาจัดซุ้มมีแต่โอทอปทั้งนั้น แล้วโอทอปนี่ของไอ้หน้าเหลี่ยมใช่หรือไม่ แล้วศูนย์ศิลปาชีพเป็นสถานที่โชว์ของอย่างเดียวหรือ แค่นั่นยังไม่พอ กระทรวงพาณิชย์ยังไปให้ประชาชนมาเซ้งร้านเพื่อขายของ แล้วคุณก็อ้างว่าเคารพพระราชินี แต่จิตลึกๆ ของคุณ ต้องการที่จะสลายการชุมนุม ดังนั้น อย่าคิดว่าคนไทยโง่ เพียงแต่ใครจะมีโอกาสมากกว่าใครในการช่วยประเทศชาติ” ดร.ภูวดล ระบุ

ดร.ภูวดล กล่าวต่อว่า ประเทศสิงคโปร์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ในอดีตยังจ้างอาจารย์ไทยไปสอนที่ประเทศเขาด้วยซ้ำ ซึ่งเขาเน้นเรื่องการไม่คอร์รัปชัน ทำให้ประเทศเขาร่ำรวย เพราะโอกาสทางการศึกษา และโอกาสทางสังคมเขามี ทำให้ประเทศเขาพัฒนาขึ้นมา ถามว่าคนที่หลงใหลระบอบทักษิณนั้น ถามว่าลูกหลานของท่านทำได้อย่างลูกของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เช่น ทำข้อสอบไม่ได้ อาจารย์ก็ทำให้ อย่าคิดว่าคนไทยโง่ ถ้าให้โอกาสเขามีการศึกษา และทำมาหากิน ก็สามารถทำมาค้าขายได้ทั้งนั้น โดยในวันนี้ ลูกหลานชาวใต้เข้ามาขายของในกรุงเทพฯ ทั้งนั้น แต่รัฐบาลบัดซบชุดนี้ ไม่เคยส่งเสริมคนไทย เอะอะอะไรก็ทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นทุนขี้โกงทั้งนั้น โดยโฉบเข้ามาจับมือกับนักการเมืองไทย แล้วทิ้งแต่กากเอาไว้

“คนไทยลงทุนได้ทั้งโลก ไม่ต้องเอาทุนต่างชาติมาก็ทำได้ และนักธุรกิจดีไม่มีใครอยากคบกับคนโกง แต่นักการเมืองไทย นักธุรกิจไทย รวมทั้งที่ปรึกษานักวิชาการไทย บัดซบคิดแต่จะหาเงิน โดยนักวิชาการบางคนที่สอนหลักสูตรภาคพิเศษวันเสาร์ อาทิตย์ จากนั้นควงกิ๊กไปกินข้าว แล้วก็เอาเกรดให้เพื่อแลกกับการสมสู่เท่านั้นเองหรือ ความบัดซบของสังคมนี้เกิดขึ้นมากที่สุดตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาปกครองประเทศ ดังนั้น เราต้องจำไว้ว่า หลังจากงานเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เราต้องจัดการพวกมันให้จงได้” ดร.ภูวดล กล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น