“วัชระ” คาด “เป็ดเหลิม” บินด่วนกลับ กทม.เหตุเพราะผวา “หมัก” เสียบ “สมพงษ์” นั่งเก้าอี้ มท.1 แทน ก่อนลากไส้ “ระบอบแม้ว” โกงกินชาติบ้านเมืองมโหฬาร ลุ้น ป.ป.ช.ชี้มูล “คนโกงวัด” ภายใน 3 เดือนนี้ ปูดซ้ำ "โบตั๋น" ร้องเรียน นสพ.มติชน เหตุ “ชินคอร์ป” เบียดบังหนังสือนิทานเด็ก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายวัชระ เพชรทอง ปราศรัย
วันนี้ (14 ก.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีตบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์แนวหน้า ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยกล่าวปราศรัยถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย รีบบินกลับกรุงเทพฯ ด่วน โดยอ้างว่ามาชี้แจงต่อคณะรัฐมนตรีเรื่องเกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทยว่า ขณะนี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจแน่นอนแล้วที่จะปรับย้าย ร.ต.อ.เฉลิม ออกจาก มท.1 เท็จจริงอย่างไรไม่อาจยืนยันได้ แต่มีชื่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ จะไปเป็น มท.1 แทน ร.ต.อ.เฉลิม และไม่ว่าจะปรับคณะรัฐมนตรีอย่างไร ก็เป็นแค่เพียงเหล้าเก่าในขวดใหม่ และเราไม่เอาพันธุ์ทรราชทั้งสิ้น
“ผมทราบมาว่าวันนี้แกนนำพันธมิตรฯ เราจะเดินทางไปยื่นหนังสือเพื่อขอถอดถอนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะต่อ ป.ป.ช. ดังนั้นจึงขอฝากประชาชนที่จะเดินทางไป ป.ป.ช. ได้โปรดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.หยิบยกกรณีการทุจริตโดรงงานกำจัดขยะ ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยนายสมัคร เป็นผู้ว่า กทม. และตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเป็นการด่วน นอกจากนี้ยังมีกรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ถึงขนาดเอาที่ดินของวัดมาสร้างเป็นสนามกอล์ฟ แล้วคนที่ไปซื้อที่ดินก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ไม่ทราบว่ามาจากนรกขุมไหน โดยขณะนี้ ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการสอบสวนเป็นการด่วนแล้ว โดยมีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน และคาดว่าจะสามารถลากคอคนโกงที่วัด โดยจะชี้มูลความผิดได้ภายใน 3 เดือนนี้” นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวอีกว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อยที่มารักษาการที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ได้ถูกภรรยาต่อว่าเพราะเข้าใจผิดว่าที่มารักษาการนาน 50 วันนั้น ได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 400 บาท แล้วเอามาเลี้ยงเด็กที่เวทีพันธมิตรฯ หมด เพราะแม่บ้านตำรวจเหล่านั้นฟังวิทยุ ซึ่งระบุว่ามีแต่ดาราสวยๆ ทั้งนั้น แต่ปรากฏว่านับตั้งแต่วันที่ชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เคยได้รับเบี้ยเลี้ยงเลยแม้แต่บาทเดียว ดังนั้น พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.จะต้องทำเรื่องเบี้ยเลี้ยงของลูกน้องให้เกิดความกระจ่าง เพราะจำนวนเงินเหล่านั้นมากมายมหาศาล
“ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของสภาผู้แทนราษฎร ท่านบอกกับผมว่า ถ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อยกล้าที่จะยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธาน กมธ.ฯ และแม้ว่าจะลงชื่อไปในหนังสือร้องเรียน แต่ทาง กมธ.ก็จะปิดชื่อเอาไว้ และจะดำเนินการสอบสวนเป็นเรื่องแรกของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ ดังนั้นจึงอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อย ว่าจะร้องเรียนอย่างเป็นทางการหรือไม่ ในฐานะที่ท่านเป็นผู้เดือดเนื้อร้อนใจ”
นายวัชระ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบว่าตำรวจมีการทุจริตคอร์รัปชันในหลายๆ รูปแบบ โดยเฉพาะตึกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งสร้างในสมัยที่นายสมัครเป็น รมว.มหาดไทย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปใช้ตึกดังกล่าวต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ดี ส่วนกรณีที่นายสมัคร ระบุถึง ป.ป.ช.ไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น นั่นเป็นเพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติเอาไว้ว่า ป.ป.ช.ต้องถวายสัตย์ปฏิญาณ แต่รัฐธรรมนูญบัญญัติเอาไว้คือ บรรดาคณะรัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว. ต้องมีการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่นายสมัครกลับนำบุคคลซึ่งไม่มีคุณสมบัติที่ระเป็นรัฐมนตรีเข้าไปถวายสัตย์ปฏิญาณนั้น ถือเป็นการบังอาจหรือไม่ เพราะไปโกหกต่อหน้าพระพักตร์ในหลวง เนื่องจากหลายคนไม่ได้จบแม้กระทั่งปริญญาตรี
“การกระทำของนายสมัครถือเป็นการบังควรหรือไม่ เพราะคนที่เป็นนายกฯ จะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีเสียก่อน เพราะเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย รวมทั้งนายกฯ เป็นบุคคลที่รับสนองพระบรมราชโองการ โดยจะต้องเลือกสรรบุคคลที่จะเข้าไปเป็นรัฐในตรี แสดงว่านายสมัคร ย้อมแมว ถามว่านายสมัคร จงรักภักดีจริงหรือไม่ นอกจากนี้นายสมัคร ยังลุกลี้ลุกลนผิดปกติ โดยเฉพาะกรณีติดสินบนเป็นเงินเยน ถามว่าแล้วเอามาแลกเป็นเงินไทยได้หรือไม่ พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่รู้จักนายนิชิมัตซึ” นายวัชระ ระบุ
นายวัชระ กล่าวอีกว่า แล้วนายสมัครรู้จักบริษัทที่ไปทำการขยายตลาดที่สนามหลวง 2 เขตทวีวัฒนา ซึ่งมีการจ่ายผลประโยชน์หลายร้อยล้านบาทหรือไม่ เพราะมีประชาชนโจทก์ขานกันว่า มีข้าราชการระดับสูงได้รับผลประโยชน์ในโครงการนี้ เป็นเหตุให้นายสมัครทนไม่ได้ อีกทั้งนายสมัครยังประกาศอย่างชัดเจนว่าเป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ฉะนั้นนายสมัครจึงต้องลาออกสถานเดียว
“นายสมัครคิดว่าตัวเองเก๋าเกม และหลอกคนทั้งประเทศได้ ฉะนั้นเวลาที่เถียงสู้ไม่ได้ก็จะถามกลับว่าอายุเท่าใด แล้วยังถามคนที่ไปทวงเขาพระวิหารคืนว่าเกิดแล้วหรือยัง ถามว่าคนอย่างนายสมัครเกิดก่อน แล้วทำไมถึงไม่รับผิดชอบ นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นคนแรกที่เอาเงินจากธนาคารออมสินซึ่งเป็นเงินของเด็กมาทำเป็นป้ายโฆษณาหาเสียงจำนวนนับแสนแผ่น แล้วลงชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มิหนำซ้ำยังเอาเงินของเด็กๆ มาทำนโยบายประชานิยม หรือแม้กระทั่งสะพานลอยตรงข้ามวัดหลักสี่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังกิน และสร้างความเดือดร้อนให้กับพระ เด็กนักเรียน และคนแก่ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งให้กรมทางหลวงทุบสะพานทิ้ง เนื่องจากไปบดบังทัศนียภาพของหมู่บ้านวิสตร้า พาร์ค ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของชินวัตร” นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวต่อว่า โบตั๋น หรือคุณสุภา สิริสิงห์ ได้เขียนร้องเรียนหนังสือพิมพ์มติชนว่า ถูกเอาเปรียบจากบริษัท ชินคอเปอร์เรชั่น ซึ่งบริษัทดังกล่าวมาขอนิทานไปพิมพ์ แต่ปรากฏว่าหน้าปกกลับใช้ชื่อบริษัทพิมพ์แจก โดยสามารถใช้การพิมพ์หนังสือนำไปหักภาษีของรายจ่ายจริงได้ถึง 2 เท่า เรียกว่าจะทำบุญทั้งทียังเบียดบังนักเขียนนิทานสำหรับเด็ก นี่คือระบอบทักษิณ ฉะนั้นจึงอย่าได้แปลกใจว่าทำไมถึงถูกระบอบทักษิณโกงกิน และเอารัดเอาเปรียบอย่างมโหฬาร