“ลิ่วล้อ” รับลูก “หมัก” เดินเกมเตะตัดขา ป.ป.ช.บุกสภายื่น กมธ.กิจการองค์กรอิสระ ที่มี “สุทิน คลังแสง” เป็นประธาน ให้สอบสวนกรรมการ ป.ป.ช.9 คน อ้างไม่ได้รับโปรดเกล้าฯ ทั้งยังออกระเบียบตั้ง จนท.จ่ายค่าตอบแทน ขัด กม. จี้ถอดถอน ฉุนโดนสื่อซักเนื้อหาหนังสือ ย้อนกลับไม่ได้มาชี้แจงนักข่าว
ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.45 น.วันนี้ (14 ก.ค.) นายเยี่ยมยอด ศรีมันตระ ที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ และนายมงคล สมกระบวน พันธมิตรสหภาพแรงงานประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือต่อนายสุทิน คลังแสง ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เนื่องจากการกระทำการจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือพฤติการณ์ที่เป็นการเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งอย่างร้ายแรงและกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
นายเยี่ยมยอด อ้างว่า ป.ป.ช.ชุดนี้ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์ และไม่มีการถวายสัตย์ปฏิญาณ เป็นการล่วงละเมิดต่อพระราชอำนาจ เป็นการจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังได้ทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการด้วยการออกระเบียบ ป.ป.ช.ลงวันที่ 23 พ.ย.2549 กำหนดให้มีตำแหน่งที่ปรึกษา เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการของประธานและกรรมการ ป.ป.ช.แต่ละคน และยังได้กำหนดค่าตอบแทนลักษณะเป็นเงินเดือน เงินเพิ่มพิเศษ เป็นรายเดือนถือเป็นการกระทำที่ไม่มีอำนาจ จงใจฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้เคยวินิจฉัยไว้ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจออกระเบียบดังกล่าว ดังนั้นการกระทำของ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คนจึงเป็นการทำผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการ ขัดมาตรา 249 ของรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 16 และมาตรา 17 ขอให้ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญฯ ตรวจสอบหากพบว่าเป็นจริง ขอให้ถอดถอนประธานและกรรมการป.ป.ช.ต่อไป
นายเยี่ยมยอด กล่าวว่า การมายื่นหนังสือเพื่อให้ตรวจสอบ ป.ป.ช.ครั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่มีใครเข้ามาล้วงลูก และตนก็ได้ตรวจสอบเรื่องนี้มานานเป็นปีแล้วตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งการตรวจสอบครั้งนี้ก็เพื่อให้สังคมได้ตรวจสอบว่ามีการพยายามโยงใยอำนาจเดิมของ คมช.ไว้หรือไม่
ด้าน นายสุทิน กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องนี้บรรจุเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ ในวันที่ 16 ก.ค.นี้เพื่อตรวจสอบถึงอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ซึ่งหากเห็นว่าผิดรัฐธรรมนูญจริงทางพรรคพลังประชาชนก็คงดำเนินการถอดถอนไม่ได้ แต่จะนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงให้สังคมรับรู้ ซึ่งการถอนถอนนั้นก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญคือประชาชนต้องเข้าชื่อกันถอดถอน หรือว่าหาก ส.ส.เห็นว่าผิดก็อาจจะเข้าชื่อยื่นถอดถอนเองก็ได้ แต่ทางคณะกรรมาธิการฯ ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายเยี่ยมยอดเกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือที่ได้ยื่นให้ทางคณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบ ปรากฏว่า นายเยี่ยมยอดไม่สามารถสรุปเนื้อหาสาระได้ พร้อมกล่าวด้วยอารมณ์ว่าตนทำหนังสือมาให้คณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบ ไม่ได้มายื่นหนังสือให้สื่อมวลชน ดังนั้นสื่อจะลงหรือไม่ลงข่าวก็เรื่องของสื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่านายเยี่ยมยอดเป็นคนสนิทของนักการเมืองคนหนึ่งในพรรคพลังประชาชน
ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.45 น.วันนี้ (14 ก.ค.) นายเยี่ยมยอด ศรีมันตระ ที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ และนายมงคล สมกระบวน พันธมิตรสหภาพแรงงานประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือต่อนายสุทิน คลังแสง ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เนื่องจากการกระทำการจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือพฤติการณ์ที่เป็นการเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งอย่างร้ายแรงและกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
นายเยี่ยมยอด อ้างว่า ป.ป.ช.ชุดนี้ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์ และไม่มีการถวายสัตย์ปฏิญาณ เป็นการล่วงละเมิดต่อพระราชอำนาจ เป็นการจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ยังได้ทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการด้วยการออกระเบียบ ป.ป.ช.ลงวันที่ 23 พ.ย.2549 กำหนดให้มีตำแหน่งที่ปรึกษา เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการของประธานและกรรมการ ป.ป.ช.แต่ละคน และยังได้กำหนดค่าตอบแทนลักษณะเป็นเงินเดือน เงินเพิ่มพิเศษ เป็นรายเดือนถือเป็นการกระทำที่ไม่มีอำนาจ จงใจฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้เคยวินิจฉัยไว้ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจออกระเบียบดังกล่าว ดังนั้นการกระทำของ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คนจึงเป็นการทำผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการ ขัดมาตรา 249 ของรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 16 และมาตรา 17 ขอให้ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญฯ ตรวจสอบหากพบว่าเป็นจริง ขอให้ถอดถอนประธานและกรรมการป.ป.ช.ต่อไป
นายเยี่ยมยอด กล่าวว่า การมายื่นหนังสือเพื่อให้ตรวจสอบ ป.ป.ช.ครั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่มีใครเข้ามาล้วงลูก และตนก็ได้ตรวจสอบเรื่องนี้มานานเป็นปีแล้วตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งการตรวจสอบครั้งนี้ก็เพื่อให้สังคมได้ตรวจสอบว่ามีการพยายามโยงใยอำนาจเดิมของ คมช.ไว้หรือไม่
ด้าน นายสุทิน กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องนี้บรรจุเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ ในวันที่ 16 ก.ค.นี้เพื่อตรวจสอบถึงอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ซึ่งหากเห็นว่าผิดรัฐธรรมนูญจริงทางพรรคพลังประชาชนก็คงดำเนินการถอดถอนไม่ได้ แต่จะนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงให้สังคมรับรู้ ซึ่งการถอนถอนนั้นก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญคือประชาชนต้องเข้าชื่อกันถอดถอน หรือว่าหาก ส.ส.เห็นว่าผิดก็อาจจะเข้าชื่อยื่นถอดถอนเองก็ได้ แต่ทางคณะกรรมาธิการฯ ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายเยี่ยมยอดเกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือที่ได้ยื่นให้ทางคณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบ ปรากฏว่า นายเยี่ยมยอดไม่สามารถสรุปเนื้อหาสาระได้ พร้อมกล่าวด้วยอารมณ์ว่าตนทำหนังสือมาให้คณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบ ไม่ได้มายื่นหนังสือให้สื่อมวลชน ดังนั้นสื่อจะลงหรือไม่ลงข่าวก็เรื่องของสื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่านายเยี่ยมยอดเป็นคนสนิทของนักการเมืองคนหนึ่งในพรรคพลังประชาชน