นายกฯ ลุกลี้ลุกลนกล่าวโทษสื่อ ขอใช้สิทธิไม่ไว้วางใจ ด่ากราด ส.ว.กระเหี้ยนกระหือรือเข้าชื่อยื่นถอดถอน จะเอากันให้เป็นให้ตาย เพี้ยนหนักชี้ ป.ป.ช.องค์กรไม่ชอบด้วย กม. เพราะไม่ผ่านถวายสัตย์ฯ จะมาชี้มูลรัฐบาลที่ผ่านการเลือกตั้งได้อย่างไร ปากกล้าไม่กลัวพันธมิตรฯ ตะแบงแก้ รธน.อวดบารมีเบียดบังเวลาสื่อรัฐกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง แก้ตัวทุกประเด็นร้อน
วันนี้ (13 ก.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัครว่า ขณะนี้มีขบวนการจ้องโค่นล้มรัฐบาล เริ่มต้นจากสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ พาดหัวด่านายกรัฐมนตรีว่าไร้ยางอาย ทำยังกะว่าคณะรัฐมนตรีเป็นสัตว์นรก ทั้งที่รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้ง วันนี้ขอใช้สิทธิเสรีภาพไม่ไว้วางใจสื่อมวลชนบ้าง เพระเปิดรัฐธรรมนูญดูแล้วไม่มีข้อไหนห้าม
"ผมขอพูดวันนี้ ให้คนทั้งประเทศได้มานั่งฟังนายกของเขา ฟังจากปาก เข้าหูของพวกเขาที่เป็นเจ้าของประเทศ เพราะถ้าผมพูดผ่านสื่อ พูดไป 10 ถูกอยู่ 2 แล้วที่หายไป 8 ล่ะ พูดกันไป ว่าผมหน้าตาเหมือนหมูมหา เขียนการ์ตูนล้อเลียน ก็ว่าไปเถอะครับ แต่ผมจะไม่ไว้วางใจสื่อ เป็นความจำเป็นละครับที่ผมจะพูด"
นายสมัคร กล่าวถึงกรณีที่ สมาชิกวุฒิสภากลุ่มหนึ่งเข้ารายชื่อจะถอดถอนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี โดยยื่นต่อ ป.ป.ช.ว่า ป.ป.ช.ถือเป็นองค์อิสระที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่ผ่านถวายสัตย์ปฏิญญาณ จะมาถอดถอนรัฐบาลที่ผ่านการถวายสัตย์ปฏิญาณมาได้อย่างไร
"ผมมาตามตรอกออกตามประตู มาจากการเลือกตั้ง แต่ที่ยื่น ป.ป.ช.เป็นไงครับ คณะของคุณไม่ถูกตามกฎหมาย คณะคุณไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ ยังทำหน้าที่ไปได้ แต่ผมถวายสัตย์ แล้วเวลานี้ กฎหมายเปิดช่อง เอาไปยื่น ถ้า ป.ป.ช. รับปั๊บ ผมต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เห็นไหมคณะที่มาตามตรอกออกตามประตู มีการถวายสัตย์ปฏิญาณ แต่ถูกคณะที่ไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ และแต่งตั้งโดย คมช. สั่งให้หยุดทำงานได้ อย่างนี้มันมันถูกไหม"
นายสมัคร กล่าวต่อว่า ตามหลักพุทธศาสนา อริยสัจ 4 มีทุกข์ สมุหทัย นิโรธ มรรค ซึ่งทุกข์ของพระพุทธเจ้ามีเหตุแห่งทุกข์คือ เกิด แก่ เจ็บตาย ทางดับทุกข์คือไปปรินิพพาน แต่ถ้าทุกข์เพราะพรรคจะถูกยุบ ทุกข์เพราะจะถูกยื่นถอดถอน เหตุแห่งทุกข์ก็คือ รัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นทางดับทุกข์ คือแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายสมัครอ้างว่า รัฐธรรมนูญ 2550 เกิดจากความเกลียดชัง มาตรา 237 ของเก่าก็มี ของเดิมถ้าทำผิดก็ให้ใบแดง หรือเลือกตั้งใหม่ แต่ก็เติมวรรค 2 เข้าไป กรรมการบริหารพรรคทำผิดต้องถึงขั้นยุบพรรค มาตรา 190 ก็เพิ่มวรรค 2 เข้าไป ครอบจักรวาล ทั้งที่รัฐบาล พล.องสุรยุทธ์ ก็เคยไม่เห็นด้วย แต่คนที่ร่างก็สนุกกันใหญ่ คือเขียนให้ใครที่เข้ามาใหม่จะอยู่ไม่ได้ ใครที่ยังไม่โดนที่เขาถูกีดกันเอาไว้ ก็ยังไม่เป้นไร แต่ถ้าโดนแล้วจะรู้สึก
"พระพุทธเจ้าท่านบอกให้ดับที่เหตุ คือรัฐธรรมนูญ ต้องแก้รัฐธรรมนูญครับ คนทำผิด ยุบทั้งพรรค ต้องแก้ครับ คนไปทำกับต่างประเทศต้องโดน ต้องแก้ครับ วุฒิสภามาจากแต่งตั้งต้องดูครับ ส.ส. เขตละ 3 คน ก็ต้องแก้ให้เหลือเขตละคน ผมต้องบอกไว้ เปิดสภาต้องแก้รัฐธรรมนูญครับ ลองดูพวกที่ไม่มีเหตุผลเถอะครับ"
นายสมัคร ยังกล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่า จะดำเนินการถอดถอนและดำเนินคดีอาญานายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พ่วงนายสมัคร จะเอากันให้เป็นให้ตาย กรณียกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา ทั้งที่ประสาทพระวิหารเป็นของเขมรตามคำตัดสินศาลโลกมานานแล้ว และรัฐบาลชุดก่อนก็เคยไปประชุมคณะกรรมการมรดกโลก แล้วขอขึ้นทะเบียนร่วมกัน แต่เขมรไม่ยอม จะขึ้นฝ่ายเดียวแล้วเอาพื้นที่ทับซ้อนขึ้นด้วย กระทรวงต่างประเทศเราก็คัดค้าน จนเขาบอกให้ยื่นยใหม่วันที่ 2 ก.ค.ปีนี้ ที่ควิเบก ตนไปเยือนฮุนเซนก็บอกว่ากระทรวงต่างประเทศเรายอมไม่ได้ที่จะขึ้นพื้นที่ทับซ้อนด้วย ไปเจอกันอีกครั้งที่เวียงจันทร์ ท่านก็บอกคิดออกแล้ว จะขึ้นเฉพาะตัวปราสาท ก็เลยมาทำข้อตกลงกัน
นอกจากนี้ นายสมัครยังอ้างว่า ถ้าคนอื่นมาเป็นรัฐบาลในช่วงนี้ แล้วให้นายนิตย์ พิบูลสงคราม หรือ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัฒน์ มาเป็น รมว.ต่างประเทส ก็คงต้องทำอย่างที่นายนพดลทำ แต่คิดว่า 2 คนนั้น ถ้าทำก็คงไม่ผิด แต่ถ้านายนพดลทำต้องผิด
"ถามทำไมรีบร้อน ก็เขาจะทำ 2 ก.ค.นี้ ต้องเอาให้ทัน เพื่อจะต้องไป ฝ่ายค้านก็เอาเรื่องนี้เข้าสภา พิสูจน์กลางสภาใคร 2 คนตกลงกันนี่ คือสนธิสัญญา แต่ใน กม.เขาบอก สนธิสัญญา มันต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงเขตแดน จึงเอาเข้าสภา แต่กรมสนธิสัญญาบอกไม่ต้อง มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มันของๆ เขา ถามกฤษฎีกา ท่านมีชัยก็บอกว่า ไม่ได้ถาม แต่อัยการเขาตอบชัดเจน กฤษฎีกาไม่ตอบก็ไม่ว่า แต่กรมสนธิสัญญาเขาบอก
"เขาก็เอาไปเข้าสภา ทำเป็นจะเป็นจะตาย ใหญ่โต แล้วทหาร กรมแผนที่ สมช. ทำครบหมดเรียบร้อย ก็ยังเอาไปสับโขกในสภา ผมแทบเป็นแทบตาย ผมต้องตำหนิอย่างแรง มันกระทบสัมพันธ์ไมตรี ที่สร้างมาแทบเป็นแทบตาย ต้องทำอย่างนี้ ผมต้องคลายปม วันสุดท้าย ออกมา ผมแถลงเลย มีช่องเดียวที่มาถ่าย ดีที่เขาออกข่าวให้ ผมบอกว่าอย่าให้มันเกินเหตุ ใครจะทักท้วงอะไรได้ทั้งสิ้น"
นอกจากนี้ นายสมัครยังอ้างว่าสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย มีการเขียนจดหมายแสดงเจตจำนง ในการขอกู้เงินไอเอ้มเอฟ 8 ฉบับ เรียกว่าเป้ฯการเอาประเทศไปจำนำ เพราะต้องแก้กฎหมายตามที่เขาสั่ง 15 ฉบับ นายชวนแก้แล้ว 11 ฉบับที่เรียกว่ากฎหมายขายชาติ แต่ตอนนั้นนายชวนไม่มั่นใจ ก็ไปถามศาลรัฐธรรมนูญ ศาลก็บอกว่าทำได้ ไม่ผิด แต่ทำไม นายนพดลไมได้ทำอะไรเลย ทำไมผิด อย่างนี้แสดงว่านายชวน นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ โชคดี แต่นายสมัคร นายนพดล โชคร้าย
นายสมัคร ยังได้ชี้แจงกรณ๊สินบนโครงการอุโมงค์ระบายน้ำว่า เรื่องนี้ตนจำชื่อบริษัทไม่ได้เพราะชื่อไม่คุ้น แต่ไม่มีอะไรมาก แค่คนญี่ปุ่นทำงานหาย 400 ล้านเยนแล้วถูกจับได้ ก็อ้างว่าเอาเงินมาให้ กทม. ซึ่งถ้าคนญี่ปุ่นไม่โง่ก็น่าจะรู้ว่า โครงการนี้ไมได้ใช้เงินเยน แต่ใช้เงินไทย แล้วจะเอาเงินเยนมาให้ได้ยังไง ส่วนที่อ้างว่า 2 ส. 1 ธ. รัยเงินนั้น ก็เป็นเรื่องที่คนไทยคิดขึ้นเอง ญี่ป่นไม่ได้บอก
นายสมัครอ้างว่า โครงการนี้ตอนเริ่มทำ บริษัทสี่แสงการโยกธา เคยยื่นฟ้อง กทม. กล่าวหาว่ามีการฮั้ว แต่ กทม.ก็ชนะคดีมาแล้ว และในการประมูล มี 3 บริษํทเสนอราคาแข่งกัน บริษัทที่ได้ก็วงเงิน 2,155 ล้านบาท จากราคากลาง 2,178 ล้าน และยังต่อรองราคาลงมาได้อีก 83 ล้าน ถ้ามีการโกงจะต่อรอราคาลงมาทำไม
"ถ้าบ้านเมืองนี้จะวายวอดเพราะไอ้บ้าทีไหนพูดจาไม่มีหูรูด ก็ลองว่ากันไป ทุกอย่างเขาตรวจสอบแล้ว ที่มีฟ้องคดี กทม.ชนะคดี ส่วนโปร่งใสไม่โปร่งใส ผมไม่รู้ ใครจะไปรับอะไร ชื่อบริษัทอะไรผมไม่รู้ ไม่มีวันจำได้หรอก ใครจะมาพูดกระทบกระแทก ที่ผมอยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะเป็นอย่างนี้ เรื่องที่ทิ้งขยะ 9 พันล้านก็คุ้ยกันเถอะครับ"
นายสมัคร ยังได้อวดอ้างถึงผลงานการเจรจาเพื่อซื้อน้ำมันดีเซลราคาถูกจากรัสเซียเข้ามาจำหน่ายในไทย ซึ่งเพิ่งเจราเสร็จเมื่อวาน โดยจะนำเข้ามาได้ในอีก 60 วันข้างหน้า เป็นน้ำมันดีเซลคุณภาพต่ำว่าที่ใช้อยู่ในไทยปัจจุบัน และเป็นมาตรฐานน้ำมันดีเซลไทยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จะขายราคาถูกกว่าท้องตลาดลิตรละ 8 บาท ผู้ที่จะซื้อได้ต้องเป็นสหกรณ์เท่าน้น
รวมทั้งยัง บอกว่า วันอังคารที่ 15 ก.ค.นี้ จะแถลงถึงโครงการช่วยบเหลือประชาชน ร่วมกับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แต่ไม่รู้ว่า วันจันทร์ จะถูกสั่งให้หยุดทำหน้าที่ก่อนหรือไม่
นายสมัครยังกล่าวทิ้งท้ายว่า หากจะให้สุขภาพจิตดีต้องเลิกอ่านหนังสือพิมพ์ และเลือกดูโทรทัศน์บางช่อง และขอไม่ไว้วางใจสื่อมวลชน
การจัดรายการวันนี้ นายสมัครมีท่าทีลุกลี้ลุกลนชี้แจงออกรายการสนทนาประสาสมัครอย่างเห็นได้ชัด โดยกล่าวตอบโต้ประเด็นร้อน ที่ถือเป็นมรสุมรุมเร้ารัฐบาลในทุกเรื่อง และได้ใช้เวลาชี้แจงนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ทั้งที่ปกติจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และยืนยันว่าจะกลับมาจัดรายการอีกในสัปดาห์หน้า