xs
xsm
sm
md
lg

“บุช” ถวายพระพร “ในหลวง” ย้ำไทย-สหรัฐฯ สัมพันธ์แน่นแฟ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


วันนี้ (7 ส.ค.) บรรยากาศที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คึกคักไปด้วยสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในศูนย์ประชุมฯ เข้มงวดมากเป็นพิเศษ ซึ่งประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ของสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์นโยบายของสหรัฐฯ ต่อเอเชีย โดยผู้นำสหรัฐฯ อารมณ์ดีเป็นพิเศษ กล่าวทักทายในที่ประชุมด้วยคำว่า “สวัสดีครับ” ด้วยน้ำเสียงชัดเจน เรียกเสียงปรบมือทั่วห้องประชุม

จากนั้น ผู้นำสหรัฐฯ เริ่มต้นกล่าวสุนทรพจน์ด้วยการถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่พระองค์จะทรงเจริญพระชนมายุครบรอบ 81 พรรษาในปีนี้ หลังจากนั้นเริ่มต้นการกล่าวสุนทรพจน์โดยเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐฯ ที่ยืนยาวมานานถึง 175 ปี และกล่าวถึงความร่วมมือทางด้านค้าการลงทุน และการทหารระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่มีมาตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลี เวียดนาม จนถึงปัจจุบันก็ยังมีความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้ายทั้งในอิรัก และอัฟกานิสถาน

นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวถึงเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ การค้าเสรีของประเทศไทยที่มีส่วนช่วยให้การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวชื่นชมบทบาทของประเทศไทยว่าเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชีย และถือว่าประเทศไทยเป็นพันธมิตรนอกกลุ่มนาโตที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญมากที่สุด

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวถึงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่า มีเพียงแค่ประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่ถือว่าเป็นประชาธิปไตย แต่หลังจากนั้นความเป็นประชาธิปไตยก็ไม่ได้หายไป แถมยังกระจายไปยังประเทศต่างๆ มากขึ้น แม้กระทั่งอินโดนีเซียที่ถือว่าเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุด รวมถึงประเทศจีนก็มีการเปิดเสรีมากขึ้น

ส่วนเรื่องเกาหลีเหนือมองว่า ต้องเคารพสิทธิมนุษยชนของชาวเกาหลีเหนือด้วย และสิทธิมนุษยชนของชาวพม่า ซึ่งได้เรียกร้องให้เร่งดำเนินการปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี รวมถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวพม่าจากพายุไซโคลนนาร์กีส

ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้แสดงความเป็นห่วงต่อภาวะโลกร้อน และได้กล่าวถึงจีนว่า จีนเพิ่งพ้นจากยุคปฏิวัติวัฒนธรรมมา แต่ปัจจุบันมีความเจริญรุ่งเรืองในทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก และมองว่าจีนจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในทศวรรษที่ 21 และได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไต้หวันว่า อยากเห็นความสงบระหว่าง 2 ประเทศนี้ และแสดงความเป็นห่วงเสรีภาพในการนับถือศาสนา รวมถึงสิทธิมนุษยชนในประเทศจีน

นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวถึงด้านการค้า ซึ่งมูลค่าการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับทวีปเอเชียเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น ตลาดการค้าโลกจึงเปลี่ยนไป ไม่ได้อยู่เพียงแถบแอตแลนติก แต่ได้ข้ามมาสู่แปซิฟิก คือภูมิภาคเอเชีย ที่ถือว่าเป็นความมหัศจรรย์ในเรื่องเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ ต้องการเชื่อมความสัมพันธ์ดีไว้ตลอดไป และมั่นใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศในเอเชียจะไม่มีวันจบลง และจะยังยืนอยู่ข้างชาวเอเชียต่อไป ถึงแม้ว่าความเป็นประธานาธิบดีของตนจะจบลงในไม่ช้าเนื่องจากจะพ้นจากตำแหน่ง ส่วนอนาคตของภูมิภาคเอเชียนั้นมองว่าจะสามารถเจริญรุ่งเรืองได้ ต้องมีความร่วมมือกันอย่างแนบแน่นระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เพื่อที่จะนำภูมิภาคนี้ให้ก้าวหน้าต่อไป

หลังเสร็จสิ้นจากการปาฐกถาที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ได้เดินทางต่อไปที่มูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล หรือศูนย์เมอร์ซีย์ ที่ชุมชนคลองเตย แต่ก่อนหน้าที่จะเดินทางมาถึงได้มีกองกำลังตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 จำนวน 200 นาย ได้เข้าเตรียมความพร้อมดูแลรักษาความปลอดภัย และจัดระเบียบการจราจรโดยรอบ โดยกันไม่ให้ทั้งคนและรถที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในบริเวณดังกล่าว

ขณะที่ชุดรักษาความปลอดภัยของสหรัฐฯ ได้ดูแลรักษาความปลอดภัยตามอาคารใกล้เคียง ขณะเดียวกันในส่วนของชุมชนคลองเตย ได้มีการประกาศเสียงตามสาย แจ้งถึงการเดินทางมาเยี่ยมศูนย์เมอร์ซีย์ พร้อมรอต้อนรับผู้นำสหรัฐฯ ที่เดินทางมาถึงเมื่อเวลา 10.50 น. ส่วนสภาพการจราจรบริเวณด้านหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ได้กลับสู่สภาวะปกติแล้ว









กำลังโหลดความคิดเห็น