xs
xsm
sm
md
lg

มวลชน ตอ.สุดช้ำ “ปราสาทพระวิหาร” ตกเป็นของเขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พันธมิตร พัทยา -ชลบุรี
ศูนย์ข่าวศรีราชา - พลังมวลชนภาคตะวันออกสุดแสนเสียดาย “ปราสาทพระวิหาร” ตกเป็นทรัพย์สินของประเทศกัมพูชาตามที่ยูเนสโกมีมติ ชี้คณะเจรจราโดย “ปองพล-นพเหล่” ต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสีย

นายณัฐวุฒิ เชษฐวงค์รัตน์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เผยถึงทัศนะกรณีที่คณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโกมีมติขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาแล้ว จากการประชุมครั้งที่ 32 ในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญามรดกโลก ที่เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.ของวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย

แต่การขึ้นทะเบียนดังกล่าวจะไม่ทำให้ไทยเสียดินแดน เพราะตามแผนที่แนบท้ายในการแถลงการณ์ร่วมที่ไทยและตกลงกันไว้ไว้ว่าจะขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น ไม่รวมถึงพื้นที่รอบนอกตัวปราสาทว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นนับเป็นความสูญเสียของประเทศชาติครั้งใหญ่ เนื่องด้วยรัฐบาลชุดนี้ไม่ดำเนินการต่อสู้เพื่อสมบัติของประเทศอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ หลังจากยูเนสโกได้มีมติเป็นเอกฉันท์แล้ว คนไทยคงหวังจะเอาปราสาทพระวิหารคืนกลับมาไม่ได้อีกเป็นแน่ และในไม่ช้าคงต้องสูญเสียแผ่นดินไทยที่เป็นพื้นที่รอบข้างตัวปราสาทไปอีกอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลกัมพูชาดูแล้วมีความแน่วแน่และตั้งใจที่จะรักษาทั้งหมดไว้ให้เป็นสมบัติของชาติเขามากกว่ารัฐบาลไทย

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม พธม.ปราจีนบุรี ได้มีการพูดคุยถึงแนวทางการต่อสู้เพื่อที่จะให้ได้ปราสาทเขาพระวิหารกลับคืนมาทั้งหมด แต่ดูแล้วความหวังค่อนข้างที่จะไม่ชัดเจน และไม่เห็นแววในการได้กลับคืนมาอีกแล้ว เพราะยูเนสโกได้มีมติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ต้องเอารัฐบาลชุดนี้ออกก่อนมีการยุบสภา หรือที่หลายคนตั้งความหวังไว้ว่าอีก 6 เดือนนั้น คงไม่มีความจำเป็นอีกแล้ว น่าจะเอาออกภายในสิ้นเดือนนี้

ส่วนเรื่องของจะหาทางเอาออกอย่างไรนั้น คงต้องพึ่งพาแกนนำ พธม.ให้หาทางกำจัดรัฐบาลขายชาติออกอย่างรวดเร็ว เพราะขืนยังปล่อยให้บริหารประเทศอยู่อย่างนี้ประเทศชาติคงถูกรังแกอีกไม่น้อย

ด้าน นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก จ.ระยอง ให้ความคิดเห็นกรณีดังกล่าวด้วยว่า ทางยูเนสโกคงได้ข้อมูลที่ผิดพลาด เพราะเป็นการนำเสนอข้อมูลจากคณะเจรจาของรัฐบาลไทย ซึ่งนำโดยนายปองพล อดิเรกสาร ประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทย และนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ทั้งนี้ ต้องรอฟังคำสั่งของศาลปกครองว่าจะออกมาในรูปแบบใด แต่อย่างไรก็ตาม ทางผู้เกี่ยวข้องคือผู้ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับปราสาทพระวิหารทั้งหมดออกมาให้ข้อมูลว่าเรื่องการรายงานข้อมูลดังกล่าวมีผลสืบเนื่องมาจากรัฐบาลชุดก่อนหน้ามีการดำเนินการมาก่อนนั้น ต้องออกมาแสดงสปิริตความรับผิดชอบต่อความสูญเสีย เพราะเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และความผิดพลาดเรื่องการรายงานข้อมูล ทำให้ยูเนสโกมีความเข้าใจคาดเคลื่อนจนมีมติให้กัมพูชาได้ตัวปราสาทพระวิหารทั้งหมดไปครองในที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยทั้งชาติต่างผิดหวังไปตามๆ กัน

ด้าน นายกิตติ โตวิวัธ ประชาชนจังหวัดชลบุรี กล่าวถึงกรณีพระวิหารตกเป็นมรดกโลกของประเทศกัมพูชานั้น ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อคนไทยและประเทศไทย และเป็นไปไม่ได้ที่จะตกเป็นของกัมพูชา เพราะทางขึ้นสู่พระวิหารก็อยู่ฝั่งประเทศไทย และยิ่งเป็นไม่ได้ใหญ่ ที่การก่อสร้างจะต้องปีนหน้าผาทำ ดังนั้น ประเทศไทยต้องมีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแลพระวิหารด้วยถึงจะถูกต้อง

“ผมรู้สึกว่าเราเสียแผ่นดินของเราไป และเราเสียง่ายอย่างนี้โดยไม่มีการต่อต้านหรือทำอะไรกันบ้าง ในอนาคตก็จะต้องเสียพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยไปอีก และก็จะมีพื้นที่อื่นๆ เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน” นายกิตติ กล่าว

นายกิตติ กว่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทางรัฐบาลควรต้องออกมารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น และประชาชนชาวไทยไม่ควรยอมและต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุดถึงการเสียดินแดนในส่วนนี้ไป เพราะที่ผ่านมามีนักวิชาการผู้ที่มีความรู้ความสามารถออกมาเตือนแล้ว แต่รัฐบาลและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องยังนิ่งนอนใจและไม่ดำเนินการอะไรอย่างจริงจัง จนมีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจนได้และต้องเสียใจอยู่ในขณะนี้

ด้าน นางสาวหลี ธาราศักดิ์ แม่ค้าในตลาดศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล่าวถึงปัญหาดังกล่าวนั้นทางรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นากรัฐมนตรี ทราบปัญหาดีว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคตต่อพระวิหาร แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่รับผิดชอบเซ็นชื่อยินยอมให้เขาไปถึง 3-4 คน และเมื่อเร็วๆ นี้ มีเทปของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาพูดถึงการทวงพระวิหารคืน ซึ่งหากไม่รักประเทศไทยแล้วเทปดังกล่าวจะออกมาเผยแพร่ได้อย่างไร

ที่ผ่านมานายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกมายืนยันว่าถ้าเขาพระวิหาร ตกเป็นของประเทศกัมพูชา ตนจะยอมตัดหัวตัวเอง และขณะนี้เขาพระวิหารเสียไปแล้วจะยอมตัดได้หรือยัง หรือจะให้ใครตัดหัวให้ โดยขอให้ออกมายืนยันให้ชัดเจนด้วยว่าจะดำเนินการกับตัวเองอย่างไรต่อไป

นายเกรียงศักดิ์ องอาจ นักธุรกิจจังหวัดชลบุรี กล่าวถึงกรณีพระวิหารที่เกิดปัญหาขณะนี้ว่า ตนติดตามข่าวสารมาโดยตลอด โดยมีนักวิชาการและผู้ที่มีความรู้ความสามารถออกมาคัดค้านและต่อต้าน เพื่อไม่ให้ตกเป็นของฝ่ายกัมพูชาประเทศเดียว แต่ขณะนี้ก็ตกเป็นมกดกโลกของประเทศกัมพูชาแล้ว และรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

ขอฝากถึงประชาชนคนไทยทุกคนให้จดจำกรณีนี้เป็นบทเรียนว่า โดยปล่อยให้นักการเมืองที่ไม่มีคุณภาพหรือนักการเมืองที่ซื้อสิทธิขายเสียงมาบริหารประเทศ และผลที่เกิดขึ้นให้เห็นขณะนี้แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้นักการเมืองไม่มีคุณภาพเข้ามาครอบครองบ้านเมืองอีกต่อไป

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวถึงนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั้น เป็นเพียงคนรับใช้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้นเอง ดังนั้น การกระทำอะไรต่างๆก็ทำเพื่อทักษิณ และถือว่าเป็นคนที่ไม่มีคุณค่าอะไรเลยที่สำคัญกฎหมายควรจะต้องศักดิ์สิทธิ์ และต้องนำนักการเมืองที่ไม่ดีมาลงโทษให้ได้
นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก จ.ระยอง
นายกิตติ  โตวิวัธ  ประชาชนจังหวัดชลบุรี
นายเกรียงศักดิ์  องอาจ นักธุรกิจจังหวัดชลบุรี
นางสาวหลี  ธาราศักดิ์  แม่ค้าในตลาดศรีราชา จังหวัดชลบุรี
กำลังโหลดความคิดเห็น