00ไม่รู้ว่าเป็นอาการของคน"สติแตก" จากการกลัวถูกถอดถอนจากเก้าอี้นายกฯ รวมทั้งคดีอาญาที่จะตามมา หรืออย่างไรไม่ทราบได้ ทำให้"หมัก" ออกอาการหน้าซีด หน้าเซียว พูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย ระหว่างจัดรายการสนทนาประสาสมัคร เมื่อเช้าวานนี้
00 เปิดฉากมาก็"อภิปรายไม่ไว้วางใจสื่อ" ก่อนเป็นอันดับแรก หาว่า สื่อยุคนี้จ้องจะตีรัฐบาลอย่างเดียว ให้สัมภาษณ์ไป10 แต่ลงถูกต้องแค่1 หรือ 2 ส่วนอีก 8 เป็นอะไรไม่รู้ ก็เลยเลิกให้สัมภาษณ์ ขอพูดคนเดียวแบบนี้ดีกว่า แถมบอกประชาชนว่า ถ้าอยากมีสุขภาพจิตดี ก็ให้เลิกอ่านหนังสือพิมพ์ แล้วไปดูทีวีที่ดีดีบางช่องก็พอ
00 แต่เรื่องที่ถือว่าเป็น"ไฮไลต์ "ก็คือการออกฟาดงวง ฟาดงาเอากับ "ป.ป.ช. องค์กรตรวจสอบ ที่กำลังจะรับเรื่องจากสมาชิกวุฒิสภา ที่จะมายื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้งคณะ จากกรณีออกมติครม. การลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190
00"หมัก"บอกว่า ป.ป.ช.เป็นผลผลิตจากเผด็จการทหาร คมช. ที่ยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนการปฏิบัติหน้าที่ จึงถือว่าเป็นองค์กรเถื่อน แค่นจะมาถอดถอน นายกฯและคณะรัฐมนตรี ที่ได้เข้าถวายสัตย์ญแล้วได้อย่างไร
00 เท่านั้นยังไม่พอ ยังเป่าหูประชาชนด้วยว่า หากป.ป.ช.รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้งคณะจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วใครจะบริหารราชการแผ่นดิน ...แหม ทำยังกับว่า ถ้าไม่มีรัฐบาลชุดนี้แล้วประเทศชาติจะล่มสลายลงไปโดยพลัน
00 ทันทีที่ "หมัก"พูดจบ "กล้านรงค์ จันทิก" โฆษกป.ป.ช. ก็ออกมา "แก้โง่" ให้ทันทีว่า ป.ช.ช.นั้นเป็นองค์กรอิสระ แค่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ก็เริ่มปฏิบัติหน้าที่เชือดคนโกงได้ทันที ไม่ต้องเข้าถวายสัตย์ฯ เหมือนศาล หรือ คณะรัฐมนตรี
00 ที่สำคัญคือ เมื่อป.ป.ช.รับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณาแล้ว ก็ต้องให้ผู้ถูกร้องเรียนเข้าชี้แจง หาข้อมูลมาหักล้าง ไม่ใช่ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ทันที ตามที่ "พะนะทั่นหมัก" จงใจบอกกับประชาชน ความจริงเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่การพูดฝ่ายเดียว แต่ถ้าพูดแบบให้มีนักข่าวซัก ละก็ ถูกขึงพืด คาที่แน่ เพราะปัญหาตื้นๆ แค่นี้ นักข่าวสายการเมืองเขารู้กันทั้งนั้น ไม่ปล่อยให้ปาวๆ "ขายขี้เท่อ" ต่อไปแน่
00 แต่เพื่อให้น่าเชื่อถือ การจัดรายการครั้งนี้ มีการอ้าง "คำพระ" เรื่อง"อริยสัจ 4 " ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรคประกอบไปด้วย แต่เน้นเรื่องทุกข์ และการดับทุกข์ เป็นพิเศษ ก่อนจะเลี้ยวเข้าเรื่องว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังมีทุกข์อันเนื่องมาจาก " รัฐธรรมนูญ50 " ที่ออกแบบมาเพื่อจองล้าง จองผลาญ ระบอบทักษิณ ดังนั้นวิธีดับทุกข์ คือ ต้องแก้รัฐธรรมนูญทันทีที่สภาเปิด
00 เรื่องจะแก้รัฐธรรมนูญนี้ เชื่อเถอะ ถ้ามีการนำเข้าสู้วาระการประชุมสภาเมื่อไร จะต้องได้ยิน"เสียงนกหวีด" ยาวๆ จาก"สนธิ ลิ้มทองกุล" แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่าแน่นอน และเมื่อนั้นก็คอยดูก็แล้วกันว่า ประชาชนจากทุกสารทิศ จะหลั่งไหลมาตามเสียงนกหวีดอย่างมืดฟ้ามัวดิน
00 วันนี้ (14 ก.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯและคณะจะไปที่สำนักงานป.ป.ช. เพื่อยื่นร้องให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีอาญากับครม.ทั้งคณะ รวมทั้ง ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 5 คน และพ่วง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข่าไปด้วย ในฐานะมีส่วนรู้เห็น และบงการให้เกิดการเสียดินแดนให้กับกัมพูชา รวมแล้ว 41 คน ครม. 35 คน ข้าราชการประจำคือ เจ้ากรมแผนที่ทหาร เลขาธิการสมช. อธิบดีกรมสนธิสัญญาระหว่าง ประเทศ รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิ์ตาม มาตรา 275 ที่ทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 3 มาตรา คือ มาตรา 157 119 และ มาตรา 120 ที่โทษหนักถึงประหารชีวิต นี่กระมังที่ทำให้"หมัก" ออกอาการอย่างที่เห็นกัน
00 เปิดฉากมาก็"อภิปรายไม่ไว้วางใจสื่อ" ก่อนเป็นอันดับแรก หาว่า สื่อยุคนี้จ้องจะตีรัฐบาลอย่างเดียว ให้สัมภาษณ์ไป10 แต่ลงถูกต้องแค่1 หรือ 2 ส่วนอีก 8 เป็นอะไรไม่รู้ ก็เลยเลิกให้สัมภาษณ์ ขอพูดคนเดียวแบบนี้ดีกว่า แถมบอกประชาชนว่า ถ้าอยากมีสุขภาพจิตดี ก็ให้เลิกอ่านหนังสือพิมพ์ แล้วไปดูทีวีที่ดีดีบางช่องก็พอ
00 แต่เรื่องที่ถือว่าเป็น"ไฮไลต์ "ก็คือการออกฟาดงวง ฟาดงาเอากับ "ป.ป.ช. องค์กรตรวจสอบ ที่กำลังจะรับเรื่องจากสมาชิกวุฒิสภา ที่จะมายื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้งคณะ จากกรณีออกมติครม. การลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190
00"หมัก"บอกว่า ป.ป.ช.เป็นผลผลิตจากเผด็จการทหาร คมช. ที่ยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนการปฏิบัติหน้าที่ จึงถือว่าเป็นองค์กรเถื่อน แค่นจะมาถอดถอน นายกฯและคณะรัฐมนตรี ที่ได้เข้าถวายสัตย์ญแล้วได้อย่างไร
00 เท่านั้นยังไม่พอ ยังเป่าหูประชาชนด้วยว่า หากป.ป.ช.รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้งคณะจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วใครจะบริหารราชการแผ่นดิน ...แหม ทำยังกับว่า ถ้าไม่มีรัฐบาลชุดนี้แล้วประเทศชาติจะล่มสลายลงไปโดยพลัน
00 ทันทีที่ "หมัก"พูดจบ "กล้านรงค์ จันทิก" โฆษกป.ป.ช. ก็ออกมา "แก้โง่" ให้ทันทีว่า ป.ช.ช.นั้นเป็นองค์กรอิสระ แค่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ก็เริ่มปฏิบัติหน้าที่เชือดคนโกงได้ทันที ไม่ต้องเข้าถวายสัตย์ฯ เหมือนศาล หรือ คณะรัฐมนตรี
00 ที่สำคัญคือ เมื่อป.ป.ช.รับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณาแล้ว ก็ต้องให้ผู้ถูกร้องเรียนเข้าชี้แจง หาข้อมูลมาหักล้าง ไม่ใช่ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ทันที ตามที่ "พะนะทั่นหมัก" จงใจบอกกับประชาชน ความจริงเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่การพูดฝ่ายเดียว แต่ถ้าพูดแบบให้มีนักข่าวซัก ละก็ ถูกขึงพืด คาที่แน่ เพราะปัญหาตื้นๆ แค่นี้ นักข่าวสายการเมืองเขารู้กันทั้งนั้น ไม่ปล่อยให้ปาวๆ "ขายขี้เท่อ" ต่อไปแน่
00 แต่เพื่อให้น่าเชื่อถือ การจัดรายการครั้งนี้ มีการอ้าง "คำพระ" เรื่อง"อริยสัจ 4 " ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรคประกอบไปด้วย แต่เน้นเรื่องทุกข์ และการดับทุกข์ เป็นพิเศษ ก่อนจะเลี้ยวเข้าเรื่องว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังมีทุกข์อันเนื่องมาจาก " รัฐธรรมนูญ50 " ที่ออกแบบมาเพื่อจองล้าง จองผลาญ ระบอบทักษิณ ดังนั้นวิธีดับทุกข์ คือ ต้องแก้รัฐธรรมนูญทันทีที่สภาเปิด
00 เรื่องจะแก้รัฐธรรมนูญนี้ เชื่อเถอะ ถ้ามีการนำเข้าสู้วาระการประชุมสภาเมื่อไร จะต้องได้ยิน"เสียงนกหวีด" ยาวๆ จาก"สนธิ ลิ้มทองกุล" แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่าแน่นอน และเมื่อนั้นก็คอยดูก็แล้วกันว่า ประชาชนจากทุกสารทิศ จะหลั่งไหลมาตามเสียงนกหวีดอย่างมืดฟ้ามัวดิน
00 วันนี้ (14 ก.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯและคณะจะไปที่สำนักงานป.ป.ช. เพื่อยื่นร้องให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีอาญากับครม.ทั้งคณะ รวมทั้ง ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 5 คน และพ่วง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข่าไปด้วย ในฐานะมีส่วนรู้เห็น และบงการให้เกิดการเสียดินแดนให้กับกัมพูชา รวมแล้ว 41 คน ครม. 35 คน ข้าราชการประจำคือ เจ้ากรมแผนที่ทหาร เลขาธิการสมช. อธิบดีกรมสนธิสัญญาระหว่าง ประเทศ รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นการใช้สิทธิ์ตาม มาตรา 275 ที่ทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 3 มาตรา คือ มาตรา 157 119 และ มาตรา 120 ที่โทษหนักถึงประหารชีวิต นี่กระมังที่ทำให้"หมัก" ออกอาการอย่างที่เห็นกัน
